NIO (นิโอ) แบรนด์ผู้รถยนต์ไฟฟ้า รายใหญ่จากประเทศจีน ได้เปิดตัว NIO ET9 2025 รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบซีดานระดับไฮเอนท์แบบ 4 ที่นั่ง ที่จัดเป็นรถรุ่นเรือธงตัวใหม่ของทางค่าย โดยมีให้ 4 รูปแบบ ดังนี้
- รุ่น BaaS (Battery as a Service) ราคา 660,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.1 ล้านบาท พร้อมค่าเช่าแบตเตอรี่รายเดือน 1,128 หยวน หรือราว ๆ 5,300 บาท
- รุ่นมาตรฐาน (รวมแบตเตอรี่) ราคา 788,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.68 ล้านบาท
- รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน (แบบ Battery as a Servic) ราคา 690,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.22 ล้านบาท*
- รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน (รวมแบตเตอรี่) ราคา 818,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.82 ล้านบาท
*รุ่นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันทั้งแบบ Battery as a Servic และรวมแบตเตอรี่จะมีเพียง 999 คันเท่านั้น
สำหรับ NIO ET9 มาพร้อมจุดเด่นจะเป็นซีดาน EV ที่มาในระดับไฮเอนท์เบาะแบบ 4 ที่นั่ง ที่อัดแน่นไปด้วยชุดอุปกรณ์อำนวยควสามสะดวกเสมือนนั่งอยู่บนเครื่องบินแบบเฟิร์สคลาส อีกทั้งยังมากับสถาปัตยกรรม 900V พ่วงด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้พละกำลังมากถึง 707 แรงม้า
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ตัวรถจะมีลักษณะที่คล้ายกับตัว EC7 รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบครอสโอเวอร์คูเป้ แต่ ET9 นั้นจะมีขนาดที่เล็กกว่า และมาในรูปแบบรถซีดานหลังคาแบบฟาสต์แบ็คสไตล์คูเป้
กระจังหน้าที่มาในแบบปิดทึบตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้า ชุดไฟ DRL แบบ LED Double-Dash ส่วนชุดไฟส่องสว่าง LED อยู่ในกรอบสีเหลี่ยมคางหมูสีดำที่อยู่ถัดลงมาด้านล่าง
ในด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ยังมาพร้อมกับ มือจับประตูแบบซ่อน กระจกหน้าต่างแบบไร้กรอบทั้ง 4 บาน, สปอยเลอร์หลังแบบแอ็กทีฟแบบยืดหดได้ และล้อขนาด 23 นิ้ว นอกจากนี้ NIO ET9 จะมากับฝากระโปรงหลังที่เปิด และปิดด้วยไฟฟ้าแบบไร้สัมผัส รวมทั้งยังมีพื้นที่เก็บของด้านหน้าที่มีความจุ 105 ลิตร โดยสามารถเปิดด้วยระบบไฟฟ้า
สำหรับขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 5,324 มม. ความกว้าง 2,016 มม. คาวมสูง 1,620 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 3,250 มม.
ภายในห้องโดยสารจะรองรับได้ 4 ที่นั่ง (2+2) งานออกแบบเน้นความหรูหราทันสมัย เพียบพร้อมไปด้วยชุดอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ดั่งเหมือนนั่งอยู่บนเครื่องบินระดับเฟิร์สคลาส เบาะที่นั่ง รวมถึงภายในห้องโดยสารทั้งหมดจะตกแต่งด้วยวัสดุหนัง Nappa และวัสดุลายไม้ ที่ผลิตมาจากไม้มะเดื่อ อีกทั้งตัวเบาะที่นั่งยังมาพร้อมกับระบบทำความร้อน และฟังก์ชันนวด 16 จุด
ด้านเบาะที่นั่งแถวหลังที่เป็นแบบ 2 ที่นั่ง เป็นแบบแยกส่วนในสไตล์เฟิร์สคลาส สามารถปรับมุมพนักพิงได้ 45 องศา และปรับเอนได้ 135 องศา ขณะที่ตัวเบาะที่นั่งจะมีความกว้างมากถึง 582 มม. หรือ 22.9 นิ้ว และเพื่อสัมผัสแห่งความหรูหรา รถยังมีม่านบังแดดไฟฟ้า 7 ชิ้นที่สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว นอกจากนั้นยังติดตั้งหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
อีกทั้งยังมากับหลังคาพาโนรามิก Sky Island และคอนโซลกลางแบบ Executive Bridge มาพร้อมถาดวางของแบบปรับได้ ด้านล่างมีตู้แช่ขนาด 10 ลิตร ที่สามารถปรับอุณหภูมิร้อน – เย็นได้ โดยปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -2 ถึง 55 องศาเซลเซียส รวมทั้งยังออกแบบให้มีช่องเก็บของระหว่างเบาะหลังทั้ง 2 ที่นั่ง
นอกจากนั้นยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ หน้าจอแบบแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้วที่วางอยู่ระหว่างที่นั่ง, หน้าจอ AMOLED แบบแท็บเล็ตขนาด 15.6 นิ้วบนคอนโซลกลาง, แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย 2 ช่อง และชั้นวางของที่สามารถยืด และพับได้
ด้านระบบความบันเทิง NIO ET9 จะได้รับการติดตั้งระบบเสียง LYRA 8.2.4.Nio8 พร้อมลำโพง 35 ตัว ที่ประกอบด้วยลำโพงเสียงรอบทิศทาง 8 ตัว ซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว ลำโพงหลังคา 4 ตัว และลำโพงที่พนักพิงศีรษะ 8 ตัว
ขณะที่ในส่วนของแผงแดชบอร์ด้านหน้าจะได้รับการติดตั้งหน้าจอ AMOLED แบบลอยตัวขนาด 15.6 นิ้ว และหน้าจอ “Skyline Screen” ขนาด 48 นิ้ว ที่มีความความละเอียดระดับ 5K และมีจอแสดงผล AR HUD
มาพร้อมระบบผู้ช่วย AI “NOMI” ซึ่งทำงานร่วมกับไมโครโฟนภายนอก 3 ตัว เพื่อให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ชาญฉลาด และโต้ตอบได้
นอกจากนั้นNio ET9 ซีดานไฟฟ้าตัวใหมยังได้ติดตั้งชิป ADAS ขนาด 5 นาโนเมตรที่ทาง NIO พัฒนาขึ้นเองที่เรียกว่า NX9031 ซึ่งทำงานร่วมกับ Qualcomm 8295 และสร้างแพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ NIO เรียกว่า ADAM 2.0 นอกจากนี้ยังมีระบบ Super Sensing รุ่นที่สอง Aquila 2.0 และห้องโดยสารทำงานโดยระบบปฏิบัติการ SkyOS ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานข้ามแพลตฟอร์ม ทั้งการขับขี่และการใช้งานในห้องโดยสาร ช่วยให้ประสิทธิภาพของระบบปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้น
ในด้านระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยี ET9 ติดตั้งเซ็นเซอร์ LiDAR 3 ตัว และใช้เรดาร์ถ่ายภาพ 4 มิติเป็นครั้งแรก มีเซ็นเซอร์ทั้งหมด 31 ตัว ทำงานร่วมกับ SkyOS
ET9 ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มเจเนอเรชันที่ 3 ของ NIO มาพร้อมสถาปัตยกรรม 900V ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในจีนที่ทำงานที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ 925V ที่ช่วยให้ชาร์จได้รวดเร็วด้วยกำลังสูงสุด 600kW และกระแสสูงสุด 765A โดยจะช่วยชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 120kWh ในเวลา 5 นาที ให้ระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 255 กม. และใช้เวลาในการเปลี่ยนแบตเตอรี่เพียง 3 นาทีเท่านั้น
ในด้านพละกำลังจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยด้านหน้าให้กำลัง 180 kW หรือ 241 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 340 kW หรือ 456 แรงม้า เมื่อรวมกันแล้วจะให้กำลังรวม 520 kW หรือ 707 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที จังคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทางสูงุสด 650 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC)
ด้านระบบช่วงล่างติดตั้งระบบ Sky Ride ซึ่งเป็นระบบแชสซีอัจฉริยะของ NIO ซึ่งประกอบด้วยแชสซีแบบขับเคลื่อนด้วยสายไฟ ระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังด้วยมุมสูงสุด 8.3 องศา นอกจากนี้ยังมีระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟเต็มรูปแบบ โดยโช้คอัพแต่ละตัวจะถูกควบคุมอย่างอิสระโดยปั๊มไฮดรอลิกเฉพาะ
โดยทางนิโอ วางแผนทางการตลาดให้ NIO ET9 ออกมาเป็นคู่แข่งกับทาง Mercedes-Benz EQS, Tesla Model S และ BMW i7 โดนตัวรถเตรียมพร้อมที่จะส่งมอบให่ลูกค้าในช่วงเดือนมีนาคม 2025 นี้