วอลโว่ ประเทศไทย ประกาศพร้อมเปิดตัว Volvo ES90 รถเก๋งซีดานขุมพลังไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ในตลาดเมืองไทย 22 ตุลาคมนี้ ขุมพลังคาดว่าจะเป็นบล๊อกเดียวกันกับที่เปิดตัวในยุโรปเมื่อต้นปี 2025 ที่ผ่านมา ชาร์จวิ่งไกลสุด 700 กม.

สำหรับ Volvo ES90 2025 ซีดานไฟฟ้าตัวใหม่ของจากสแกนดิเนเวีย ถูกเปิดตัวครั้งแรกของโลกในยุโรปเมือช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Single Motor Extended Range, Twin Motor และ Twin Motor Performance ชูจุดเด่นมากับสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 800V ซึ่งเป็นรุ่นแรกของทาง Volvo พร้อมรองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 350 kW




ด้านงานออกแบบ Volvo ES90 จะมีลักษณะที่คล้ายกับทาง EX90 แต่ปรับช่วงล่างให้ดูยกตัวสูงขึ้น ในส่วนด้านหน้ายังคงมากับความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ของ Volvo ที่มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ ที่เน้นความทันสมัย เริ่มจากกระจังหน้าแบบปิด มาพร้อมโลโก้แบรนด์ Volvo เรืองแสงแบบใหม่ที่ถูกฝังไว้ที่บริเวณกระจังหน้า ชุดไฟหน้ายังมาในรูปทรง Thor’s Hammer ส่วนด้านล่างออกแบบช่องดักอากาศสีดำขนาดใหญ่ ที่ขนาบข้างด้วยชุดไฟตัดหมอก ที่ออกแบบให้ดูเหมือนต่อเชื่อมมาจากชุดไฟหน้า

ในส่วนฝากระโปรงหน้าเมื่อเปิดขึ้นจะมาพร้อมพื้นที่เก็บของที่มีความจุมากถึง 1.7 ลูกบาศก์ฟุต หรือราว ๆ 48 ลิตร


ขณะที่เส้นสายด้านข้างตัวรถ ยังคงมากับความเรียบหรู มือประตูเป็นแบบ Pop-Up พร้อมออกแบบดีไซน์ขอบซุ้มล้อให้ดูมีมิติ ส่วนรับเข้าชุดกับล้ออัลลอยทูโทนปัดเงาที่มีขนาด 20-22 นิ้ว



ส่วนด้านท้ายออกแบบให้มีความลาดเท ตามแบบฉบับรถสไตล์แฮทช์แบ็ค โดยในส่วนของหลังคานั้นจะเป็นหลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟ ที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้มากถึง 99.9% นอกจากนั้นยังมีออปชันเลือกเป็นหลังคากระจกแบบ Electrochromic ที่สามารถปรับความทึบแสงด้วยไฟฟ้า

ขณะที่ด้านหลังจะได้รับการติดตั้งชุดไฟท้ายแบบแยก 2 ชั้น ด้านบนเป็นแนวตั้งที่อยุ่บริเวณขอบกระจกบานท้าย ส่วนชุดไฟท้ายด้านล่างดีไซน์ให้เป็นรูปตัว C เชื่อมต่อกันด้วยแถบวัสดุสีดำ พร้อมกับติดตราแบรนด์ VOLVO ไว้ที่ฝาประตูท้าย โดยในส่วนของฝาท้ายนั้นจะถูกเปิดยกขึ้นมาพร้อมกับตัวกระจกบานหลัง


ส่วนขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 4,999 มม. กว้าง 1,945 มม. สูง 1,547 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,102 มม.

ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบเน้นความเรียบหรู ดูแพง ในส่วนของแผงแดชบอร์ดหน้า จะโดดเด่นด้วย หน้าจอแนวตั้งขนาด 14.5 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อต่อทั้ง Apple CarPlay ไร้สาย, Android Auto พร้อมระบบ Google built-in ที่สามารถใช้งาน Google Maps, Google Assistant และอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ

มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 9 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสามก้านขนาดใหญ่ รวมทั้งยังได้รับหน้าจอ Head-up Display




คอนโซลกลางออกแบบให้เป็นเรเยลแบบ 2 ชั้น โดยด้านล่างจะเป็นช่องที่ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย มาพร้อมช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง




ด้านชุดอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารของ Volvo ES90 จะได้รับชุดเครื่อเสียงพร้อมลำโพง Bowers & Wilkins 25 ตัว, ชุดไฟ Ambient Light ที่สามารถเลือกธีมได้ 6 แบบ, ระบบปรับอากาศเป็นแบบ 4 โซน พร้อมระบบฟอกอากาศขั้นสูง สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 เข้ามายังห้องโดยสารได้มากถึง 95% และสามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้จากหญ้า, ต้นไม้ และเกสรดอกไม้ได้สูงสุดถึง 99.9%

สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจะมีขนาดความจ 495 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะหลังลงจะขยายพื้นที่ได้สูงสุด 730 ลิตร)



สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนของ Volvo ES90 ซีดานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่นี้ (สเปคที่เปิดตัวในยุโรป) จะมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นดังนี้
- รุ่น Single Motor Extended Range ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ที่คู่ล้อหลัง (RWD) ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.9 วินาที จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 92 kWh ให้ระยะทางขับขี่ 680 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP)
- รุ่น Twin Motor จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (AWD) ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.5 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 106 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1ครั้งให้ระยะทางวอ่งไกลสุด 700 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP)
- รุ่น Twin Motor Performance โดยจะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าเป็น 680 แรงม้า ให้แรงบิดมากถึง 870 นิวตันเมตร ให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4 วินาที ส่วนแบตเตอรี่มีขนาดเท่ากับรุ่น Twin Motor ให้ระยะทางวิ่งเทากันที่ 700 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP)

ES90 จะมากับเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V รองรับการชาร์จไฟแบบ DC กำลังไฟสูงสุด 350 kW ที่สามารถเพิ่มระยะทางขับขี่ได้มากสุดถึง 300 กม. ภายในเวลาเพียง 10 นาที

สำหรับ Volvo ES90 สเปคที่จะเปิดตัววางขายในไทยนั้น ต้องมารอลุ้นกันว่าจะเอาแบบไหนเข้ามาทำตลาด รวมทั้งสนนราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่ 22 ตุลาคม นี้ ได้ทราบกันอย่างแน่นอน

ทั้งนี้หากมีข้อมูล และรายละเะอียดเพิ่มเติมออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้ทราบอีกครั้งโดยทันที..ครับ
