บีวายดีจัดเป็นค่ายรถยนต์จากประเทศจีน ที่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในตลาดประเทศไทยมากเป็นอันดับต้น ๆ โดยในปีนี้ 2567 นี้ เปิดมาแล้ว 3 รุ่น ไล่เรียงมตั้งแต่ BYD ATTO 3 รุ่นปี 2024 ที่มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ จากนั้นตามมาด้วย BYD SEALION 6 DM-i Super Hybrid และ BYD M6 เอ็มพีวีไฟฟ้ารุ่นแรกในตลาดเมืองไทย รวมทั้งแบรนด์รถที่อยู่ในเครืออย่างทาง DENZA ที่ล่าสุดได้เปิดตัว DENZA D9 เอ็มพีวีไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ชาร์จไฟวิ่งไกล 600 กม.
ล่าสุดทาง BYD เตรียมเปิดตัวรถุรุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่นในตลาดเมืองไทย ซึ่งจะเป็น 1 ใน 5 รุ่นใหม่ของค่ายที่เตรียมนำเข้าขายเมืองไทย นั้นก็คือ BYD SeaLion 07 เอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า โดยพร้อมเปิดตัวในไทยในวันที่ 28 พ.ย. นี้ทีในงาน Motor Expo 2024 ซึ่งจะเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากเพื่อนบ้านเราอย่างในมาเลเซีย
โดย BYD SeaLion 07 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่นี้ จะเข้ามาเป็นน้องใหม่อย่างเป็นทางการในตระกูล Ocean ของ BYD ที่ต่อมาจาก BYD Dolphin แฮทข์แบ็กไฟฟ้า 5 ประตู, BYD Seal ซีดานไฟฟ้าหรูตัวแรง และ BYD Seagull แฮทช์แบคไฟฟ้าขนาดเล็ก
SeaLion 07 ที่จะเปิดตัวในไทยคาดว่าจะมีสเปคเดียวกันกับในมาเลเซีย โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่นทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว Sealion 7 Premium (RWD) และมอเตอร์คู่ Sealion 7 Performance (AWD) มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 82.56 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 542 / 567 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ลุ้นราคาเริ่มอยู่ที่ประมาณ 1.2XX ล้านบาท
โดย BYD SeaLion 07 จะชูดจุดเด่นที่มากับแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 และเทคโนโลยี CTB (Cell to Body) ที่คล้ายกับ CTC (Cell to Chassis) โดยเทคโนโลยี CTB จะเป็นการรวมแพ็คแบตเตอรี่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของตัวถังรถยนต์ ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการชนจากด้านหน้า 60% มีความต้านทานจากการเสียหายของห้องโดยสาร 50% มีโครงแข็งแกร่งขึ้น 60% เมื่อเทียบกับมาตรฐานอุตสาหกรรม อีกทั้งยังช่วยหากเกิดการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อได้รับการชนน้อยกว่า 5 มม. ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารมากขึ้น
ในด้านงานดีไซน์จะได้รับการถ่ายทอด DNA มาจาก Ocean-X 07 รถยนต์ต้นแบบที่ได้รับการอกกแบบจากทางทีมงาน Audi Wolfgang Egger หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BYD
รูปลักษณ์โดยรวมมีกลิ่นอายที่แอบคล้ายกับ BYD Seal โดยเฉพาะในส่วนของชุดไฟหน้า มาพร้อมเส้นสายด้านข้างตัวรถเน้นความโฉบเฉียว มือจับประตูออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ ขณะที่หลังคาด้านท้ายลาดเทเหมือนรถในรูปแบบคูเป้ ที่ช่วยลดแรงต้านอากาศ พร้อมเติมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคา และสปอยเลอร์ที่ฝาประตูท้าย โดยจะมีแรงต้ายอากาศอยู่ที่ 0.28 cd
ขณะที่ชุดไฟท้ายจะมาในแบบพาดยาวเต็มพื้นที่ ที่มีลักษณ์ะคล้ายกับของทาง Dolphin เสริมความดุดิบด้วยดิวฟิวเซอร์สีดำขนาดใหญ่
ด้านล้อออัอลอยจะมีขนาดที่แตกต่างกันโดยในรุ่นเริ่มต้นจะมีขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยาง 235/50 R19 ที่คู่ล้อหน้า และยาง 2545/50 R19 ที่คู่ล้อหลัง ส่วนในรุ่นท็อปตัวแรงจะมีขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยาง 245/45 R20 ทั้งคู่หน้า และหลัง
ด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาวอยู่ที่ 4,830 มม. ความกว้าง 1,925 มม. ความสูง 1,620 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,930 มม. มาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัวอัจฉริยะ DiSus Intelligent Body Control System ที่จะทำการปรับเซตค่าความหนืดของช่วงล่างรถ โดยการปรับโซลินอยล์วาล์วที่อยู่ในกระบอกโช้ค ทำให้ได้การขับขี่ที่นุ่มนวลมากกว่า
สำหรับด้านในห้องโดยสารของ SeaLion 07 นั้นจะได้รับการตกแต่งด้วยความหรูหรา มาในโทนสีดำ แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าปัดดิจิตอลขนาด 10.2 นิ้ว โดยมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงใหม่แบบ 4 ก้านหุ้มด้วยหนัง มาพร้อมหน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบหมุนได้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทาง BYD ติดตั้งอยู่ตรงกลางโดยมีขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมทำงานด้วยระบบ DiLink 100 ซึ่งขับเคลื่อนโดยชิป 6 นาโนเมตร อีกทั้งยังรองรับการควบคุมด้วยเสียง รวมทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบไร้สาย
นอกจากนั้นยังได้รับหน้าจอ AR-HUD ที่มาขนาดใหญ่ถึง 50 นิ้ว โดยจะสะท้อนข้อมูลการขับขี่ไปยังกระจกบังลมหน้า รวมทั้งยังมีเซนเซอร์ Driver Attention Warning ที่เป็นระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ติดตั้งไว้ที่บริเวณเสาด้านใน
ด้านคอนโซลกลางดีไซน์ให้เป็นแบบเรเยล มาในแนวเฉียงเชื่อมต่อกับแผงแคอนโซลหน้า โดยจะมากับคันเกียร์ขนาดเล็กที่ทำงานคริสตัล พร้อมรายล้อมด้วยปุ่มควบคุมสั่งงานที่มาทั้งในรุปแบบกดปุ่ม /สัมผัส และคันสวิทซ์สั้น ๆ มาพร้อมอท่นชาร์ตสามาร์ตโฟนแบบไรัสาย
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับชุดไฟ Ambient light ที่ปรับเปลี่ยนสีได้มากถึง 128 สี มาพร้อมระบบเสียง Dynaudio และลำโพง 12 ตัว นอกจากนั้นยังมาช่องเชื่อมต่อ USB Type A / Type C 2 ตำแหน่ง ด้านหน้า และช่องเชื่อมต่อ USB Type A / Type C 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง รวมทั้งช่องงจ่ายไฟ 220V, ระบบคาราโอเกะ,หลังคากระจกขนาดใหญ่ และกุญแจ NFC
ด้านเบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนังเกรดคุณภาพสูง มาพร้อมรูระบายอากาศ รวมทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ และระบบนวด นอกจากนี้ ในส่วนของแผงประตู, พวงมาลัย และอื่น ๆ ภายในรถก็หุ้มหนังเกรดคุณภาพสูง
สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายของ BYD SeaLion 07 จะมีความจุที่มากถึง 500 ลิตร รวมทั้งยังมีพื้นที่เก็บของส่วนหน้าเมื่อเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นจะมีช่องเก็บของที่มีความจุ 58 ลิตร
SeaLion 07 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของทาง BYD ที่ได้รับติดตั้งระบบ ADAS DiPilot 100 “God’s Eye” ซึ่งทำงานร่วมกับเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว เรดาร์คลื่น 5 มม. และกล้อง 11 ตัว มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ L2 ขั้นสูง อาทิ ระบบช่วยรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน, ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบจดจำป้ายจราจร, ระบบควบคุมความเร็วแบบอัจฉริยะ, ถุงลมนิรภัย 11 ใบ, ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง และระบบตรวจสอบผู้ขับขี่
BYD SeaLion 07 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพตลฟอร์ม e-platform 3.0 ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมีให่้เลือกทั้งมอเอตร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 230 kW (313 แรงม้า) PS แรงบิด 380 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.7 วินาที
ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยมอเตอร์ที่ด้านหน้าให้กำลัง 160 kW (218 แรงม้า) PS แรงบิด 310 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ด้านหลังให้กำลัง 230 kW (313 แรงม้า) PS แรงบิด 380 นิวตันเมตร ให้กำลังรวม 390 kW ( 530 แรงม้า) PS แรงบิด 690 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 -100 กม./ชม. 4.5 วินาที ความเร็วสูงุสดทั้ง 2 รุ่นจะอยู่ที่ 225 กม./ชม.
สำหรับชุดแบตเตอรี่ทั้ง 2 รุ่น จะเป็นแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนฟอสเฟต Blade (LFP) ขนาด 82.56 kWh โดยในรุ่น Sealion 7 Premium (RWD) ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทาง 567 กม. (NEDC) ส่วนในรุ่น Sealion 7 Performance (AWD) ชาร์จไฟเต็มจะวิ่งได้ไกลสุด 542 กม.
รองรับการชาร์จไฟ AC ขนาด 11KW และรองตรับการชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 150 KW ให้กำลังไฟ 10 – 80% ภายใน 32 นาที
สำหรับ BYD SeaLion 07 เอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าใหม่จะมีเฉดสีให้เลือก 4 สีได้แก่ สีน้ำเงิน Atlantis Grey, สีเทา Shark Grey, สีขาว Aurora White และสีดำ Cosmos Black
ทั้งนี้ทั้งนั้นรายละเอียด รวมทั้งราคาจำหน่าายที่แท้จริงของ BYD SeaLion 07 คงต้องในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 พ.ย. นี้ ในงาน Motor Expo 2024
ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง