หลังจากที่ Toyota bZ5 ได้ถูกเผยโฉมในงาน Auto Shanghai 2025 ล่าสุดทาง Toyota ภายใต้ความร่วมมือกับ FAW ก็ได้เปิดราคาจำหน่าย bZ5 เอสยูวีไฟฟ้าตัวใหม่ในตลาดเมืองไทยแล้ว มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ Blade จาก BYD และเทคโนโลยีขับขี่กึ่งอัตโนมัติขั้นสูง ชาร์จไฟให้ระยะทางวิ่ง 550 และ 630 กม. โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายไว้ดังนี้
- Toyota bZ5 รุ่น 550 Joy ราคา 129,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.89 แสนบาท
- Toyota bZ5 รุ่น 550 Pro ราคา 139,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.34 แสนบาท
- Toyota bZ5 รุ่น 550 Pro Smart Edition ราคา 159,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.25 แสนบาท
- Toyota bZ5 รุ่น 630 Pro ราคา 159,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.25 แสนบาท
สำหรับ Toyota bZ5 เป็นผลงงานที่ถูกรังสสรรค์ขึ้นจา่กความรวมมือกันระหว่างทาง Toyota – FAW ซึ่งชื่อเดิมของ bZ5 ก็คือเจ้า Toyota bZ3X โดยรถคันนี้ถือเป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของโตโยต้า ในจีน มราต่อมาจาก bZ3 และ bZ4X
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ตัวรถจะมาในร่างครอสโอเวอร์คูเป้ท้ายลาด ซึ่งจะมีลักษณะ ที่ดูคล้ายคลึงกับ bZ4X และ Prius กระจังหน้าแบบ “หัวฉลามค้อน” (Hammerhead Shark) มาพร้อมชุดไฟหน้า LED รูปตัว C พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน พร้อมติดตราโลโก้สามห่วงไว้ตรงกลาง
ฝากระโปรงหน้าดีไซน์โค้งมนสอดรับกับชุดกระจังหน้า และตัวกันชนอย้่างโฉบเฉี่ยว เสริมความเข้มตามแบบฉบับรถครอสโอเอวร์ด้วยขอบคิ้วล้อสีดำรับกับล้ออัลลอยทูดทนลายปิดทึบ เพื่อให้ตัวรถนั้นลดแรงต้านอากาศ พร้อมมือเปิดประตูแบบซ่อนกับตัวถัง
ตัวรถมาในแบบทูโทนหลังคาดำ พร้อมเติมความหรูหราด้วยคิ้วโครเมียม ที่ลากยาวตั้งแต่เสา A เลาะยาวขึ้นไปตลอดชายหลังคาด้านข้างไปจรดด้านท้าย มาพร้อมมือเปิดประตูที่เป็นแบบซ่อนที่ราบไปกับตัวรถ ด้านชุดล้อจะมีขนาด 21 นิ้ว
ขณะที่ด้านท้ายจะมากับเส้นไฟ LED ที่มีลักษญะเหมือนกับชุดไฟหน้าที่เป็นรูปตัว C วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนหลัง กระจกบานท้ายขนาดใหญ่ มาในแบบลาดเทยาวมาติดกับประตูท้าย ที่ออกแบบดีีไซน์ให้เป็นสปอยเลอร์หลังในตัว โดยมีช่องชาร์จไฟอยู่ที่บังโคลนหลังด้านซ้าย
ในด้านขนาดมิติตัวรถของ Toyota bZ5 จะมีคาวมยาว 4,780 มม., กว้าง 1,866 มม., สูง 1,510 มม. และมีระยะฐายล้อ 2,880 มม.
ภายในห้องโดยสารจะได้รับการดีไซน์ในลักษณะเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ ที่เน้นงานออกแบบที่เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความไฮเทต แผงแดชบอร์ดจะมากับแผงหน้าปัดขนาดเรียวเล็กที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้านดีไซน์สปอร์ตขนาดใหญ่ มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ที่วางแบบแขวน รองรับการสั่งการด้วยท่าทาง และการโต้ตอบด้วยเสียง
ในส่วนคอนโซลกลางจะมากับเกียร์ไฟฟ้าที่เป็นแบบปุ่มหมุน พร้อมช่องใส่แก้วน้ำ 2 จุด เบรกมือไฟฟ้า และแท่นชาร์ตจสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย
นอกจากนั้นยังได้รับหลังคาพาโนรามาขนาด 1.44 ตารางเมตร, ชุดไฟแอมเบี้ยนไลท์ 256 สี, ระบบเครื่องเสียงของทาง JBL ที่มากับลำโพง 10 ตัว, กระจกกันเสียง (Acoustic Glass) รอบคัน
ด้านตัวเบาะที่นั่งด้านหน้าสามารถปรับเอนได้แบบราบเรียบ รวมทั้งยังมากับโหมดงีบพักผ่อนถึง 4 รูปแบบ พร้อมเสริมความปลอดภัยด้วยชุดถุงลมนิรภัยถึง 9 จุด ซึ่ง รวมถึงถุงลมนิรภัยด้านข้างตั้งแต่เสา A ถึงเสา C และอีกใบระหว่างเบาะนั่งด้านหน้า
ในด้านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ bZ5 มาพร้อมระบบ Momenta 5.0 ซึ่งเป็นระบบช่วยขับขี่ระดับ L2 อีกทั้งยังมากับระบบขับขี่อัจฉริยะ Toyota Pilot ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงกว่า 30 รายการ มาพร้อมเซ็นเซอร์รอบคันถึง 33 จุด รวมถึงหน่วย LiDAR ที่อยู่บนหลังคา (จะมีเฉพาะในรุ่นท๊อป) และขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ 544 TOPS ช่วยให้สามารถใช้งาน NOA (การนำทางด้วยระบบอัตโนมัติ) ในเมืองได้ในสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย
สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนในทุกรุ่นจะย่อยจะได้รับการติตดั้งมอเตอร์ TZ200XS003 จาก Fudi Power ไว้ที่คู่ล้อหน้าให้กำลังสูงสุด 200 kW / 268 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร โดยจะมากับชุดแบตเตอรี่ Blade ของทาง BYD โดยมีให้เลือก 2 ขนาดความจุ 65.28 kWh และ 73.984 kWh ชาร์จไฟเต็มให้ระยะทางวิ่ง 550 กม. และ 630 กม. ตามลำดับ (CLTC) ในทุกรุ่นจะรองรับการชาร์จ ไฟแบบ DC ขนาด 90 kW ให้กำลังไฟจาก 30% ถึง 80% ในเวลาเพียง 27 นาที
สำหรับ Toyota bZ5 พร้อมเปิดวางขายในจีนแล้ว ส่วนจะมีการวางจำหน่าายนอกประเทศจีน หรือไม่นั้นต้องรอลุ้นกัน โดยเฉพาะในตลาดปรนะเทศไทย