หากจะพูดถึงรถ Crossover ที่มาแรงสุดๆ ในเวลานี้ ชื่อของ New Nissan Kicks e-Power คงจะอยู่ในลิสต์แรกๆ ของใครหลายคน เพราะด้วยราคาจำหน่ายของโฉมใหม่ที่เข้าถึงง่ายขึ้น และการอัปเกรดครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี e-Power ที่มีสมรถรนะที่สูงขึ้น ผสานกับระบบความปลอดภัยที่จัดเต็มสุดในรถระดับเดียวกัน ใครหน้าไหนจะกล้าปฏิเสธได้ว่า New Nissan Kicks e-Power ไม่น่าสนใจ?
และแน่นอนว่าหลายท่านคงอยากจะทราบถึงข้อมูลการรีวิวแบบใช้งานจริง ในรูปแบบการขับขี่เดินทางข้ามจังหวัด ว่า New Nissan Kicks e-Power จะตอบโจทย์ขนาดไหน ขับสนุกจริงหรือเปล่า และที่สำคัญประหยัดน้ำมันมากแค่ไหน ซึ่งวันนี้เรามีคำตอบให้ทั้งหมด หลังจากที่ได้ไปทดลองขับจาก จ.พิษณุโลก – จ.เลย – จ.อุดรธานี ระยะทางรวมกว่า 600 กม.
สำหรับบทความนี้ขอพูดถึงสมรรถนะการขับขี่ในการเดินทางของทริปนี้เท่านั้น ส่วนรายละเอียด และข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของ New Nissan Kicks e-Power คุณสามารถรับชม VDO ด้านบน หรือย้อนกลับไปอ่านรีวิวแรกได้ที่ รีวิว New Nissan Kicks e-Power 2022 ดีขึ้นทุกมิติ ลองแล้วจะติดใจ ฟิลรถไฟฟ้า แต่ไม่ต้องหาที่ชาร์จ
ฟิลลิ่งแบบรถไฟฟ้า แต่ไม่ต้องชาร์จไฟ
ในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ ต้องบอกว่านี่คือจุดเด่นสำคัญของ New Nissan Kicks e-Power เพราะจัดเป็น Sub Compact SUV ที่ขับสนุกที่สุดในกลุ่ม อัตราเร่งจี๊ดจ๊าด พร้อมพุ่งทะยานทันทีหลังจากกดคันเร่ง ซึ่งเป็นฟีลลิ่งเดียวกับการได้ขับรถยนต์ไฟฟ้า
อย่างที่ทุกคนทราบ Kicks e-Power นั้น ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 100% ในการส่งกำลังไปสู่ล้อ ทำให้ทุกครั้งที่แตะคันเร่ง มอเตอร์ไฟฟ้าจะส่งมวลแรงบิดระดับ 280 นิวตัน-เมตร ตรงไปสู่ล้อทันทีแบบไม่มีรอรอบ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ต่ำกว่า 9 วินาที ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นที่หาไม่ได้จากรถประเภท Hybrid และ นี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่า Nissan Kicks e-Power ไม่ใช่ Hybrid
ส่วนเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตร DOHC มีหน้าที่ติดขึ้นมาเพื่อปั่นไฟ และส่งไปจัดเก็บที่แบตเตอรี่เท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งกำลังแต่อย่างใด และนี่แหละคือหัวใจสำคัญที่ทำให้คุณไม่ต้องไปหาที่ชาร์จไฟให้วุ่นวาย
จะขับสนุกได้อย่างไร? ถ้ามีแต่ความแรง แต่ช่วงล่างไม่เอื้ออำนวย
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า Nissan Kicks e-Power ใหม่ เป็นรถที่ขับสนุกที่สุดในกลุ่ม ฉะนั้นแล้วนอกเหนือไปจากอัตราเร่งที่มาเต็บแบบรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ในเรื่องของระบบช่วงล่าง Nissan ก็ได้ทำการเซ็ทอัพขึ้นมาให้สอดคล้องเพื่อการขับขี่ที่สนุกตามแบบฉบับรถ Crossover
การขับที่สนุกในความหมายของผู้เขียนคือ การให้การทรงตัวที่มั่นใจ สามารถเติมคันเร่งเพิ่มได้ สามารถเข้าโค้งได้เร็วและเอาอยู่ มุดได้ไม่ร่อน และไม่นิ่มจนย้วย หรือไม่แข็งจนกระด้าง
แล้วจะทราบได้อย่างไรว่ามันขับสนุกจริงๆ คำตอบคือ การเดินทางในทริปนี้ Nissan ได้วางเส้นทางทดสอบเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งเราได้ไปพิชิตภูเก้าง้อม ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขา – ลงเขา ที่มีความชัน และมีความคดเคี้ยวเหมือนเลข ๙ รวมถึงเส้นทางธรรมชาติต่างๆ ที่ต้องลัดเลาะตลอดแนวเขา และริมแม่น้ำโขง ซึ่ง นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ก็ให้การตอบสนองในเรื่องของการทรงตัวที่เฉียบขาด ทำให้มีความมั่นใจในการขับขี่ และสามารถสนุกไปกับทุกโค้งที่ท้าทายได้แบบปลอดภัย
ประหยัดน้ำมันตรงไหน? ในเมื่อเครื่องยนต์ก็ทำงาน
คำถามด้านบนเคยได้ยินมาหลายครั้ง จึงต้องขออธิบายให้เข้าใจตรงกันหน่อย เครื่องยนต์มีการทำงานจริง แต่ไม่ตลอดเวลา!! จะทำงานเฉพาะคุณขับด้วยความเร็วคงที่ (ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่กินน้ำมันมาก) และช่วงที่แบตเตอรี่ต้องการกำลังไฟ ซึ่งนั่นหมายความว่าจังหวะที่รถกินน้ำมันเยอะอย่าง ช่วงเร่งแซง ช่วงออกตัว จะใช้ไฟจากแบตเตอรี่เป็นหลักก่อน ทำให้การซดน้ำมันของ Nissan Kicks e-Power มีตัวเลขที่น่าประทับใจ โดยตามสเปคเคลมเอาไว้ที่ 23.8 กม./ลิตร และขับในเมืองทำได้ 26.3 กม./ลิตร
แม้ว่าจะขับจริงๆ ไม่ถึงตามที่เคลม แต่ตัวเลขที่แสดงบนหน้าจอก็ยังทำได้ดีกว่าที่คิด โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 17.5-18.5 กม./ลิตร ซึ่งระยะทางกว่า 600 กม. น้ำมันถังเดียววิ่งพอ (ไม่มีการเติมเพิ่ม)
อีกทั้งใน Nissan Kicks e-Power ใหม่ ยังได้มีการอัปเกรดความจุแบตเตอรี่ขึ้นไปเป็น 2.06kWh (จากเดิม 1.57kWh) ทำให้เครื่องยนต์ติดขึ้นมาน้อยครั้งกว่าโฉมก่อน (เครื่องยนต์ไม่ติด น้ำมันก็ไม่เสีย) รวมไปถึงระบบ Regenerative Braking ที่ช่วยคืนค่าพลังงานแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว ทำให้เครื่องยนต์แทบไม่ต้องติดขึ้นมาปั่นไฟเลย
e-Pedal Step ใช้ขับจริงช่วยอะไร?
e-Pedal Step ถือเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ มีการปรับให้ใช้งานได้สมูท นุ่มนวลกว่าเดิม และไม่ถึงจุดหยุดนิ่ง (ไหลด้วยความเร็วต่ำ) ซึ่งฟีเจอร์นี้จัดเป็นสิ่งที่รถยนต์ไฟฟ้ามีให้ใช้แทบทุกคัน เพราะมันจะช่วยในการ Regenerative Braking ได้ และ Nissan Kicks e-Powers ก็มีให้ใช้งานด้วย
แล้วถ้าถามว่า ควรใช้ตอนไหน ใช้แล้วช่วยอะไร บอกตรงนี้เลยว่า ช่วยเยอะมากๆ ช่วยในเรื่องของความสบายในการขับ และมีผลต่ออัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย โดยการใช้งานระบบ e-Pedal Step ก็คือการขับในโหมด Sport หรือ Eco ซึ่งจะเปรียบเสมือน Engine Brake ทันทีที่คุณยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง และใช้ได้ดีมากๆ ในสถานการณ์ที่ต้องลงทางชัน ซึ่งความหน่วงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ดึงจนเวียนหัว และไม่ไหลจนเหวอ ซึ่งถ้าคุณปรับตัวให้ชินกับ e-Pedal Step ได้ แป้นเบรกแทบจะมีไว้ใช้ในยามต้องการจอดสนิทเท่านั้นเลย
ซึ่ง e-Pedal Step เหมาะมากสำหรับใช้ในการเดินทางในเมือง หรือสภาพจราจรหนาแน่น รวมไปถึงการขับลงทางชัน แต่ถ้าหากคุณเดินทางบนถนนหลัก ใช้ความเร็วสูง แบบเดินทางข้ามจังหวัด คุณสามารถเลือกปิดระบบ โดยเปลี่ยนมาใช้โหมด Normal แทนได้ เพราะเวลายกเท้าออกจากคันเร่ง คันหลังจะได้ไม่จิ้มตูดคุณ
บทสรุป
โดยภาพรวมก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่า New Nissan Kicks e-Power เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งมีดีที่ความจี๊ดจ๊าด ขับสนุก แถมประหยัดน้ำมันในตัวเอง และที่สำคัญราคาเข้าถึงได้ไม่ยาก ซึ่งหากคุณกำลังมองหารถยนต์พลังงานทางเลือก แต่ไม่กล้าที่จะข้ามไปรถยนต์ไฟฟ้า 100% เจ้า Nissan Kicks เนี่ยแหละ คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน
ราคาจำหน่าย New Nissan Kicks e-Power
- รุ่น E ราคา 759,000 บาท
- รุ่น V ราคา 829,000 บาท
- รุ่น VL ราคา 899,000 บาท
- รุ่น AUTECH ราคา 949,000 บาท
