บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดราคาพิเศษในช่วงเปิดตัวของ Honda HR-V e:HEV รุ่น Minorchange ใหม่ทั้ง 3 รุ่นย่อย โดยมีราคาดังนี้
- รุ่น e:HEV E ราคา 899,000 บาท
- รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
- รุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท
สำหรับ Honda HR-V e:HEV (ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่นี้จะมาพร้อมกับการอัปลุคใหม่ ที่ดูสปอร์ตพรีเมียมขึ้น ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร อีกทั้งยังเพิ่มเติมฟังก์ชันให้มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งาน และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลายได้อย่างลงตัว
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ Honda HR-V e:HEV รุ่น Minorchange ปรับโฉมใหม่นี้ จะมากับลุคใหม่ที่มีความสปอร์ตมากกว่ารุ่นที่ผ่านมา
ไล่มาตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ขณะที่ในรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E ก็ได้รับกระจังหน้าใหม่เช่นกัน แต่จะเป็นสีเดียวกับตัวรถ
นอกจากนั้นยังจะได้รับชุดไฟท้ายแบบ LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke ที่เสริมความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น มาพร้อมชุดล้ออัลลอยใหม่ ดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว สีดำ Berlina Black แบบ Diamond Cut (รุ่น RS)
ภายในห้องโดยสารของ Honda HR-V e:HEV 2024 ยังคงมาพร้อมกับความกว้างขวาง โปร่งโล่ง สะดวกสบายทุกที่นั่ง อีกทั้งยังเพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งานใหม่ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่ คอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
ในส่วนแผงแดชบอร์ดจะได้รับระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาพร้อมมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ใหม่ ที่มาพร้อมจอแสดงไฟเบรก
อีกทั้งยังอัปเกรดในส่วนของช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
สำหรับในด้านเทคโนโลยี และฟังก์ชันการใช้งาน จะสมารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย อาทิ
- ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close)
- เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (รุ่น e:HEV EL)
- เพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (รุ่น e:HEV EL)
- เพิ่มแผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E)
- เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV E)
- เพิ่มจำนวนลำโพงเป็น 6 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV E)
ขณะที่ในด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีการขับขี่ ในทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่เพิ่มเติมฟังก์ชันใหม่! อาทิเช่นระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (รุ่น e:HEV RS), ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (รุ่น e:HEV RS), เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV RS), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake), ระบบ Auto Brake Hold และระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Honda HR-V e:HEV รุ่น Minorchange ใหม่ จะมากับขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ที่ให้กำลัง 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ให้กำลัง 105 แรงม้า มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร โดยทางฮอนด้าเคลมไว้ว่าน้ำมันเพียง 1 ถัง จัะวิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 800 กม.
ด้านเฉดสีตัวถังของ Honda HR-V e:HEV 2024 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่จะมีให้เลือก 6 สี ได้แก่
- สีกากีแซนด์ (มุก) Sand Khaki Pearl หลังคาดำ (เฉพาะรุ่น EL/RS) (สีใหม่ที่เพิ่มเข้ามาล่าสุด)
- สีแดงอิกไนต์ Ignite Red Metallic หลังคาดำ (เฉพาะรุ่น RS)
- สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) Premium Sunlight Pearl
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) Meteoroid Gray
- สีขาวแพลทินัม (มุก) Platinum White Pearl
- สีดำคริสตัล (มุก) Crystal Black Pearl
โดยสามารถสัมผัส ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ และพบกันที่บูทฮอนด้า (A08) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 (The 41st Thailand International Motor Expo 2024) ณ อาคาร IMPACT Challenger เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567