หลังจากทาง Wuling ได้เปิดวางจำหน่าย Wuling Starlightht PHEV รถยนต์ซีดานขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด เมื่อปลายปี 2033 ที่ผ่านมา ล่าสุดที่ภายในงาน Beijing Auto Show 2024 ทางวู่หลิง แบรนด์รถในสังกัดของทาง SAIC-GM-Wuling (SGMW) ที่เน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กได้เปิดตัว ประกาศราคาจำหน่ายของ Wuling Starlight EV โดยมี 2 รุ่นย่อย 410 Standard Edition และ 510 Advanced Edition เปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่ 99,800 หยวน หรือราว ๆ 5.2 แสนบาท และ 109,800 หยวน หรือประมาณ 5.73 แสนบาท ตามลำดับ
ในด้านงานดีไซน์ของ Starlight เวอร์ชั่นไฟฟ้า จะเหมือนกับในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด ยกเว้นด้านหน้าที่จะมากับกระจังหน้าแบบปิดทึบ พร้อมติดตราโลโก้ไว้ที่ขอบกระจังหน้าด้านบน มาพร้อมไฟ DRL LED ที่มาในรูปทรงตัว L ซึ่งแตกต่างจากเวอร์ชั่น PHEV ที่เป็นแถบไฟ LED ที่เป็นเส้นวางพาดตามขอบใต้ฝากระโปรงหน้า
มาพร้อมชุดไฟส่องสว่างทรงสี่เหลี่ยมคางหมูดวงโต ที่อยู่ 2 ฝั่งของตัวกันชนหน้า โดยมีแถบชิ้นงานสีดำเชื่อมต่อชุดไฟหน้าทั้งสองฝั่งเอาไว้ พร้อมเสริมความหรูหราให้กับตัวรถด้วยแถบชิ้นงานสีโครเมียมที่ปลายสเกิร์ตหน้า และที่กาบบันไดข้าง
เส้นสายด้านข้างตัวรถเน้นความโฉบเฉี่ยว มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทนปัดเงาที่มีลวดลายคล้ายรูปดาวขนาด 18 นิ้ว และมือจับประตูแบบกึ่งซ่อนสร้างบรรยากาศแบบรถสปอร์ต พร้อมตกแต่งรอบกรอบหน้าต่างบานข้างด้วยเส้นโครเมียม ที่ช่วยยกระดับความหรูหราให้กับตัวรถ
ด้านท้ายรถนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเวอร์ชัน PHEV ยังคงจะมาในรูปทรงแบบฟาสต์แบ็คท้ายลาด กระจกบานท้ายขนาดใหญ่ ชุดไฟท้าย LED ที่ถูกออกแบบให้เป็นเส้น รูปตัว C เชื่อมต่อเข้าหากัน ขณะที่ในส่วนปลายของฝากระโปรงท้ายดีไซน์ใหม่เหมือนกับเป็นชุดสปอยเลอร์ท้ายในตัว เสริมความดุดันด้วยดิวฟิเซอร์สีดำที่กันชนท้าย ด้วยการออกแบบตัวรถให้ลดแรงต้านอากาศ ส่งผลทำให้ซีดานไฟฟ้าตัวใหม่นี้มีค่าสัมประสิทธิ์เสียดทานที่ต่ำเพียง 0.228Cd เท่านั้น
ในด้านมิติขนาดตัวรถอยู่ในพิกัดซีดานขนาดกลางโดยมีความยาวอยู่ที่ 4,835 มม. ความกว้าง1,860 มม. ความสูง 1,515 มม. และระยะฐานล้อ 2,800 มม.
ภายในห้องโดยสารรองรับได้ 5 ที่นั่ง โดยจะมีเฉดสีภายในให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีเบจ แผงแดชบอร์ดจะมากับแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 15.6 นิ้ว (ส่วนรุ่นเริ่มต้นมีขนาด 10.1 นิ้ว) และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง 2 ก้านแบบท้ายตัด
นอกจากนั้นในรุ่นท๊อป ยังจะได้รับระบบปฏิบัติการ Ling OS รวมถึงมีระบบโต้ตอบด้วยเสียง และรองรับการนำทาง รีโมทคอนโทรล, อัปเดต OTA และบลูทูธ รวมทั้งยังรองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น iQiyi และ QQ Music
คอนโซลกลางจะมากับคันเกียร์ไฟฟ้าแบบหมุน ปุ่มเบรกมือไฟฟ้า และแป้นควบคุมระบปรับอากาศ ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องว่างสามารถวางของสัมภาะระขนาดเล็ก ๆ
เบาะที่นั่งฝั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง นอกจากนี้ เบาะนั่งด้านหน้าสามารถพับไปด้านหลังได้ 180° และเชื่อมต่อกับเบาะหลังให้เป็นเตียงนอนขนาดใหญ่
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับพอร์ตชาร์จ USB Type C, เบาะนั่ง ISOFIX, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง, ระบบเครื่องเสียง 4 ลำโพง โดยในรุ่นท๊อปจะเพิ่มลำโพงคู่หน้าอีก 2 ตัว
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บของ 14 ช่องทั่วรถ และที่เก็บสัมภาระขนาด 540 ลิตร ซึ่งสามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้วได้ 2 ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว 4 ใบ
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะได้รับระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้, ระบจดจำป้ายจราจร, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า และระบบเตือนรถออกนอกเลน เป็นต้น
Wuling Starlight EV ยังคงถูกพัฒนาขึ้นบนสถาปัตยกรรม Tianyu EV ที่รองรับทั้งในรูปแบบ EV, PHEV, HEV และ EREV ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนทั้ง 2 รุ่น จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวไว้ที่คู่ล้อหลัง โดยในรุ่น 410 Standard Edition จะให้กำลัง 100kW หรือ 134 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร ขณะที่ในรุ่น 510 Advanced Edition จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 150kW หรือ 201 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ขณะความเร็วสูงุสดจะอยู๋ที่ 160 กม./ชม. เท่ากัน
ชุดแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมเหล็กฟอสเฟตโดยในรุ่น 410 Standard Edition จะมีขนาด 41.9 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 410 กม. ส่วนในรุ่น 510 Advanced Edition จะมีขนาด 54.5 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 510 กม. (CLTC) รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่จะให้กำลังไฟจาก 30% – 80% ในเวลา 15 นาทีและ 20 นาที ตามลำดับ
Wuling Starlight EV จะมีเฉดสีตัวให้เลือกได้ 4 สี ได้แก่ สีแดง Star Flame Red, สีเทา Star Sand Grey, สีดำ Star Curtain Black และสีทอง Star Sparkle Gold
สำหรับราคาจำหน่ายทาง Wuling เปิดราคาไว้ที่ 99,800 หยวน หรือราว ๆ 5.2 แสนบาท และ 109,800 หยวน หรือประมาณ 5.73 แสนบาท