Porsche ปรับโฉมครั้งใหญ่บนตัว Cayenne รถสปอร์ต SUV รุ่นใหญ๋ของทางค่าย สำหรับการเปลี่ยนใหม่ของ Cayenne ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการปรับโฉมรถยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของปอร์เช่
ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมงานดีไซน์ใหม่ ผสานกับพร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เริ่มจากตัวถังด้านหน้าใหม่ และซุ้มล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยเพิ่มลุคให้ดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มาพร้อมฝากระโปรงหน้าใหม่ ที่เสริมให้มิติตัวรถดูกว้างขึ้น
มาพร้อมไฟหน้า Matrix LED อีกทั้งยังสามารถเลือกติดตั้งไฟหน้า HD Matrix LED เป็นอุปกรณ์เสริมพิเศษโดยไฟหน้าแบบใหม่นี้ควบคุมการทำงานด้วย high-definition modules 2 ตำแหน่ง ภายในโคมไฟหน้าประกอบไปด้วยหลอดไฟส่องสว่าง LED กว่า 32,000 พิกเซล ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยในการมองเห็นรถยนต์คันอื่น รวมทั้งป้องกันแสงสะท้อนจากไฟสูงของรถยนต์ที่วิ่งสวนทาง นอกจกานี้ตัวกล่องควบคุมสามารถปรับเปลี่ยนความสว่างได้มากกว่า 1,000 ระดับ
ด้านไฟท้ายดีไซน์แบบสามมิติ รูปทรงของท้ายรถที่ลื่นไหลอย่างต่อเนื่อง กันชนท้ายใหม่พร้อมพื้นที่ติดตั้งป้ายทะเบียนที่ดีไซน์ไว้อย่างลงตัว
ปอร์เช่ คาเยนน์ ใหม่ เพิ่มเติมเฉดสีตัวถังภายนอกให้เลือกถึง 3 เฉดสี พร้อมทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่าง ด้วยชุดแต่ง lightweight sports packages ที่สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 33 กิโลกรัม นอกจกานั้นยังมากับล้ออัลลอยด์ลายใหม่ที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 20, 21 ไปจนถึง 22 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอแสดงผล และระบบควบคุมการทำงานด้วยแนวคิดล่าสุด โดยเน้นการใช้งาน และความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ขับขี่ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง โดยเฉพาะฟังก์ชั่นที่ใช้งานเป็นประจำจะถูกติดตั้งไว้บนพวงมาลัยหรือตำแหน่งที่ใกล้เคียง
คอนโซลหน้าติดตั้งแผงหน้าปัดระบบดิจิทัลขนาด 12.6 นิ้ว ดีไซน์โค้งมนในแบบ free-standing มาพร้อมหน้าจอ HUD รวมถึงยังได้รับหน้าจอหลักขนาด 12.3 นิ้ว นอกจากนั้นยังมากับหน้าจอแสดงผลขนาด 10.9 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ที่สามารถรับชมรายการความบันเทิงต่าง ๆ ด้วยระบบควบคุมที่แยกเป็นอิสระ
นอกจากนั้นยังเพิ่มฟังก์ชั่นควบคุมการทำงานของระบบช่วยเหลือการขับขี่ บนปุ่มควบคุมบริเวณหลังพวงมาลัยฝั่งซ้ายมือ และย้ายตำแหน่งคันเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ ไปยังแผงคอนโซลหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณคอนโซลกลาง สามารถรองรับการเก็บสัมภาระต่างๆ รวมถึงการเพิ่มขนาด และความหรูหราให้กับแผงควบคุมระบบปรับอากาศที่มาในสไตล์พรีเมียมมากยิ่งขึ้น เสริมความแม่นยำใช้งานง่าย ด้วยการผสมผสานสวิทช์ระบบปรับอากาศแบบกลไก และปุ่มควบคุมระดับเสียงแบบสัมผัสที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย และภาพลักษณ์ภายในห้องโดยสารที่เรียบหรู
อีกทั้งทางปอร์เช่ยังได้ติดตั้งระบบฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงซึ่งติดตั้งเป็นมาตรฐาน โดยรถยนต์จะใช้การประเมินสภาพอากาศล่วงหน้าผ่านข้อมูลดาวเทียม predictive navigation data เพื่อตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านเข้ามาในห้องโดยสาร และสั่งการไปยังระบบหมุนเวียนอากาศแบบอัตโนมัติ
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะได้รับการติดตั้งระบบจำกัดความเร็วอัตโนมัติ Active Speed Limiter, ระบบควบคุมพวงมาลัย Swerve Assist และระบบช่วยเหลือขณะเข้าโค้ง Cornering Assist ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control, ระบบช่วยเหลือขณะจอด Park Assist ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง รวมทั้งกล้อง Surround View เป็นต้น
ขุมพลังของ Porsche Cayenne ใหม่จะได้รับการปรับใหม่ให้แรงขึ้น โดยเริ่มจากในรุ่น Cayenne S จะมากับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 4 ลิตร ให้พละกำลัง 474 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร มีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 34 แรงม้า และแรงบิดเพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร จากรุ่นก่อนหน้า มาพร้อม 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 273 กม./ชม.
ในส่วนของรุ่นเริ่มต้นของปอร์เช่ คาเยนน์ จะมากับเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ ขนาดความจุ 3 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 353 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร หรือกำลังเพิ่มขึ้น 13 แรงม้า และแรงบิดเพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร จากรุ่นก่อนหน้า
นอกจากนี้เครื่องยนต์ 6 สูบดังกล่าวยังถูกนำมาประจำการเป็นขุมพลังในรุ่น Cayenne E-Hybrid โดยจะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ให้พละกำลังเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมถึง 30 กิโลวัตต์ เป็น 130 กิโลวัตต์ หรือราว 176 แรงม้า ส่งผลให้พละกำลังที่ได้จากทั้ง 2 ระบบอยู่ที่ 470 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ high-voltage ความจุพลังงานเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 17.9 kWh – 25.9 kWh สามารถเดินทางด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางสูงสุดถึง 90 กม. ตามมาตรฐาน WLTP มาพร้อมระบบ On-Board Charger ใหม่ล่าสุดขนาด 11 kW ที่ชาร์จไฟเต็มในเวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที
ส่วนในรุ่น Turbo GT จะมากับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 4 ลิตร ให้กำลัง 659 แรงม้า เพิ่มขึ้น 19 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 3.3 วินาที มาพร้อมความเร็วสูงสุดที่ 305 กม./ชม.
ด้านกันสะเทือนช่วงล่าง ได้รับการติดตั้งระบบ Adaptive air suspension มาพร้อมระบบควบคุมการทำงานของช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management (PASM) และระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติใหม่ล่าสุด
ด้านราคาจำหน่ายของ Porsche Cayenne ใหม่
- Porsche Cayenne ราคาเริ่มต้น 7.95 ล้านบาท
- Porsche Cayenne รุ่นตัวถังคูเป้ ราคาเริ่มต้น 8.25 ล้านบาท
- Porsche Cayenne E-Hybrid ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท
- Porsche Cayenne E-Hybrid รุ่นตัวถังคูเป้ ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท
- Porsche Cayenne S ราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านบาท
- Porsche Cayenne S รุ่นตัวถังคูเป้ ราคาเริ่มต้น 10.8 ล้านบาท
Porsche Cayenne ใหม่ เปิดรับจองแล้ววันนี้ และจะเริ่มทยอยส่งมอบในทวีปยุโรปช่วงเดือน ก.ค. 2566 เป็นต้นไป สำหรับตลาดในประเทศไทยจะเริ่มส่งมอบในช่วงเดือน ต.ค. นี้