บีเอ็มดับบลิวยูเผยโฉม BMW iX 2026 เอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลางรุ่น LCI หรือโฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่มากับหน้าตา่ใหม่ พร้อมทั้งยังมากับพละกำลังที่มากขึ้น รวมทั้งยังวิ่งได้ไกลกว่าเดิม โดยรถรุ่นใหม่นี้เตรียมเปิดวางขายในช่วงกลางปี 2025 นี ส่วนในบ้านเรา ตลาดเมืองไทย คาดว่าคงได้เห็นตัวจริงในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน
สำหรับ 2025 BMW iX 2026 รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ จะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ BMW iX xDrive 45 / BMW iX xDrive60 และ BMW iX M70
งานออกแบบดีไซน์ในตัวทรงบอดี้นั้นยังคงเดิม โดยจะมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของกระจังหน้าใหม่เท่านั้น โดยจะมากับกระจังหน้าไตคู่ใหม่ขนาดใหญ่ แบบปิดทึบ ที่ด้านในจะเป็นเส้นทแยง นอกจากนั้นยังมีกระจังแบบ Iconic Glow ที่มาในแบบเรืองแสง
มาพร้อมชุดไฟหน้า Adaptive LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย โดยด้านในจะมากับไฟ Daytime Running Light และไฟเลี้ยวที่มาในทรงแนวตั้ง
พร้อมกับปรับเปลี่ยนในส่วนของกันชนหน้าและกันชนหลังใหม่ ลดการแต่งด้วยสีดำลงจากรุ่นก่อนหน้า อีกทั้งยังมีชุดแต่งแบบ M Sport หรือ M Sport package Pro ที่ถูกเสริมด้วยไฟหน้า และไฟท้ายแบบ M Shadow Line
ขณะที่ในรุ่นตัวแรงอย่าง M70 xDrive จะมากับกระจังหน้าไตคู่เรืองแสง Iconic Glow ด้านในจะเป็นแถบเส้นแนวนอน พร้อมได้รับชุดไฟหน้า และไฟท้ายแบบรมดำ มาพร้อมฝาครอบกระจกมองข้างสีดำ และล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ที่มากับดีไซน์เฉพาะรุ่น
ภายในห้องโดยสารของ BMW iX 2026 รุ่นปรับโฉมใหม่ก็ยังคงดีเทบแบบเดิม ที่มากับหน้าจอโค้ง Curved Display มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Operation System 8.5
โดยในส่วนที่มีการเปลี่นแปลงจะเป็นในส่วนของตัวเบาะที่นั่ง โดยจะมีการเพิ่มเบาะนั่ง M Multi-Function ใหม่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น M70 โดยทางผู้ผลิตเผยว่าบาะใหม่นี้จะได้รับการปรับปรุงตัวเบาะได้ดีมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นความกว้างของพนักพิงที่จะรองรับสรีระได้ดีขึ้น
มาพร้อมระบบระบายอากาศ โดยในส่วนระบบทำความร้อนตัวเบาะที่ใส่เข้ามา จะเป็นการอาศัยลมร้อนจากระบบขับเคลื่อน และแบตเตอรี่ที่ปล่อยออกมาขณะใช้งาน ไม่ได้เป็นการใช้กระแสไฟจากตัวแบตเตอรี่มาแปลงเป็นพลังงานความร้อน ซึ่งทำให้รถประหยัดพลังงานกว่าเดิม
อีกทั้งยังมีวัสดุที่หุ้มตัวเบาะให้เลือกหลากหลายทั้ง Microfibre / Sensatec หรือวัสดุหนัง Natural leather
นอกจากนี้ยังได้รับพวงมาลัย M, แผงคอนโซลสีทูโทนตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ M พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุตกแต่งสี Dark Silver และเพดานหลังคาสี Anthracite
รวมทั้งยังมีแพคเกจ Climate Comfort ใหม่ ที่แพคเกจนี้จะประกอบด้วยระบบอุ่นเบาะนั่งทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง พวงมาลัยอุ่น และที่วางแขนอุ่น นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ 4 โซน ช่วยให้ผู้โดยสารแต่ละคนปรับแต่งการตั้งค่าอุณหภูมิที่ต้องการได้อย่างอิสระ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ BMW iX 2026 ในรุ่นพื้นฐาน xDrive45 จะมากัยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังรวม 408 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร มาพร้อมแบตเตอรี 94.8 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะไกลสุด 602 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP)
ส่วนในรุ่น xDrive60 ก็จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เช่นกัน แต่จะมีพละกำลีังที่มากกว่า โดยมีกำลังสูงสุด 544 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 765 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรีขนาด 109.1 kWh ชาร์จไฟเต็มเดินทางได้ถึง 701 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP)
ส่วนรุ่นตัวแรง M70 xDrive จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนแบบ All-wheel Drive ให้กำลัง 659 แรงม้า แรงบิด 1,015 นิวตันเมตร มาพร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงุสดจะถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. จับคู่กับแบตเตอรีขนาด 108.9 kWh ชาร์จไฟเต็มจะให้ระยะทางวิ่ง 600 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP)
ทั้งนี้ BMW iX โฉม LCI ในทุกรุ่นย่อยจะถูกผลิตขึ้นที่ในโรงงาน BMW Group ในเมือง Dingolfing ประเทศเยอรมนี โดยคากการ์ว่าจะเริ่มลงโชว์รูมวางจำหน่ายในช่วงกลางปี 2025 ที่จะถึงนี้ทั้งในตลาดยุโรป และสหรัฐอเมริกา ส่วนตลาดเมืองไทยบ้่นนเรานั้นลุ้นเห็นโฉมจริงในช่วงปลายนี้
ด้านราคาจำหน่ายนั้นในตลาดเมืองลุงแซม ในรุ่น xDrive45 จะมีราคาอยู่ที่ 75,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.53 ล้านบาท ในรุ่น xDrive60 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 88,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.99 ล้านบาท ขณะที่ในรุ่นตัวแรง M70 xDrive มีราคาอยู่ที่ 111,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ประมาณ 3.77 ล้านบาท