มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว New Xpander HEV PLAY และ New Xpander Cross HEV PLAY รถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็กรุ่นพิเศษ ที่จะมาเติมเต็มความสนุกของครอบครัวยุคใหม่ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดแอ็กทีฟ เคาะราคาไว้ที่ 981,000 บาท ทั้งสองรุ่น มีจำนวนจำกัด
สำหรับ Mitsubishi Xpander HEV PLAY (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์) และ Mitsubishi Xpander Cross HEV PLAY (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เพลย์) เป็นรถรุ่นพิเศษที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก ของรถจากซีรีส์ Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์)
ในด้านงานออกแบบจะมากับชุดแต่งดำ ที่สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียมอันโดดเด่น และสะดุดตา โดยจะเริ่มจากกระจังหน้าตกแต่งไดนามิกชิลด์สีดำ มาพร้อมไฟหน้า และกรอบไฟหน้าสีดำ
เสริมความเข้มรอบคันด้วยชุดตกแต่งชายกันชนหน้า กันชนข้างและกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง ที่เป็นชิ้นงานสีดำทั้งหมด รวมทั้งในส่วนของหลังคา / กระจกมองข้าง /คิ้วขอบกระจกประตู / เสาอากาศแบบครีบฉลาม ที่จะมาในเฉดสีดำ ปิดท้ายความดุด้วยล้ออัลลอยสีดำ ที่เติมกิมมิคด้วยเส้นสีฟ้าที่ด้านในเพื่อบ่งบอกว่าเป็นรถขุมพลัง HEV นอกจากนี้ยังมีมือเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ และไฟท้ายแบบ LED สี Smoke
ส่วนในรุ่น Mitsubishi Xpander Cross HEV PLAY มาพร้อมกันชนหน้า / แผงตกแต่งข้างประตู แบบ Cross Design สีดำ และกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ
ด้านภายในห้องโดยสารของ Xpander HEV PLAY จะมาในแบบสีทูโทนดำ – น้ำตาล ขณะที่ในรุ่น Xpander Cross HEV PLAY จะเป็นเฉดสีดำ – น้ำเงิน
ในส่วนของแผงแดชบอร์ดทั้ง 2 รุ่น จะมากับมาตรวัดแบบ Full Digital สี TFT ขนาด 8 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play / Android Auto และระบบ Bluetooth
ด้านชุดอุปกรณ์จะมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน และหัวเกียร์จะหุ้มด้วยหนัง, ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger, ระบบปรับอากาศดิจิตอล มาพร้อมฟังก์ชัน Max Cool / สวิตซ์ควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง แบบแยกส่วน มาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังบนเพดาน, กระจกหน้าต่างไฟฟ้าพร้อมระบบ One-touch ฝั่งคนขับ, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ, ช่องต่ออุปกรณ์ USB บริเวณด้านหน้า1 ตำแหน่ง, กุณแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่สตาร์มเครื่องยนต์, ช่อง USB-A และ USB-C ในแถวที่ 2, ชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง, ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB มาพร้อมฟังก์ชั่น Auto Brake Hold, ถาดสำหรับเก็บ – วางรองเท้า ใต้เบาะนั่งด้านหน้า และช่องเก็บของใต้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังสังเคาราะห์ พร้อคุณสมบัติสะท้อนความร้อน เบาะนั่งแถวที่ 2 แบะ 3 ปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนมากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร MIVEC พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า 134 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 kW ที่ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า 255 นิวตันเมตร Full Hybrid ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ไปยังคู่ล้อหน้ามาพร้อม ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.7 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 1.1 kWh ให้อัตราการสิ้นเปลืองไว้ที่ 19.2 กม./ลิตร
มาพร้อมโหมดการขับขี่ Drive Mode ที่มีให้เลือกถึง 7 โหมดได้แก่ Normal Mode, Wet Mode, Gravel Mode, Tarmac Mode, Mud Mode และโหมดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) 2 โหมด ได้แก่ โหมด EV Priority Mode และ Charge Mode นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC)
สำหรับเฉดสีตัวถัวของ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี เพลย์ จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว White Diamond พร้อมหลังคาสีดำ และสีเทา Graphite Gray พร้อมหลังคาสีดำ
ขณะที่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี เพลย์ มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว White Diamond พร้อมหลังคาสีดำ, สีเทา Graphite Gray พร้อมหลังคาสีดำ และสีเขียว Green Bronze พร้อมหลังคาสีดำ
ด้านราคาจำหน่ายของทั้ง 2 รุ่นจะมาในราคาจำหน่ายที่ 981,000 บาท ทั้งสองรุ่น ที่สำคัญจะผลิตออกมาในจำนวนจำกัด