หลังจากที่ในงาน Nio Day 2024 เมื่อปลายปี 2024 ทาง Firefly แบรนด์รถใหม่ที่อยู่ในสังกัดชายคาของทาง NIO ได้เปิดให้ผู้สนใจชาวจีนได้จับจองล่วงหน้า NIO Firefly EV รถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่ ที่มาในรูปแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ขนาดกะทัดรัด
ล่าสุดทาง Firefly (แปลว่าหิ่งห้อย) ซึ่งเป็นแบรนด์ลำดับที่ 3 ของทางนีโอ ที่ต่อมาจากแบรนด์หลักอย่าง NIO และแบรนด์ย่อย Onvo ได้เปิดตัว Firefly EV รถตัวใหม่ของทางค่ายอย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยมีให้เลือก 2 รุ่น โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้
- Firefly Zizai ราคา 119,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.4 แสนบาท
- Firefly Faguang ราคา 125,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.67 แสนบาท
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ Firefly EV ตัวรถจะมาในรูปแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู รูปทรงเน้นความโค้งมนในทุกมิติ ด้านหน้าจะมากับฝากระโปรงหน้าแบบสั้น กระจังหน้าแบบปิดทึบคาดด้วยแถบสีดำตรงกลาง โดยมีชุดไฟทรงกลม 3 ดวง วางเรียงในทรงสามเหลี่ยมทั้ง 2 ฝั่ง มาพร้อมกันชนหน้าสีดำ โดยมีช่องดักอากาศขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง
เส้นสายด้านข้างมาในแบบราบเรียบ มือเปิดประตูมาในแบบซ่อน ด้านชุดล้ออัอลอยเป็นแบบทูโทนที่มาในลวยลายแบบ Aero Wheel เพื่อลดแรงต้านอากาศ นอกจากนั้นยังติดตั้งกล้องไว้ที่ขอบซุ้มล้อ
ตัวรถจะมาในแบบทูโทนหลังคาดำ อีกทั้ง’ในส่วนของเสา C ออกแบบให้มีขนาดใหญ่และมีความกว้างกว่าปกติ โดยดีไซน์ให้คาดพาดเต็มหลังคา
สำหรับเฉดสีตัวรถของ Firefly EV จะมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีม่วง Lavender, สีเขียวมะนาว Lime, สีเบจ Sand, สีขาว Marble และสีเทา Graphite
ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 4,003 มม. กว้าง 1,781 มม. สูง 1,557 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,615 มม. นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังเผยว่า Firefly EV นี้จะมีรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 4.7 เมตร ซึ่งเหมาะสำหรับถนน และซอยที่แคบ รวมทั้งยังจะรองรับการจอดรถในทุกสถานการณ์อีกด้วย
ภายในห้องโดยสารจะมากับดีไซน์แบบมินิมอล ที่เน้นความเรียบง่าย และทันสมัย มีให้เลือก 4 เฉดสีได้แก่ สีดำ Obsidian, สีเขียว Pine, สีแดง Plum และสีครีม Travertine
ในส่วนของแผงคอนโซลหน้าจะมีเพียงหน้าปัด LCD ขนาด 6 นิ้ว ที่ตั้งอยู่บนคอพวงมาลัย โดยตัวพวงมาลัยนั้นจะเป็นทรงรีแบบหัวตัวท้ายตัด มาพร้อมปุ่มควบคุมสั่งงานแบบทรงกลม นอกจากนั้นตรงกลางแผงแดชบอร์ดยังมาพร้อมกับหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 13.2 นิ้วที่มาในแบบแขวน
ด้านคอนโซลกลางออกแบบให้มีขนาดเล็ก และสั้น ซึ่งจะมีเพียงช่องวางแก้ว 1 ตำแหน่ง และช่วงวางของที่เป็นแบบแนวยาว ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่วางสมาร์ตโฟน
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับชุดเครื่องเสียงแบบ Dolby 7.1 พร้อมลำโพง 14 ตำแหน่ง, ชุดไฟ Ambient Light ส่องสว่างรอบทิศทาง 256 สี
ด้านเบาะที่นั่งในรุ่นท๊อปเบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันนวด
ถึงแม้ว่า Firefly จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก แต่ทางผู้ผลิตได้ดีไซน์ให้มีช่องเก็บของที่กระจายตามจุดต่างภายในห้องโดยสารที่มากถึง 27 ช่อง อีกทั้งพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังยังมีความจุมากถึง 335 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลงจะเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 1,250 ลิตร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บของใต้เบาะหลังด้านขวาที่มีความจุอีก 29 ลิตร รวมทั้งมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้าหรือ Front Trunk ที่มีความจุมากถึง 92 ลิตร
ในด้านระบบความปลอดภัยจากข้อมูลเบื้องต้ยเผยว่า Firefly EV ได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว (มาตรฐาน C-NCAP 2024) โดยโครงสร้างตัวถังของ Firefly EV ถูกทำขึ้นมาจากเหล็กกล้าแรงสูง 83.4% ส่งผลให้มีความแข็งแรงต่อแรงบิดสูงถึง 35,700 นิวตันเมตร/องศา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตามข้อมูลของ NIO นอกจากนี้ตัวรถยังมีถุงลมนิรภัยรอบคันมากถึง 9 ใบ รวมทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบ ADAS ที่มากถึง 15 รายการ รวมทั้งระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อน Firefly EV จะได้รัะบการติดตั้งมอเอตร์ไฟฟ้าตัวเดียวไว้ี่คู่ล้อหลังที่ให้กำลัง 105 kW (141 แรงม้า) ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 8.2 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดของตัวรถจะอยู่ที่ 150 กม./ชม.
จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 42.1 kWh ชาร์จไฟเต็มให้ระยะทางวิ่งไกลสุด 420 กม. (CLTC) มาพร้อมเทคโนโลยีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Battery as a Service (BaaS) โดยระบบนี้จะเปิดให้ใช้ได้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2025 นี้
สำหรับคู่แข่งในตลาดของ Firefly EV ก็จะเป็น Volkswagen ID.3, Ora 03 (Funky Cat), Lynk & Co Z20 โดยทางผู้ผลิตพร้อมส่งมอบรถได้ในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งนอกจะเปิดวางจำหน่ายในประเทศจีนแล้ว ทาง NIO ยังเตรียมที่จะส่งไปวางตลาดที่ในยุโรป ส่วนจะมีเข้ามาในบ้านเราที่ตลาดเมืองไทยด้วยหรือไม่นั้นต้องติดตามกันต่อไป