โตโยต้าในสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัว Toyota Grand Highlander 2024 รถเอสยูวีอเนกประสงค์ ที่เป็นรุ่นย่อยใหม่ของ Toyota Highlander ที่ภายในงาน Chicago Auto Show 2023
โดย Toyota Grand Highlander 2024 จะเป็นรถเอสยูวีขนาดกลาง รุ่นย่อยใหม่ของทาง Highlander ที่จะมีวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มเดียวกับ Highlander มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบไฮบริด ที่มีให้เลือก 2 แบบ เบาะที่นั่งจะเป็นแบบ 3 แถว ที่บรรจุผู้โดยสารได้สูงสุด 8 คน และสามารถบรรทุกสิ่งของต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาไกล นอกจากยังทางผู้ผลิตยังเคลมว่าพื้นที่เก็ยสัมภาระด้านท้ายยังสามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางแบบถือขึ้นเครื่องได้ถึง 7 ใบ
ในด้านการดีไซน์ออกแบบตัวรถได้รับการออกแบบโดยทีมงานที่ Calty Design Studios ในแคลิฟอร์เนีย โดยจะมาในรูปลักษณ์ที่ดูเป็นกล่องและเรียบง่าย กว่ารุ่นย่อยอื่น ๆ โดดเด่นด้วยเสาหลังสีเดียวกับตัวรถเพื่อบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและความแข็งแกร่ง ในขณะที่พื้นผิวเรียบตลอดทั้งตัวแสดงถึงการออกแบบที่เรียบง่ายและสมบุกสมบัน
ด้านหน้าจะมาในรูปแบที่ดุดันชุดไฟหน้า LED เรียวเล็กเชื่อมต่อทั้ง 2 ฝั่งด้วยช่องรับลม พร้อมคั้นกลางด้วยกระจังหน้าทรงสามเหลี่ยมยาว ที่ตรงกลางติดตราโลโก้สามห่วง พร้อมเสริมความหรูหราด้วยชิ้นงานโครเมียมที่ลากยาว
ขณะที่กันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ มาพร้อมช่องรับลมทรงหกเหลี่ยมสีดำ ที่ดูเหมือนกับ Toyota Cross แต่ดูมีเหลี่ยมมุมที่ชัดเจนกว่า ขนาบข้างทั้ง 2 ฝัุ่งด้วยชุดไฟตัดหมอก
ด้านข้างมากับเส้นสายที่เรียบง่าย แต่ดูแข็งแกร่ง ซุ้มล้อดีไซน์ให้เป็นทรงเหลี่ยม พร้อมตกแต่งด้วยขอบซุ้มล้อสีดำ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 – 20 นิ้ว
ในส่วนหลังคามาพร้อมราวแล็คหลังคา และเสาอากาศแบบครีบฉลาม เติมความหรูหราด้วยหลังคามูนรูฟแบบพาโนรามา
ด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้าย LED ที่ออกแบบเป็นรูปตัว C พร้อมติดตั้งสปอยเลอร์หลังคา และกันชนท้ายขนาดใหญ่
ในด้านมิติขนาดตัวรถอยู่ที่ 5,115 มม. ซึ่งมากกว่าในรุ่น Highlander ทั่วไปถึง 165 มม. พร้อมกับความสูงของตัวรถที่เพิ่มขึ้น 51 มม. รวมทั้งความกว้างที่มากขึ้น 58 มม. อีกทั้งยังปรับขนาดความยาวฐานล้อขึ้นอีก 102 มม. เป้น 2,946 มม. ส่งผลทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างมากขึ้น
ภายในห้องโดยสารจะเป็นจุดไฮไลท์ที่สำคัญ โดย Toyota Grand Highlander จะได้รับการออกแบบให้เสมือนอยู่ในห้องนั่งเล่น ด้วยวัสดุที่นำมาใช้จะเป็นแบบอ่อนนุ่มแผงหน้าปัดตกแต่งด้วยลายไม้
เบาะที่นั่งจะเป็นแบบ 3 แถว 8 ที่นั่ง เบาะนั่งหุ้มหนัง ปรับด้วยไฟฟ้า10 ทิศทาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งคู่หน้าจะมาพร้อมกับระบบแบบอุ่น และระบายอากาศ โดยในรุ่น Hybrid Max ได้รับการหุ้มด้วยหนัง Ultrasuede สีบรอนซ์สุดพิเศษ
ด้านพื้นที่บรรจุสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุมากถึง 2,775 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง ซึ่งมากกว่า Highlander ถึง 396 ลิตร นอกจากนั้นทางผู้ผลิตเผยว่าท้ายรถจะมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่กระเป๋าเดินทางแบบถือขึ้นเครื่องได้ 7 ใบ
โดยงานออกแบบเบาะที่นั่งทางโตโยต้าจะมีเนื้อที่ใหญ่พอสำหรับผู้ใหญ่ที่จะนั่งได้อย่างสบาย และในแตต่ละที่นั่งจะได้รับพอร์ต USB ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และที่วางแก้วน้ำ 2 ช่องสำหรับแต่ละที่นั่ง โดยรวมแล้ว Grand Highlander มาพร้อมกับที่วางแก้ว 13 ช่องและพอร์ต USB-C ถึง 7 พอร์ต
นอกจากนั้นผู้โดยสารแถวที่สองจะได้มาพร้อมกับแผงควบคุมปรับอากาศแบบแยก รวมทั้ง ยังสามารถเลือกเป็นเบาะแบบกัปตันซีทได้อีกด้วย
แผงแดชบอร์ดหน้านั้นจะได้รับการติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับคอนโซลกลางซึ่งใหญ่พอที่จะใส่แท็บเล็ตได้ รวมทั้งยังมีแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายให้อีก 2 จุด
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับพวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้ รวมทั้งยังติดตั้งช่องจ่ายไฟขนาด 1,500 W, มีจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi สำหรับอุปกรณ์สูงสุด 5 เครื่อง, ระบบเครื่องเสียงของทาง JBL พร้อมลำโพง 11 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ Head-up Display, หน้าจอมองภาพแบบพาโนรามา มาพร้อมประตูท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงของ Toyota
สำหรับในด้านขุมพลังทางโตโยต้ายังไม่เปิดเผยตัวเลขพละกำลัง และรายละเอียดเครื่องยนต์ทั้งหมดในเวลานี้ เบื้องต้นรุ่นเครื่องยนต์จะมี 3 ทางเลือก ซึ่งคาดว่าจะมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ต่อด้วยรุ่นเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด THS ส่งกำลังด้วยเกียร์ eCVT shift-by-wire ขณะที่ระบบขับเคลื่อนทั้ง 2 รูปแบบจะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ
ปิดท้ายด้วยรุ่นท๊อปซึ่งจะได้ใช้งานระบบไฮบริดรุ่นใหม่ Hybrid Max (แบบเดียวกับ Toyota Crown) ซึ่งถ้าหากเป็นรุ่นเดียวกันก็คาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 362 แรงม้า และแรงบิด 542 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.3 วินาที และมีประสิทธิภาพในการลากจูงสูงสุด 2,268 กก.
Toyota Grand Highlander 2024 ใหม่จะมีให้เลือก 3 เกรด ได้แก่ XLE, Limited และ Platinum ส่วนราคาจำหน่ายโตโยต้าจะประกาศอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป