โตโยต้า ใประเทศญี่ปุ่นเพิ่มความหลากหลายให้กับ Toyota Crown Crossover ด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศษ Landscape ที่ยกระดับความแกร่งให้กับเอสยูวีออฟโรดตัวใหม่นี้ ซึ่งตัวรถนั้นได้รับแรงบันดาลใจจาก Crown Outdoor Concept ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดย Crown รุ่นพิเศษนี้จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น และจะสิ้นสุดการผลิตจะในเดือนธันวาคม 2024 นี้เท่านั้น
สำหรับ Toyota Crown Crossover RS Landscape รุ่นพิเศษนี้ถูกเสริมมาดให้เป็นรถออฟโรดสายลุย ตัวถังมาในเฉดสีเทา Urban Khaki พร้อมตัดด้วยเฉดสีดำที่ฝากระโปรงหน้า และ กระจังหน้า รวมทั้งในส่วนของหลังคา, เสา B – เสา C, กาบประตูข้าง และที่ฝาครอบกระจกมองข้าง
พร้อมล้อใหม่ลวดลายใหม่ที่เป็นลายแบบหมุดเย็บขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง All-Terrain ขนาด 245/60 R18 ที่ถูกสั่งทำพิเศษ เพื่อให้ยึดเกาะถนน และลุยได้ทุกสภาพพื้นผิว
อีกทั้งยังเสริมหล่อด้วยการติดตั้งขอบบังโคลนสีดำ Gori Gori Black ทั้งด้านหน้า และหลังแบบหมุดเย็บ เสริมให้ตัวรถดูมีมัดกล้ามเล็ก ๆ ขณะที่บริเวณใต้กันชนหลังติดตั้งจุดต่อเชื่อมสำหรับรถพ่วง ที่มีตราสัญลักษณ์โลโก้ Crown ปิดเอาไว้ นอกจากนี้ยังเสริมความโดดเด่นให้กับตัวรถบังโคลนยางสีแดง ที่มากับยตราโลโก้ Crown
ด้านภายในห้องโดยสารของ Toyota Crown Crossover RS Landscape ดีเทลรายละเอียดยังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมเพียงตัวอักษร “Landscape” สีทอง ที่อยู่บนคอนโซลหน้า ส่วนเบาะที่นั่งด้านหลังปรับพับแยกแบบ 60:40 ซึ่งสามารถวางของที่มีขนาดยาวได้อย่างสะดวกสบายอาทิ กระดานโต้คลื่น อีกทั้งยังได้รับกุญแจพิเศษสีเงิน และสมุดหนังเก็บคู่มือรถยนต์สีดำ ทำจากวัสดุรีไซเคิล
ด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Toyota Crown Crossover RS Landscape คงเดิม โดยมากับขุมทพลบังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 460 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 6 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four Advance
มาพร้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ตัวหน้า กำลังสูงสุด 82.9 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 292 นิวตันเมตร ตัวหลัง กำลังสูงสุด 80.2 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 169 นิวตันเมตร
ด้านมิติตตัวรถจะเพิ่มความสูงจากพื้นหรือ Ground Clearance จากรุ่นปกติอีก 25 มิลลิเมตร เพิ่มทำให้ตัวรถสามารถลุย และปีนปายในเส้นทางออฟโรดได้ดีมากขึ้น
Toyota Crown Crossover RS Landscape รุ่นพิเศษนี้จะถูกผลิตออกมาในจำนวนจำกัด จะผลิตถึงเดือนธันวาคม 2024 นี้ โดยจะมีวางขายเฉพาะในดินแดนอาทิตย์อุทัยญี่ปุ่นเท่านั้น สำหรับสนนราคาจะเริ่มต้นที่ 6,850,000 เยน หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ราว ๆ 1.65 ล้านบาท แต่ถ้าลูกค้าอยากเสริมความอเนกประสงค์ให้มากขึ้นด้วยชุุดแล็คหลังคาจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 44,900 เยน หรือราว ๆ 10,000 บาท เท่านั้นเอง
