หลังจากที่ทาง ZEEKR ประเทศไทยได้เปิดตัว ZEEKR X ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดทางผู้ผลิตรถจากประเทศจีน พร้อมที่จะเปิดตัว ZEEKR 009 (ซีเคอร์ 009) เอ็มพีวีระดับลักชูรีเพิ่มอีก 1 รุ่นในตลาดเมืองไทย โดยมีกำหนดการณ์ที่จะเปิดตัวพร้อมประกาศราคาจำหน่ายในวันที่ 23 กันยายน 2567 นี้
ZEEKR 009 นั้นได้เคยถูกนำมาโชว์โฉมแล้วในไทยเมื่อครั้งในงาน Motor Show 2024 และได้มีการเปิดให้จับจองก่อนล่วงหน้า โดยบอกว่าจะมีราคาอยู่ที่ใม่เกิน 3.5 ล้านบาท
สำหรับ ZEEKR 009 ที่จะได้รับการเปิดตัวในบ้านเราครั้งนี้จะมาในสเปคพวงมาลัยขวาซึ่งจะเป็นประเทศที่ 2 ต่อมาจากเกาะฮ่องกง
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ตัวรถจะมาในทรงรถตู้ที่รองรับได้ 6 ที่นั่ง ใช้โครงสร้างพื้นฐาน และไลน์ผลิตเดียวกับ Volvo EM90 โดยจะมีมิติตัวถังที่สูสีใกล้เครียงกับ MG Maxus 9, Toyota Alphard แต่เจ้า ซีเคอร์ 009 คันนี้จะอัดแน่นฟีเจอร์ ความหรูหราขั้นสุด มาพร้อมความสะดวกแบบสุดพรีเมียม
ดีไซน์ภายนอกด้านหน้าของตัวรถ จะมากับกระจังหน้าขนาดใหญ่สีเดียวกับตัวรถแบบปิดทึบดีไซน์หรูหรา ที่ประกอบไปไฟ LED ที่มาถึง 154 ดวง ซึ่งทางผู้ผลิตเรียกการออกแบบนี้ว่า “น้ำพุแห่งแสง”ใช้ไฟหน้า LED เต็มระบบ มาพร้อมกับไฟ DRL ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ZEEKR
ส่วนกระจังหน้า เป็นสีเดียวกับตัวรถ ขนายบข้างทั้ง 2 ฝั่ง ด้วยชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน ด้านบนจะเป็นไฟ DRL ดีไซน์แปลกตารูปแบบตัว U คว่ำ ด้านล่างจะเป็นไฟหน้าที่เชื่อมต่อกับช่องดักอากาศด้านล่าง
ด้านข้างตัวรถมาพร้อมกับซุ้มล้อขนาดใหญ่รับกับล้ออัลลอยลายสปอร์ตปัดเงาขนาด 20 นิ้ว รัดยางขนาด 265/45 R20 ประตูเปิดเข้าห้องโดยสารเป็นแบบบานสไลด์ทั้ง 2 ฝั่ง อีกทั้งยังออกแบบให้เสา A ถึงเสา D ด้านท้ายเป็นสีดำ เพื่อให้หลังคาดูลอยตัว
ด้านท้ายจะติดตั้งชุดไฟท้าย LED แบบตัว U คว่ำ ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนหลังโดยมีความยาวถึง1.76 เมตร และด้านในติดตั้งหลอดไฟมากถึง 402 ดวง คั้นตรงกลางด้วยอักษร ZEEKR แบบเรืองแสง 4 มิติ เติมความใสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเล็ก ๆ ด้วนสปอยเลอร์หลังคา ขณะที่ฝาท้ายจะเปิด- ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ZEEKR 009 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Platform) ของ GEELY โดยมีความยาว 5,217 มม., ความกว้าง 2,024 มม., ความสูง 1,812 มม., ระยะฐานล้อ 3,205 มม. ขณะที่ความสูงจากใต้ท้องรถจะอยู่ที่่ 142 มม. และมีน้ำหนักตัวรถที่ 2,830 กก.
ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถวรองรับได้ 6 ที่นั่งแบบ 2+2+2 (ถ้าอิงตามสเปคที่เปิดตัวฮ่องกง) มีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีดำ และสีครีม เบาะที่นั่งจะหุ้มด้วยนั่ง Nappa ทุกตำแหน่ง
ด้านเบาะแถวที่ 2 จะเป็นไฮไลท์หลักโดยจะเป็นเบาะแบบ VIP Lounge ปรับด้วยไฟฟ้ามาพร้อมหมอนรองขา เมื่อตอนเอนเบาะนอนจะช่วยให้เกิดความสบาย และบรรเทาความเมื่อยล้าจากการเดินทาง อีดทั้งยังมากับระบบนวด /ระบบเป่าลมเย็น และอุ่นร้อน โดยระะบบสั่งต่าง ๆ จะซ่อนอยู่ด้านล่างที่บริเวณที่เท้าแขน นอกจากนั้นยังมีแผงสวิตช์ควบคุมบนแผงประตูแบบ Smart Bar ขนาด 3.4 นิ้ว
อีกทั้งยังติดตั้งหน้าจอสำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 ขนาด 17 นิ้ว ที่มีความละเอียด 3K โดยทุกอย่างจะเป็นแบบระบบสัมผัสทั้งหมด
รวมทั้งยังได้รับช่องเก็บของที่สามารถปรับปรับควบคุมอุณหภูมิร้อน-เย็นได้ตั้งแต่ -6°C – 50°C โดยมีขนาด 8.6 ลิตร และยังได้รับหลังคากระจกพาโนรามาขนาดใหญ่แบบสองตอน พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า Dual Panoramic Glassroof
ขณะที่ในส่วนของแผงคอนโซลหน้า จะได้รับมาตรวัดความเร็วแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape แบบสามก้าน มาพร้อมหน้าจออินโฟรเทนเมนต์ที่มาในแบบแขวนอยู่บนแผงแดชบอร์ดขนาด 15.05 นิ้ว ที่มีความคมชัดแบบ 2.5 K รองรับระบบปฏิบัติการ ZEEKR OS แบบ Snapdragon รองรับเชื่อมต่อ 5G ประมวลผลเร็วด้วยชิป 2 ตัว Qualcomm 8295 อีกทั้งยังได้รับ หน้าจอ AR-HUD ขนาด 35395 นิ้วที่สะท้อนข้อมูลไปยังกระจกบังลมหน้า
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในยังจะได้รับ กระจกมองหลังดิจิทัล มาพร้อมกระจกกันเสียงรบกวนหนา 2 ชั้น,แท่นชาร์จสมารืตโฟนแบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิ 3 โซน พร้อมระบบฟอกอากาศแบบแอคทีฟซึ่งสามารถขจัดฝุ่นละออง PM2.5, ชุดเครื่องเสียงลำโพง YAMAHA 20 ตำแหน่ง รวมถึงลำโพงที่ติดตั้งไว้ในพนักพิงศีรษะของเบาะด้วยกำลังขับรวม 2,460W และชุดไฟ Ambient Light
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมากับมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ให้กำลังมากถึง 603 แรงม้า แรงบิด 693 นิวตันเมตร มาพร้อมสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 400V ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. มีโหมดการขับขี่ทั้ง Comfort, Economy, Sports, Personalized, Snow และ One Pedal
มาพร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ และโช้คถุงลม Air Suspension สามารถลดความสูงของตัวรถได้ ชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ในขณะชะลอตัว Braking Energy Regeneration
จับคู่กับแบตเตอรี่ Lithium Nickel ternary จาก CATL ขนาดความจุ 116 kWh ชาร์จไฟเต็มให้ระยะทางการวิ่งไกลสุด 582 กม. (WLTP)
รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟ 360 W ชาร์จไฟจาก 10-80% ในเวลา 30 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC การชาร์จสูงสุด 11 kW มาพร้อมกับระบบ V2L จ่ายไฟออกได้สูงสุด 6 kW ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่จะได้รับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ที่มาในแบบจัดเต็ม
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงรายละเอียดบางส่วนของ ZEEKR 009 ยนตรกรรมไฟฟ้า MPV ระดับลักชูรี ที่ยกรายละเอียกของเวอร์ชันฮ่องกงมา ส่วนสเปคในไทยจะเป็นอย่างไร มีอะไรมากน้อยแตกต่างกันขนาดไหน วันที่ 23 กันยายนนี้ได้ทราบกันอย่างแน่นอน รวมทั้งราคาจำหน่ายที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว ๆ 3.3 – 3.4 ล้านบาท
ทั้งนี้ทั้งนั้นหากมีข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ ออกมาทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันอักครั้งหนึ่ง