in , , ,

รีวิว Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic 2023 ซีดานหรูขนาดเล็ก ปรับใหม่หลายจุด แต่ดีเกินคาด

ลองขับ Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic 2023 รถซีดานหรูไซซ์เล็ก ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ในหลายๆ จุด ทั้งรูปลักษณ์ ออปชั่น รวมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัย มาพร้อมขุมพลังเล็ก แต่แรงเร้าใจ

Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic

หลังจากที่ Mercedes-Benz A200 รถซีดานขนาดเล็กของค่ายตราดาว ทำตลาดในไทยได้มาตั้งแต่ปี 2019 ล่าสุดทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ได้ปรับโฉม และปรับปรุงอุปกรณ์ใช้งานของ Compact Car รุ่นนี้ให้เพิ่มมากขึ้น โดยยังคงมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียวเช่นเดิมคือ A200 AMG Dynamic 2023 ที่มาพร้อมกับราคาค่าตัวที่ 2,320,000 บาท

ซึ่งหลังจากการเปิดตัวแบบฉับไวในรุ่นปรับปรุงใหม่นี้ทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ได้เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมการทดสอบโดยทันที ซึ่งทางทีมงาน Autostation.com ก็ได้รับเกีบรติให้ร่วมเป้นส่วนหนึ่งในการทดลองขับครั้งนี้ ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมออปชั่นของ Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic 2023 จะมีอะไรบ้างนั้น รวมทั้งการขับขี่ยังคงเร้าใจเหมือนกับในรุ่นที่ผ่านมาหรือไม่ เราไปดูกัน 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ดีไซน์ภายนอกเรียกว่าเป็น Baby CLS

สำหรับ A 200 AMG Dynamic เป็นรถยนต์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Entry Luxury ภายใต้แนวคิด “CLASS FOR EVERY DAY” ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่กับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องการความคล่องตัว โดยในเรื่องรูปลักษณ์หน้าตานั้นแถบจะถูกเรียกว่า Baby CLS เพราะได้ถูกถอดแบบมาจากรุ่นพี่เกือบยกชุด 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ดีไซน์รูปทรงโดยรวมมีวคามใกล้เคียงกับรุ่นก่อนปรับโฉม แต่มีการปรับปรุงในหลายส่วน ชุดไฟหน้าทรงเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนการจัดวางของหลอดไฟ LED ด้านใหม่ ที่มาพร้อมระบบไฟหน้าใหม่แบบ LED High-Performance ดีไซน์รูปแบบการแสดงแสงไฟหน้าใหม่แบบ reflection technology พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist 

A-200-AMG-Dynamic_

A-200-AMG-Dynamic_

รวมถึงในส่วนของกระจังหน้าที่มาในทรงเดิม แต่ได้รับการปรับเปลี่ยน ลวยลายด้านในใหม่เป็นแบบ Star pattern radiator grille ที่สะท้อนแสงเป็นแบบดาว 3 แฉก นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรูปทรงของกันชนหน้าใหม่เป็นแบบ AMG Bodystyle ทรงใหม่ ที่ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม  อีกทั้งในส่วนฝากระโปรงหน้าปรับเปลี่ยนจากฝากระโปรงทรงเรียบมาเป็นแบบ Power Domes ที่เหมือนกับในตัว CLS

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ส่วนล้ออัลลอยด์ยังคงยึดวลวยลฃายเดิมที่เป็นแบบสปอร์ต AMG 5-twin-spoke แต่เปลี่ยนจากขอบสีเทาเป็นขอบสีดำ ขนาดยังคงเดิมที่ 18 นิ้ว มาพร้อมยาง Continental EcoContact 6 ขนาด 225/45 R18

A-200-AMG-Dynamic_

ขณะที่ด้านท้ายมีการปรับปรุงเล็กน้อย ไฟท้ายทรงเดิม แต่เปลี่ยนการจัดวางไฟแอลอีดีใหม่ และเปลี่ยนรูปทรงของด้านล่างกันชนท้าย

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO รวมถึงระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงหลังด้วยแบบ Hand Free เพียงมีกุญแจอยู่ใกล้ตัวผู้ใช้งาน และกวาดเท้าให้ตรงกับจุดเซนเซอร์ ก็สามารถเปิดประตูด้านท้ายได้โดยไม่ต้องสัมผัสตัวรถแต่อย่างใด 

A-200-AMG-Dynamic_

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

และที่โดดเด่นจากรุ่นก่อนคือหลังคาจะเป็นแบบ Panoramic Roof โดยจะได้รับการติดตั้งเข้ามาเป็นครั้งแรก ช่วยยกระดับความหรู ความดูแพงมากยิ่งขึ้น 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

สำหรับในด้านของขนาดตัวถัง The new A-Class ใหม่ จะมีขนาดความกว้าง 1,796 มม., ยาว 4,558 มม.และสูง 1,429 มม.

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ภายในปรับเปลี่ยนใหม่ เรียบหรูดูแพงกว่าเดิม เพิ่มเติมออปชั่นแบบจุก ๆ 

สำหรับภายในห้องโดยสารเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะสัมผัสถึงความหรูหรา ที่แฝงเอาไว้กับความเรียบง่ายอย่างลงตัว การตกแต่งโดยรวมของยังใกล้เคียงกับรุ่นก่อนปรับโฉม แต่จุดหนึ่งที่สังเกตุได้อย่างชัดเจนว่าแตกต่างจากรุ่นที่ผ่านมาคือ แป้นควบคุมการทำงานของจอแสดงผลหลักหรือ Touch Pad ถูกยกออกไป เปลี่ยนเป้นที่วางของ (น่าเสียดายที่วางของชิ้นใหญ่ไม่ได้ เพียงแค่มือถิอก็วางไม่ลง)  

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

โดยการสั่งงาน และควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร จะสั่งงานผ่านระบบ MBUX 7 ที่ติดตั้งอยู่ที่หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รวมทั้ง A200 ใหม่นี้ยังมาพร้อมกับระบบ AI ที่สามารถเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานรถของผู้ขับได้ ช่วยให้การใช้งานมีความหลากหลายยิ่งขึ้น 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

รวมถึงการสั่งงานด้วยเสียงที่ครอบคลุมหลายภาษามากถึง 27 ภาษา รวมทั้งรวมภาษาไทยด้วย พร้อมกับใช้ประโยคคำพูดแบบธรรมดาก็สามารถสั่งงานได้ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อระบบ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สายเป็นครั้งแรก ช่วยให้การเชื่อมต่อสะดวกขึ้น 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

สำหรับภายในห้องโดยสารของ A200 ใหม่นี้ นอกจากที่จะล้ำสมัยด้วยนวัตกรรมใหม่ แล้วยังคงไว้ด้วยความกว้างขวาง เบาะที่นั่งของ A200 รุ่นปรับโฉม ยังคงมาในแบบรถสปอร์ต มากกว่าความหรูเรียบแบบรถซีดาน ให้ความกระชับแต่ไม่ถึงกับโอบรัดลำตัว เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO / DINAMICA microfibre เดินด้ายแดง ให้ผิวสัมผัสที่นุ่ม ไม่ลื่นหลุดจากเบาะเวลาเข้าโค้ง มาพร้อมหน่วยบันทึกความจำทั้งฝั่งผู้ขับ และผู้โดยสารตอนหน้า (เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นที่แล้ว)

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

เบาะด้านหลังมีขนาดพอเหมาะ รูปทรงและองศาของเบาะรองรับสรีระได้ดี พื้นวางขาก็ถือว่ากว้างสมตัว นั่งได้สบาย รวมถึงเบาะด้านแถวที่ 2 มีการเพิ่มช่องแอร์ด้านหลังมาให้อีกด้วย ซึ่งเป็นการติดตั้งครั้งแรกด้วยเช่นกัน รวมทั้งในส่วนจัวเบาะยังสามารถพับเบาะได้แบบ 40:20:40 เพิ่มความสะดวกในการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ โดยมีพื้นที่เก็บของได้ถึง 420 ลิตร

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ในด้านชุดอุปกรณ์ก็จัดเต็มไม่แพ้รุ่นพี่ในค่ายเดียวกันไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แยกปรับอุณหภูมิ 2 โซน, แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย พร้อมช่อง USB Type-C 4 ช่อง เสริมความหรูหราด้วยชุดไฟ Ambient Light รอบห้องโดยสารแบบปรับได้ 64 เฉดสี 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ขุมพลังเล็กแต่จัดจ้าน 

ด้านพละกำลังของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ยังคงมากับขุมพลังบล็อก M 282 ที่เปแ็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเทอร์โบ ความจุ 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,620 – 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ (7G-DCT) สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 230 กม./ชม. และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 18.5 กม./ลิตร (5.4 ลิตร / 100 กิโลเมตร) เมื่อใช้น้ำมันทางเลือก E85 ถังน้ำมันจุ 43 ลิตร

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ด้านของระบบเครื่องยนต์ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมติดตั้งระบบ Cylinder shut-off ที่ทำให้เครื่องยนต์สามารถขับเคลื่อนด้วยลูกสูบเพียง 2 ลูกสูบ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

โดยเมื่อขับในโหมด ECO สังเกตจากตัวอักษรบอกตำแหน่งเกียร์ D ในชุดมาตรวัดจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ซึ่งระบบจะตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้ทำงานเพียง 2 สูบ เพื่อช่วยให้ตัวรถนั้นประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

นอกจากนี้มาพร้อมโหมดการขับขี่ได้ 4 แบบ คือ Eco, Comfort, Sport และ Individual ซึ่งสามารถปรับใช้ตามความเหมาะสมในแต่ละรูปแบบการใช้งาน โดยเสริมความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Lowered comport suspension 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ระบบความปลอดภัย มากับระบบ ADAS มาแบบครบชุดจัดเต็ม

ด้านระบบความปลอดภัยได้รับการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS อาทิ ระบบเบรก ADAPTIVE Brake, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินแบบแอคทีฟ, ไฟกระพริบเบรกฉุกเฉิน, ระบบรักษาความเร็ว Cruise Control และจำกัดความเร็ว SPEEDTRONIC, ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา, ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตู, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, ระบบแจ้งเตือนระดับแรงดันลมยาง และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

เข้าโหมดทดลอง แบบใช้งานจริง บนถนนจริง 

Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic รุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ในคลาสคอมแพ็คคาร์ที่มีกำลังแรงม้ามากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน โดยมีขนาดเล็กเพียง 1,332 ซีซี แต่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 250 นิวตันเมตร พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ จึงทำให้มีอัตราเร่งตอบสนองค่อนข้างไว รองรับการใช้งานได้อย่างทันใจในทุกย่านความเร็ว เร่งแซงแบบหายห่วง ตัวรถสามารถกดคันเร่งขึ้นไปแตะ ๆ 140 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ตัวรถมีขนาดที่ไม่ใหญ่โต สามารถสอดมุดได้คล่องตัว โดยเฉพาะในเส้นพระรามที่ 2 ที่เป็นเส้นทางในการทดลองขับครั้งนี้ พวงมาลัยจับกระชับมือทีน้ำหนักที่ไม่หนัก และเบาเกินไป

ระบบช่วงล่าง และการยึดเกาะถนน ปรับเซทได้เป็นอย่างดี การขับขี่ใช้งานในเมืองด้วยความเร็วปกติจะให้ความรู้สึกถึงความแข็ง หนักแน่น แต่ก็ไม่ถึงกับกระด้าง หรือกระเด้ง ยังนั่งได้นุ่มสบายตามมาตรฐานซีดานหรู  ขณะที่ในช่วงความเร็วสูง ผ่านสภาพถนนหลายรูปแบบทั้งทางตรง หรือทางโค้ง ถือเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้อาการส่ายเซ หรือโยนแทบไม่ปรากฎให้เสียความมั่นใจ ซึ่งจะมาจากการทำงานของช่วงล่างแบบ Lowered Comport Suspension ที่ลดความสูงลงจากรุ่นมาตรฐาน 15 มม. ที่ทำให้ตัวรถนั้นดูสปอร์ตมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามความนุ่มนวลของตัวรถก็มิได้ขาดหายไป อีกทั้งยังมีความหนึบแน่นเข้ามารวมช่วยอีกด้วย

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ในการขับขี่ใช้งานทั่วๆไปของ A 200 AMG Dynamic ยังมีโหมดของการขับเคลื่อนให้เลือกตามความต้องการแบ่งเป็น 4 โหมดหลักๆ เลือกใช้งานได้จากสวิทซ์ DYNAMIC SELECT บริเวณคอนโซนกลาง เริ่มจากโหมด Sport เอาใจคนชอบความแรง เน้นการบังคับควบคุมที่นิ่งแม่นยำผสานการทำงานกับระบบกันสะเทือนที่ให้ความแข็งหนักแน่นแบบสปอร์ต พร้อมการตอบสนองของคันเร่งรวดเร็ว และยังปรับการทำงานของระบบส่งกำลังให้ความว่องไวพุ่งทะยานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โหมด Comfort โหมดการขับขี่แบบมาตรฐาน เน้นความนุ่มนวลขับสบายในทุกสภาพถนน ส่วนสายประหยัด เน้นความคุ้มค่าในการใช้งานสูงสุด ก็ควรเลือกโหมด Eco ที่จะช่วยปรับการขับขี่เข้าสู่ระบบประหยัดน้ำมันในทุกช่วงความเร็ว 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ส่วนด้านการประหยัดเชื้อเพลิง มีระบบตัดการทำงานของลูกสูบเมื่อใช้โหมด Eco ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงบางส่วนขณะชะลอความเร็ว โดยตลอดทริปทดสอบในครั้งนี้มี อัตราเฉลี่ยนสิ้นเปลืองจะอยู่ป้วนเปี้ยนที่ 17 -18  กม.ต่อลิตร ซึ่งโดยรวมต้องถือว่ามีความประหยัดที่คุ้มค่าไม่แพ้อีโคคาร์กันเลยทีเดียว

ขณะที่ระบบเบรกมีการปรับปรุงจากรุ่นเดิม ด้วยการเปลี่ยนคาลิเปอร์เบรกหน้าจากเดิมลูกสูบเดี่ยวขนาดใหญ่ เป็นแบบ 2 ลูกสูบขนาดเล็ก ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ และในทุกย่านความเร็ว 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

บทสรุปเบื้องต้นกับ Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic

Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic โฉมใหใ่ปี 2023 นี้ จัดเป็นรถเล็กที่มีความครบเครื่อง โดยได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ในหลาย ๆ จุดจากรุ่นที่ผ่านมา ทรงผลทำให่ดูโฉบเฉ๊่ยวในทุกมุมมอง รวมทั้งยังได้อรรถประโยชน์ คุม้ค่าเม็ดเงินที่ต้องจ่ายไป ไม่ว่าจะเป็น หลังคาซันรูฟพาโนรามิค ระบบ MBUX7 ที่จัดเต็ม รวมทั้งระบบ ADAS ที่ยกของรุ่นใหญ่มาใส่อย่างครบครัน  

ในด้านสมรรถนะการขับขี่ ถึงแม้จะเป็นขุมพลังขนาดเล็ก แต่จัดเป็นพริกขึ้หนูสวนเม็ดเล็กที่เผ็ดได้ใจ อัตราเร่งที่เร้าใจในทุกย่านความเร็ว ที่ไม่เป็นรองใคร รวมถึงอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เรียกว่าอยู่ในระดับอีโค คาร์ก็ว่าได้ 

รีวิว Benz A200 AMG Dynamic 2023

ส่วนใครที่กำลังมองหารถยุโรปขับแบบสปอร์ตดูหรู A 200 AMG Dynamic เป็นอีกตัวเลือกอีกรุ่นที่น่าสนใจอยู่ไมใช่น้อยกับราคาค่าตัวระดับ 2 ล้าน ต้น ๆ คุณจะได้ทั้งความสปอร์ต สบาย ปลอดภัย และความหรูหราแบบครบครันภายในคันเดียว 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ล่ะท่าน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลจากทางผู้เขียน ทางที่ดีควรเข้าไปลอง และสัมผัสขับตัวจริง เพื่อที่ท่าน ๆ จะได้รถตามที่ใจปรารถนา และต้องการอย่างแท้จริง 

 A200 AMG Dynamic 2023

สำหรับราคา Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic จะมีราคาจำหน่ายอยู๋ที่ 2,320,000 บาท

มาพร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว Polar white, สีดำ Cosmos black, สีเงิน Iridium silver และสีเทา Mountain grey