in , ,

เปิดตัว Porsche Vision 357 Speedster สปอร์ตไฟฟ้าเปิดประทุนพื้นฐานจาก 718 GT4 e-Performance

Porsche Vision 357 Speedster เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Goodwood Festival of Speed

Porsche Vision 357 Speedster

Porsche ฉลองครบรอบ 30 ปีของเทศกาล Goodwood Festival of Speed อันเลื่องชื่อด้วยการเปิดตัว รถแนวคิดใหม่ Porsche Vision 357 Speedster ถือเป็นตัวน้องของรุ่น Porsche Vision 357 ที่ยุติการผลิตไปแล้ว

ซึ่งผู้ผลิตรถสปอร์ตปอร์เช่ได้ทำการเปิดตัวในวาระฉลองครบรอบปีของแบรนด์ ในแง่ของการออกแบบยังคงให้ความสำคัญกับรุ่น 356 สำหรับในทางเทคโนโลยีแล้ว Porsche Vision 357 Speedster ที่ใช้ไฟฟ้าล้วนมีพื้นฐานมาจาก 718 GT4 e-Performance

Porsche Vision 357 Speedster

Porsche Vision 357 เป็นสัญลักษณ์ และเครื่องยืนยันถึงความเป็นรถปอร์เช่รุ่นแรก และยังเป็นรถสปอร์ตในฝันของ Ferry Porsche อีกด้วย สำหรับรุ่น 356 ได้กลายเป็นความทรงจำของแบรนด์ ในฐานะรถเปิดประทุนและรถคูเป้ ที่ถูกสรรสร้างมาจากตรรกะแนวคิดสองรูปแบบ และ Porsche Vision 357 Speedster ยังสะท้อนถึงแก่นแท้ของแบรนด์ เช่นเดียวกับ Mission X ที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้

Porsche Vision 357 Speedster

สำหรับ Vision 357 Speedster ใช้เทคโนโลยีของ Porsche 718 GT4 e-performance ดังนั้นมอเตอร์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงมาจาก Mission R และโครงตัวถังจาก 718 GT4 Clubsport หลังจากเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่งาน Goodwood Festival of Speed จะมีการนำเสนอแนวคิดการออกแบบที่งาน Rennsport Reunion ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงปลายเดือนกันยายนปีนี้

Porsche Vision 357 Speedster

รถแนวคิดที่มาพร้อมกระจกบังลมแบบหมอบโค้งและสั้นลงตามแบบฉบับของรถสปีดสเตอร์  ให้ความสำคัญกับตัวถังขนาดใหญ่ของรถมากยิ่งขึ้น เมื่อมองไปทางด้านขวาจะเป็นที่ครอบแบบ tonneau ซึ่งครั้งหนึ่งเคยพบในรถสปอร์ตแบบเปิดประทุน พนักพิงศีรษะของผู้ขับขี่ดูเหมือนลอยอยู่ในอากาศเนื่องจากการออกแบบองค์ประกอบคาร์บอนที่อยู่เบื้องหลัง ด้านหลังคือประตูพอร์ตชาร์จและจุดยึดสำหรับรถสปีดสเตอร์สุดคลาสสิค

Porsche Vision 357 Speedster

แนวคิดทูโทนที่ประกอบด้วยสีเทา 2 เฉดสี Marble Grey และ Grivelo Grey Metallic ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้บุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ตในประวัติศาสตร์ เช่น บังโคลนหน้าที่ใช้เพื่อป้องกันหินปลิวในสถานการณ์การแข่งขัน และปีกด้านหน้าซึ่งมีสีเมทัลลิกเข้มกว่า ล้อหน้าเป็นสีเทา Grivelo Grey Metallic เสริมด้วยสี Miami Blue ที่ตัดกัน มีให้เห็นได้บริเวณกลไกเปิดที่ฝากระโปรงหน้า

โลโก้ฉลองครบรอบปีที่มีเลข “75” ขนาดใหญ่และระบุเลขปี “1948” และ “2023” มีสีเทา Grivelo Grey Metallic และสีฟ้า Miami Blue ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับองค์ประกอบการตกแต่งของ coupé Vision 357 ซึ่งใช้สีแดงเป็นสีเพิ่มเติมความสมบูรณ์แบบ ด้านหน้าของล้อหลังมีภาพยูนิคอร์นสไตล์การ์ตูนปรากฏอยู่ ซึ่งสิ่งมีชีวิตในตำนานนี้ถูกวาดขึ้นมาสำหรับรถต้นแบบโดยเฉพาะจากฝีมือนักออกแบบของ Porsche ซึ่งรวมถึงโลโก้ “Speedster” ที่ดูดุดันอีกด้วย กระจกมองข้างถูกแทนที่ด้วยกล้อง

Porsche Vision 357 Speedster

รายละเอียดอื่นๆ ของการออกแบบภายนอกนั้น จะรู้สึกคุ้นเคยและทำให้นึกถึงรถแนวคิดรุ่นเดียวกัน ไฟส่องสว่าง 4 จุดที่ด้านหน้ามีการออกแบบทรงกลมที่ชวนให้นึกถึง Porsche 356 ไฟท้ายด้านหลังแฝงอยู่ในตัวรถ การยกย่องอีกประการหนึ่งสำหรับรถปอร์เช่รุ่นแรกคือรูปแบบแถบกริลแนวตั้งที่ด้านหลัง และไฟเบรกดวงที่สามรวมอยู่ในการออกแบบแถบกริล

ล้อขนาด 20 นิ้วทำจากแมกนีเซียม และติดตั้งฝาครอบดุมล้อคาร์บอนไฟเบอร์และเซ็นทรัลล็อค พวกเขายังระลึกถึงล้อปอร์เช่ในตำนาน 356 A และ 356 B

Porsche Vision 357 Speedster

ภายในถูกลดทอนให้เหลือเพียงส่วนที่จำเป็น และปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ขับขี่อย่างเต็มที่ ตำแหน่งเบาะนั่งแบบปรับเอนต่ำ ได้อารมณ์สปอร์ตอย่างแท้จริง ที่นั่ง CFRP รวมอยู่ใน monocoque ผู้ขับขี่จะนั่งบนแผ่นรองที่หุ้มด้วย Racetex และยึดให้เข้าที่อย่างแน่นหนาด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด พร้อมสายคาดเข็มขัดสีฟ้า Miami Blue แผงหน้าปัดตั้งอยู่บนคอพวงมาลัยเป็นพื้นผิวโปร่งใส พวงมาลัยแบบรถแข่งแสดงให้เห็นถึงความเบา ในขณะที่ตัวดูดซับแรงกระแทกจะดูเหมือนถูกระงับไป และมีการควบคุมให้การดีไซน์เหมือนแยกส่วนกัน แต่ก็กลับใช้สีฟ้า Miami Blue ที่เชื่อมมาจากภายนอก

ส่วนประกอบจอแสดงผลทั้งหมดเสริมโครงสร้างด้วยคาร์บอน และเพื่อเป็นตัวเลือกให้ความโดดเด่นกับบริเวณช่องเก็บของระหว่างกลาง (glove compartment) สามารถเลือกสายรัดสีฟ้า Miami Blue ได้ สำหรับสายรัดแบบผ้าธรรมดามาอยู่แทนที่มือจับประตู จากรายละเอียดนี้เพื่อช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ

Porsche Vision 357 Speedster

Vision 357 เป็นไฮไลท์ของปอร์เช่ที่งาน Goodwood ก็จริง แต่มันก็อาจจะยังห่างไกลจากคำว่า แรร์ไอเท็ม หากแบ่งตามระดับความหายากของรถที่ออกมาจากโรงงานผู้ผลิตรถสปอร์ต และที่จะนำมาอยู่ในงานนี้ ปอร์เช่เตรียมนำรถยนต์รุ่นใหม่และรุ่นคลาสสิคกว่า 15 รุ่น มาสู่ West Sussex จัดขบวนพาเหรดพิเศษของรถปอร์เช่ขึ้นไปบนเนินเขาที่มีชื่อเสียง วันละ 2 ครั้ง ณ เทศกาลแห่งความเร็ว (Festival of Speed)

นำโดย 356 No. 1 Roadster ตามมาด้วย 928 “Trigema” เวอร์ชันการแข่งขันจากปี 1983, Cayenne Transsyberia, 959, 911 Turbo S (รุ่นตัวถัง 993) และ 911 Carrera S (รุ่นตัวถัง 991) คันนี้มีความพิเศษสุดเพราะคือลำดับคันที่ 1 ล้านที่ผลิตขึ้นนับตั้งแต่การถือกำเนิดของรถสปอร์ตรุ่นไอคอนในปี 1963