หลังจากที่มิตซูบิชิ ประเทศไทย ได้สานต่อความสำเร็จของรถ Mini MPV แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ด้วยการเปิดตัว Mitsubishi Xpander เวอร์ชั่นปี 2022 เมื่อเมษายนปี 2565 ที่ผ่านมา โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายในรุ่น 1.5 GLS-Ltd CVT อยู่ที่ 799,000 บาท ขณะที่ในรุ่น 1.5 GT CVT มีราคา 895,000 บาท
ล่าสุดทาง Mitsubishi ประเทศไทย เตรียมตอกย้ำความเป็นผู้นำของรถในประเภทนี้ด้วยการเตรียมเปิดตัว Mitsubishi Xpander Cross รุ่น Minorchange ใหม่ที่จะมาพร้อมชุดแต่งที่เน้นภาพลักษณ์ในสไตล์ออฟโรดมากขึ้น ที่ดูแตกต่างจาก Mitsubishi Xpander ในเวอร์ชั่นปกติรวมถึงปรับเพิ่มเสริมออปชั่นความสะดวกสบาย
โดย Mitsubishi Xpander Cross รุ่น Minorchange ใหม่นี้จะได้รับการเปิดตัวในเมืองไทยช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ โดยเป็นการนำเข้ามาทั้งคันจากประเทศอินโดนีเซีย
ในด้านรูปลักษณ์ใหม่ของ Mitsubishi Xpander Cross Minorchange 2023 ด้านหน้ายังคงมากับดีไซน์แบบ Advanced Dynamic Shield แต่ในขณะที่ส่วนกระจังหน้าปรับดีไซน์ใหม่ให้เป็นเฉพาะรุ่น Cross ดูมีความคล้ายกับกระจังหน้าของ Triton ที่ดูเป็นทรงสี่เหลี่ยมมากขึ้น โดยใน Mitsubishi Xpander ในเวอร์ชั่นธรรมดาจะเป็นรูปตัว X ด้านดีไซน์ในส่วนด้านบนจะเป็นมุมแหลมเสียบรับกับชุดไฟ DRL ที่เป็นแบบ LED ดีไซน์เรียวยาว พร้อมกับด้านในออกแบบให้เป็นลวยลายรังผึ้งขนาดใหญ่
ส่วนชุดไฟส่องสว่างเป็น LED โปรเจ็กเตอร์ ที่เรียงยาว 3 ดวง อยู่ด้านใน โคมรูปทรงตัว T เหมือนกับเวอร์ชั่นปกติกันชนหน้าเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มาพร้อมช่องดักอากาศทรงเรียวยาวหลายชั้น พร้อมกับติดตั้งการืดกันกระแทกที่เป็นสีโครเมียม รวมถึงยังเปลี่ยนชุดไฟตัดหมอกจากเดิมที่เป็นดงกลมมาเป็นแบบทรงสี่เหลี่ยมแบบใหม่ พร้อมย้ายตำแหน่งให้มาอยู่ปลายกันชนหน้า รวมถึงตำแหน่งป้ายทะเบียนเปลี่ยนจากที่อยู่ด้านล่างของกันชนหน้ามาอยู่ใกล้กับกระจังหน้าแทน
ส่วนด้านข้างตัวรถยังคงดีไซน์เส้นสายแบบเดิมดูเฉียบคม เพิ่มเติมด้วยการ์ดกันกระแทกข้างประตูที่ตกแต่งด้วยชิ้นงานโครเมียม รวมถึงในส่วนซุ้มล้อเสริมความบึกบึนและดูสปอร์ตด้วยขอบซุ้มล้อสีดำ รับกับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วนบนหลังคาติดตั้งราวแล็คหลังคาสีดำที่เพิ่มภาพลักษณ์ของรถออฟโรดเอนกประสงค์
ด้านท้ายรถเป็นอีกจุดที่ถูกปรับดีไซน์ใหม่ โดยเฉพาะในส่วนกันชนท้ายที่เป็นสีดำขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยการ์ดกันกระแทกด้านท้ายเหมือนกับในส่วนด้านหน้า ชุดไฟทับทิมจากเดิมที่เป็นแนวตั้งเปลี่ยนมาเป็นแนวนอน วางอยู่ที่ปลายกันชนหลัง ขณะที่ชุดไฟท้าย LED ยังคงเดิมที่เป็นรูปตัว L ในรุ่นก่อนการปรับโฉม กันชนหลังได้รับการแก้ไขเช่นกัน โดยมีแผ่นสะท้อนแสงแนวนอนแบบใหม่มาแทนที่ชุดแนวตั้งจากเมื่อก่อน
ถึงแม้การปรับเปลี่ยนของ Xpander Cross จะดูเป็นรถสายลุยมากขึ้นด้วยชุดแต่งที่เพิ่มจากเดิม แต่ในด้านความสูงจากพื้นยังคงเท่ากับในรุ่นปกติที่มีโดยมี Ground Clearance โดยจะมีความสูงจากพื้นอยู่ที่ 220 มม. รวมถึงความยาวของตัวรถที่ยาว 4,595 มม.แต่ในด้านความกว้างจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่1,790 มม. เพิ่มขึ้นจากรุ่นมาตรฐาน 40 มม.
ภายในห้องโดยสาร ยังคงสามารถรองรับผู้โดยสารได้สุงุสุด 7 ที่นั่ง แผงแดชบอร์ดมาพร้อมหน้าปัดดิจิตอลแสดงข้อมูลดีไซน์ใหม่ขนาด 8 นิ้ว และหน้าจอหน้าอินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัว เชื่อมต่อสมาร์ตโฟน พร้อมกับดีไซน์ช่องแอร์ด้านหน้าดีไซน์ใหม่ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เช่นเดียวกับพวงมาลัยมิลติฟังก์ชัน ที่ปรับดีไซน์ใหม่แบบสี่ก้านขนาดใหญ่ ดูคล้ายกับของ Triton เบาะที่นั่งจะหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ สีน้ำเงิน – ดำ พร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน Heat Guard มาพร้อมที่วางแก้วที่ที่พักแขนด้านหลัง รวมช่องต่อ USB Type-A และ Type-C, เพิ่มที่วางแก้วบริเวณที่พักแขน
สำหรับแถวที่สอง นอกจากนั้นยังเพิ่มที่ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย ที่วางหน้าคันเกียร์, ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
ในด้านพละกำลังใต้ยังคงมากับขุมพลังเครื่องยนต์ MIVEC 4สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 4A91 ให้กำลัง 105 แรงม้า (PS) แรงบิด 141 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังคู่ล้อหน้าด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
สำหรับระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะได้รับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, กล้องมองภาพรอบคัน Multi Around Monitor, ระบบควบคุมและกระจายแรงบิดขณะเข้าโค้ง Active Yaw Control, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก, ระบบกระจายแรงเบรก, ระบบเสริมแรงเบรก
ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Brake Auto Hold, ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ เป็นต้น
Mitsubishi Xpander Cross Minorchange รุ่นโฉมใหม่นี้ พร้อมเปิดตัวในตลาดเมืองไทย ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ ขณะที่สนนราคาคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นจาก Mitsubishi Xpander Cross เวอร์ชั่นปัจจุบันที่มีราคาอยุ่ที่ 939,000 บาท คาดจะมีราคาอยู่ที่ราว 9.5 – 9.6 แสนบาท
