หลังจากที่ทาง Xpeng ได้เปิดตัววางจำหน่าย Xpeng P7i เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Xpeng ได้ประกาศเปิดตัว P7i รถซีดานเรือธงรุ่นใหม่สองรุ่น โดยในเวอร์ชันใหม่นี้จะใช้ชื่อรุ่นว่า P7i 550 Pro และ P7i 550 Max
ซึ่งความแตกต่างจากรุ่นที่ผ่านมาจะเป็นการปรับเปลี่ยนชุดแบตเตอรี่ใหม่ จากเดิมที่เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบไตรภาค ที่มีขนาดความจุอยู่ที่ 86.2 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ไกล 702 กม. เปลี่ยนมาใช้เป็นชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP) ขนาดความจุ 64.4 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 550 กม. และที่สำคัญปรับราคาจำหน่ายลงจากรุ่นเดิมที่มีราคาอยู่ที่ 249,900 หยวน หรือประมาณ 1.21 ล้านบาท โดยปรับลดลงมาถึง 26,000 หยวน หรือประมาณ 1.26 แสนบาท
โดย Xpeng ในรุ่น P7i 550 Pro จะมีราคาเริ่มต้นที่ 223,900 หยวนหรือราว 1.09 ล้านบาท และรุ่น P7i 550 Max จะมีราคาอยู๋ที่ 239,900 หยวนหรือประมาณ 1.19 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดตัวรถของ Xpeng P7i 550 ทั้ง 2 รุ่นย่อยใหม่นี้ ยังคงมีดีเทลที่เหมือนกับ Xpeng P7i รุ่นที่ผ่านมา โดยตัวรถถูกอัปเกรดขึ้นมาจากรุ่น P7 ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก ตัวรถยังคงมาในคูเป้ท้ายลาด ประตูเปิดแบบปีกนก อีกทั้งตัวรถที่ออกแบบให้ดูเพรียวบาง มาพร้อมกับเส้นสายตัวโค้งมน ไร้เหลี่ยมส้น จึงทำให้มิติตัวรถดูพริ้วไหว
มาพร้อมชุดไฟหน้า LED แบบแยกส่วนโดยจะมีไฟ DRL LED ที่เป็นเส้นวางพาดโค้งเต็มส่วนด้านหน้า โดยทางผู้ผลิตเรียกชุดไฟนี้ว่าชุดไฟ PENGYI ขณะที่ชุดไฟหน้าส่องสว่างจะถูกแยกออกมาอยู่ในกรอบทรงเหลี่ยมแบบมนที่ด้านล่าง
ด้านข้างตัวรถออกแบบให้มีความลู่ลมลดแรงต้าน และแรงเสียดทานอากาศ ดีไซน์มือเปิดประตูให้ฝังเรียบไปกับตัวถังรถ มาพร้อมระบบกับปีกหลัง รวมถึงกระจกบังลมพาโนรามาที่ราบเรียบ ช่วยทำให้ตัวรถมีค่าแรงเสียดทานอยู่ที่ 0.236 Cd ส่วนด้านหลังจะมากับ ชุดไฟท้าย Galaxy LED ที่วางพาดเต็มพื้นที่ส่วนท้าย
ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาว 4,888 มม., กว้าง 1,896 มม., สูง 1,450 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,998 มม.
ภายในห้องโดยสารในส่วนแผงแดชบอร์ดมาพร้อมกับแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 15 นิ้ว มาพร้อมคุณสมบัติการสั่งงานด้วยเสียง มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Xmart OS 4.0 และใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon SA8155P
เบาะนั่งได้รับการออกแบบให้ตรงตามหลักสรีรศาสตร์ ตัวเบาะหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะคู่หน้าฝั่งผู็ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 1 2 ทิศทาง พร้อมปรับดันหลัง 4 ทิศทาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบหน่วยความจำ อีกทั้งเบาะคู่หน้า และด้านหลังยังได้รับระบบอุ่นเบาะ และระบบระบายอากาศ
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับ ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และไฟ Ambient Lighting ที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการขับ, ชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม, เชื่อมต่อพอร์ท USB Type-C ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบน้ำหอมภายในห้องโดยสาร และหลังคาพาโนรามาซันรูฟ
นอกจากนั้นในส่วนของประตูทุกบานจะเป็นแบบ ประตูไฟฟ้าแบบดูดที่ให้ความเงียบ และหรูหราดังรถหรูราคาแพง รวมทั้งฝาประตูหลังจะมาพร้อมกับระบบ Kick censer
และนอกจากนั้นทาง Xpeng ยังออกแบบพวงมาลัยมัลติฟังช์ชันใหม่ โดยมาพร้อมกับระบบปรับความร้อนได้ รวมทั้งยังติดตั้งกล้องไว้ที่พวงมาลัยเพื่อตรวจจับ และเตือนเมื่อผู้ขับขี่ละสายตาจากถนน
ในด้านพละกำลังจะมามอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรที่วางอยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 203 kW หรือให้กำลัง 272 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 6.4 วินาที ตัวรถสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 200 กม./ชม.
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP) ขนาดความจุ 64.4 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 550 กม. รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10% ถึง 80% ในเวลา 29 นาที นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น V2L ที่จ่ายไฟไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอกโดยจะให้กำลังไฟที่ 220V
สำหรับระบบช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยที่มีขนาด 18 – 19 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย) มาพร้อมคาลิเปอร์เบรกของ Brembo แบบ 4 พ๊อตที่คู่ล้อหน้า นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งระบบเบรกอัจฉริยะ iBooster เจเนอเรชั่นที่ 2 ช่วลงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่ ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 5-Link พร้อมติดตั้งโช้คอัพของทางฃ SACHS
ในด้านระบบความปลอดภัยของ Xpeng P7i มาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ XPILOT และระบบ LiDAR คู่ที่อยู่ในไฟหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มาพร้อมเซ็นเซอร์ 31 ตัว กล้องลิดาร์ 2 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว และเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว โดยเชื่อมต่อกับกล้อง 12 ตัว รอบคัน
สำหรับราคาจำหน่ายของ Xpeng P7i รุ่นย่อยใหม่นี้ โดยในรุ่น P7i 550 Pro จะมีราคาเริ่มต้นที่ 223,900 หยวนหรือราว 1.09 ล้านบาท และรุ่น P7i 550 Max จะมีราคาอยู๋ที่ 239,900 หยวนหรือประมาณ 1.19 ล้านบาท