หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง XPENG แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ได้เผยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยว พร้อมเปิดรับจองล่วสงหน้า สำหรับ MONA M03 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่อยู่ในซับแบรนด์ใหม่ของทางเอ็กซ์เผิงอย่าง MONA (ย่อมาจากคำว่า “Made Of New AI”)
ล่าสุดที่ในงานฉลองครบรอบ 10 ปี ของแบรนด์ ทาง XPENG ได้ใช้เวทีในงานในงาน เปิดตัวพร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่้างเป็นทางการ MONA M03 ซีดานแฮทช์แบ็กไฟฟ้าตัวใหม่
โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 119,800 – 155,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.7 – 7.4 แสนบาทเท่านั้น
สำหรับ XPENG MONA M03 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ที่มาในรูปแบบซีดานแฮทช์แบ็ก โดยทางเอ็กซ์เผิงวางตำแหน่งให้ออกมาเป็นคู่แข่งของทาง Tesla Model 3
ในด้านงานออกแบบดีไซน์จะมากับรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย โดยถูกดีไซน์ด้วยภาษาการออแบบที่เรียกว่า “Smart Design AI Quantitative Aesthetics” ซึ่งจะเน้นจับกลุ่มลูกค้าสำหรับคนรุ่นใหม่
ด้านหน้าตัวรถจะมากับชุดไฟหน้า LED ที่ติดตั้งหลอดไฟกว่า 300 ดวง ที่ให้ส่องแสงสว่างได้ไกลถึง 150 เมตร
นอกจากนั้นตัวรถยังจะถูกประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนต่างๆ ที่ช่วยให้มีระบบแอโรไดนามิกที่ดี ไม่ว่าจะเป็นช่องดักลมแอคทีฟที่ด้านล่างกันชนหน้า โดยสามารถดูดอากาศเข้าได้โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์และระบายความร้อนในระบบส่งกำลัง รวมทั้งยังมาพร้อมกับ Wind Guide Plate ที่ด้านหลัง
ด้านข้างมือเปิดประตุูมาในแบบก้านที่ซ่อนราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมล้อแบบ Aero Wheel ที่ออกแบบให้ลดแรงต้านอากาศ โดยจะมีให้เลืดกทั้งขนาด 18 นิ้วซึ่งเป็นชุดมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีล้อสปอร์ตขนาด 19 นิ้วเป้นออปชันเสริมให้เลือก
ซึ่งทาง XPENG เผยว่า MONA M03 จะเป็นซีดานไฟฟ้าที่มีแอโรไดนามิกดีที่สุดในโลก ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.194 Cd โดยเฉือนเจ้าของสถิติเดิมอย่าง BYD YangWang U6 ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.195 Cd ไป 0.001
ด้านขนาดมิติตัวรถของ MONA M03 จะมีความยาว 4,780 มม. กว้าง 1,896 มม. สูง 1,445 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,815 มม.
สำหรับ Mona M03 จะมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 5 สีได้แก่ สีชมพู Xinghan Rice, สีน้ำเงิน Xingyao Blue Blue, สีดำ Night Blackt, สีเทา Xingque Gray และสีขาว Nebula White
ขณะที่ภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่สีเทา Morning Mist Gray, สีฟ้า Noon Blue และสีเทาดำ Night Gray
งานออกแบบมาในสไตล์มินิมอลที่เน้นความเรียบหรู โดยจะลดปุ่มสั่งงานต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร แผงแดชบอร์ดจะมีเพียงพวงมาลัยเป็นแบบสองก้าน ที่มีเพียงลูกกลิ้งสำหรับควบคุม และหน้าจอควบคุมกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 โดยจะมีหน่วยความจำมาให้มากถึง 16GB เป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบภายในรองรับภาพพานาโนแบบ 360 องศา และแผนที่เรนเดอร์แบบ 3 มิติ และในกรณีที่แผนที่แสดงมุมมองแบบไดนามิก 3 มิติ แผนที่จะถูกเรนเดอร์แบบเรียลไทม์ ทำให้เห็นสภาพจริงแทนที่จะอ้างอิงตามหน่วยความจำ
รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบสั่งงานด้วยเสียง และท่าทาง โดยสามารถสั่งงานแยกได้ทั้งผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง รองรับการสนทนาต่อเนื่องได้ยาวถึง 20 วินาที
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับ ชุดไฟ Ambient Light 256 สี, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง PSS 18 ตัว และมีระบบเสียงพาโนรามา Compose 7.1.4, แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, การอัปเดตแบบ OTA, กุญแจ Keyless Entry, ระบบควบคุมสั่งงานจากสมาร์ตโฟน พร้อมรองรับระบบ WiFi/4G ในรถ และฟังก์ชันการจองการชาร์จ
รวมทั้งยังได้รับการติดตั้งหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิกที่มีขนาดความใหญ่ถึง 1.22 ตร.ม. พร้อมทั้งยังกันรังสีอัลตราไวโอเลตที่มากถึง 99.9% และกันรังอินฟราเรดได้ถึง 97.6%
ด้านเบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนังเกรดคถุณภาพสูง โดยเบาะคู่หน้าจะมาพร้อมกับระบบทำความร้อน และระบายอากาศ
ในด้านความอเนกประสงค์ทาง XPENG ว่า MONA M03 จะมีพื้นที่เก็บของด้านท้ายที่มมีความจุมากถึง 621 ลิตร โดยจะสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 28 นิ้วได้ 1 ใบ และกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้ 4 ใบโดยไม่ต้องปรับเบาะที่นั่งด้านหลัง ต่อเมื่อปรับพับเบาะหลังลงจะมีพื้นที่เก็บของได้มากถึง 1,602 ลิตร
นอกจากนี้ทาง MONA M03 มีออปชันเสริมที่ให้ผู้ใช้สั่งซื้อเพิ่มเติมได้ เช่น แผงหน้าปัดเสริมแบบเสียบปลั๊กที่มีราคาอยู่ที่เพียง 599 หยวน หรือราว ๆ 3 พันกว่าบาท, เครื่องกระจายน้ำหอม, หมอนรองศรีษะ และพนักพิงหลัง, ช่องเก็บของที่มือจับประตู และม่านบังแดดแบบหลังคา
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ XPENG MONA M03 จะได้รับการติดตั้งเรดาร์ความยาวคลื่น 2 มิลลิเมตร เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 7 ตัว มาพร้อมระบบขับขี่อัจริยะระดับ L2 ที่ทาง XPENG เคลมว่าดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวที่อยู่ในตลาด
ด้านพละกำลังขับเคลื่อนในทุกรุ้นจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่วางอยู่คู่ล้อหน้า โดยในรุ่นเริ่มต้น Long Range จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 140 kW (188 แรงม้า) แรงบิด 225 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) แบบ Blade Battery จาก FinDreams ของ BYD ความจุ 51.8 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ไกลสุด 515 กม.
ส่วนในรุ่น Super Long Range และรุ่น Super Long Range Max จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 160 kW (215 แรงม้า) แรงบิด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต แบบ Blade Battery จาก FinDreams ของ BYD ขนาดความจุ 62.2 kWh ชาร์จไฟวื่งไกล 620 กม. ส่วนในรุ่น Max มีระยะทางวิ่งอยู่ที่ 580 กม.
มาพร้อมสถาปัตกรรม 800 รองรับหัวชาร์จ Type 2/CCS Combo จ่ายกระแสไฟฟ้า 220V ให้อุปกรณ์ภายนอก V2L
ในด้านราคาจำหน่ายของ XPENG MONA M03
- รุ่น Long Range 515 ราคา 119,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 5.7 แสนบาท
- รุ่น Super Long Range 620 ราคา 129,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 6.18 แสนบาท
- รุ่น Super Long Range Max 580 ราคา 155,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 7.42 แสนบาท
สำหรับ XPENG MONA M03 ในรุ่น Long Range 515 และ รุ่น Super Long Range 620 จะเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ส่วน Super Long Range Max 580 จะลงตลาดในช่วงหลังตรุษจีนในปี 2025 เป็นต้นไป