รีวิว Ducati Panigale V2 เป็นสปอร์ตไบค์ที่เป็นมิตรมากๆ เมื่อเทียบกับ Ducati Panigale V4 ซูเปอร์ไบค์แห่งยุคสมัย ที่ใครๆ ต่างกล่าวถึงเรื่องความเเรง
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์สองสูบเรียงวีวาง 90 องศาหรือ Superquadro L-Twin ขนาด 955 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ หัวฉีดคู่ ระบบ Desmo Valve ให้พละกำลังสูงสุด 155 hp ที่ 10,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 104 นิวตันเมตรที่ 9,000 รอบต่อนาที เกียร์ 6 สปีด น้ำหนักตัวรถ 176 กก. ระบบท่อไอเสียแบบ 2-1-2-1
แรงม้าเพิ่มจาก 959 Panigale +5 hp แรงบิดมากกว่า +2 Nm
ดีไซน์
- ไฟหน้า LED
- ไฟ DRL
- ไฟท้าย LED ทรงปีก
- แฟริ่งแบบ Dual Layer
- ท่อไอเสียทรง Compact ออกใต้ท้อง
- กันสะบัด
- จอแสดงผล TFT 4 สีขนาด 4.3 นิ้ว
- Auto Tire Calibration
- Ducati Multimedia System
- Lap Timer
- กุญแจ Keyless
- เบาะนั่งสองตอนเล่นระกับแบบสปอร์ต
- ถังน้ำมัน 17 ลิตร
- สวิงอาร์มเดี่ยวอลูมิเนียมขึ้นรูป
- วงล้ออัลลอยด์ 5 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว
- ยางหน้า 120/70 ZR17
- ยางหลัง 180/60 ZR17
- ยาง Pirelli Diablo Rosso Corsa II
- เฟรมอลูมิเนียม Monocoque
แชสซีและระบบเบรก
- เฟรม Monocoque
- โช้คหน้า Showa Big Piston ขนาด 43 มม. ปรับค่าได้ละเอียด
- โช้คหลัง Sachs ปรับค่าได้ละเอียด ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม
- ดิสก์เบรกคู่หน้าขนาด 320 มม. กึ่งลอยตัว
- ปั๊มเบรกเรเดียลเมาท์ Brembo Monobloc M4.32 คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ
- ดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหลังขนาด 245 มม.
- คาลิเปอร์เบรก Brembo 2 ลูกสูบ
ระบบอิเล็กทรอนิกส์
- เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (IMU Unit 6-Axis)
- โหมดการขับขี่ Race / Sport / Street / User
- ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรกทั้งทางตรงและในโค้ง (Cornering ABS EVO)
- แทร็คชั่นคอนโทรล (Ducati Traction Control EVO 2)
- ระบบป้องกันล้อหน้ายกตัว (Ducati Wheelie Control EVO 2)
- ควิกชิฟต์เตอร์ ขึ้น/ลง (Ducati Quick Shifter EVO 2)
- ระบบควบคุมแรงฉุดเครื่องยนต์ (Engine Brake Control EVO)
Review: Ducati Panigale V2
การทดสอบครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน DRE Track Day และมีเวลาขี่แค่เซสซั่นเดียว แต่ยาวเกือบครึ่งชั่วโมง แว้บแรกถ้า V4 ไม่มี Winglet มาให้ เรียนตามตรงว่ามองไวๆ ผ่านๆ คงแยกยากประมาณหนึ่ง ต้องมองสักพักถึงจะเห็นจุดต่างชัดเจนที่แฟริ่ง
Ducati Panigale V2 ต่อยอดมาจากซูเปอร์ไบค์ระดับ Middle-Heavy Weight อย่าง 959 Panigale เครื่องยนต์ Superquadro มาพร้อมท่อไอเสียใหม่แบบออกใต้ท้อง ให้พละกำลัง 155 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 104 นิวตันเมตร การตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าถูกครอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ปล่อยแรงม้าออกมาเต็มพิกัดในทุกโหมด ไม่มีการตัดตอน มีระบบหมุนเวียนน้ำมันเครื่องแบบในรถแข่ง MotoGP
มีการปรับวาล์วให้มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ขึ้นทั้งไอดีและไอเสีย และใช้ระบบวาล์ว Desmodromic ที่ให้การตอบสนองแบบเรซซิ่ง รีดสมรรถนะในรอบสูงออกมาได้ยอดเยี่ยม เรื่องนี้น่าจะไม่มีใครสงสัย เพราะดูคาติจี๊ดจริงทุกคัน
ถึงจะเป็นเครื่องยนต์เดิมที่ปรับปรุงใหม่ แต่ดีไซน์นั้นเตะตาเพราะว่าใส่รูปลักษณ์ ไฟหน้า ไฟท้าย รวมถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ระดับเดียวกับใน Panigale V4 เข้าไป ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดนั้นเป็นระดับที่เทียบเท่ากับใน Panigale V4 ควิกชิฟเตอร์ตอนนี้ก็รองรับทั้ง ขั้น/ลง เป็นรถเกือบซูเปอร์ไบค์ที่ทำให้ขี่ได้ง่ายจนเหลือเชื่อ ท่านั่งของรถมีความสปอร์ต ด้วยเบาะสูง พักเท้าสูง แต่ทว่าผ่อนคลายอยู่
ดีไซน์ของตัวรถคงต้องบอกว่าน้อยคนนักที่จะไม่ชอบ ดูคาติเองก็เป็นบริษัทรถจักรยานยนต์เพียงไม่กี่เจ้าที่ได้รางวัลออกแบบยอดเยี่ยมจาก Red Dot ถึง 2 ครั้ง และโดยส่วนตัวแล้วในซุเปอร์ไบค์แต่ละเจนเนอเรชั่นของค่ายนี้ ล้วนเป็นที่สุดของการออกแบบในคลาสสำหรับผมเสมอมา ว่าง่ายๆ ในตลาดผมว่ามันสวยสุดอะ
Ducati Panigale V2 ปรับให้มีความสบายมากขึ้นด้วยการปรับปรุงสรีรศาสตร์ เบาะนั่งใหม่มีโฟมที่สูงขึ้น 5 มม. ให้ท่านั่งที่สบายขึ้น แม้พักเท้าจะยังอยู่ในตำแหน่งสูงเหมือนเดิม ตำแหน่งวางเฟรมและแขวนเครื่องยนต์ทำให้รถมีบาลานซ์น้ำหนักตัวอยู่ด้านหน้า 52% และด้านหลัง 48% ทำให้ง่ายต่อการควบคุม
สำรับมือกระจอกอย่างเราเริ่มการขับขี่ด้วยโหมด Street ได้ไม่นานก็เริ่มรู้สึกว่าพละกำลังออกจะน้อยไปหน่อยสำหรับสนามแข่งเลยเปลี่ยนเป็นโหมด Sport ซึ่งในการตอบสนองที่ดีขึ้นมาก และแน่นอนว่าเลือกเปลี่ยนได้แม้ในขณะขับขี่
ในแต่ละโหมดยังมีพรีเซ็ตของระบบอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้อย่างเช่นในโหมด Sport ก็จะปิดระบบป้องกันล้อหน้ายก สามารถสไลด์เบรกได้ เป็นต้น ซึ่งในโหมดนี่เราว่าเหมาะกับการขับขี่ในสนามแข่งแล้วสำหรับมือสมัครเล่น เรื่องพละกำลังของเครื่องยนต์หากเทียบกับ 959 ที่เคยขี่เมื่อนานมาแล้ว ถ้าบอกว่าไม่ต่างอย่างชัดเจนนัก
แต่ที่สัมผัสได้คือการส่งกำลังที่สมูธขึ้น การควบคุมตัวรถที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม เป็นรถสปอร์ตที่เป็นมิตรกับผู้ขับขี่มากๆ การพารถเข้าโค้ง ออกโค้ง พลิกรถ การแต่งตัวต่างๆ ทำได้ง่าย ให้ความรู้สึกที่เบา ไม่เหนื่อย ไม่เครียด ตลอดเซสชั่นการขับขี่
ระบบเบรกที่ให้มาเหลือเฟือสำหรับ Panigale V2 และการขับขี่ในสนามแข่ง แต่ในจังหวะที่เราเผลอเลียเบรกสักพักทำให้มีความร้อนสะสมก็มีหวืดๆ นิดหน่อยเหมือนกัน แต่ถ้าในกรณีปกติแต่งตัว เบรก พับ นั้นเราว่าปั๊มชุดนี้มีพละะกำลังให้ใช้เหลือเฟือ
ส่วนช่วงล่างที่ติดรถมาและการตั้งค่าแบบมาตรฐานนั้น ทำงานได้เป็นอย่างดีในสนามแข่ง ในความมั่นใจในการเข้าโค้ง พลิกรถอย่างยอดเยี่ยม อาจจะไม่ได้คมกริบมากมาย แต่ก็เฟิร์มและมีความกระชับเป็นอย่างดี ระบบกันที่สะเทือนปรับปรุงใหม่ นอกจากปรับเซ็ตอัพแล้วยังปรับให้โช้คหน้ายื่น 2 มม. โช้คหลังยาวขึ้น 2 มม. ทำให้รถคล่องตัว ขี่สนุก นุ่มนวลขึ้น ซับแรงได้ดีขึ้นในความเร็วต่ำและเฟิร์มกว่าเดิมในความเร็วสูง
ช่วงท้ายเซสชั่นเราลองเปิดโหมด Race ที่จะสัมผัสได้ถึงการตอบสนองที่ดิบขึ้น ดุขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นหลังจบเซสชั่นเรามีโอกาสได้พูดถึงกับ DRE Instructor ที่คิดเหมือนกับเราว่า V2 นั้นดูจะมีพละกำลังที่น้อยไปเสียหน่อย ในขณะที่เป็นรถที่ขี่ง่าย ขี่สนุก ขี่แล้วไม่เครียด ในขณะที่ V4 จะมีทุกอย่างที่ล้นทะลักไปหมด ถ้า V2 มีพละกำลัง และดุดันมากกว่านี้อีกสักหน่อย จะเป็นรถที่ยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว
Conclusion
แม้เราจะยังไม่มีโอกาสได้ลองขี่ Ducati Panigale V2 บนถนนจริง แต่เชื่อว่ารถคันนี้จะเป็นหนึ่งในสปอร์ตไบค์ที่แรง ทันสมัย แต่ขี่บนถนนได้ง่ายและสบายมากคันหนึ่ง และที่สำคัญเมื่อคุณต้องลงสนาม รถเดิมๆ ก็ให้การตอบสนองที่เพียงพอ เพียงแต่ในสนามช้างที่มีทางตรงยาวนั้น ทำให้จุดอ่อนเรื่องพละกำลังที่น้อยไปหน่อยของ Panigale V2 นั้นชัดขึ้นมา
แต่คุณยังมีรูปลักษณ์แบบที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ท่อไอเสียแบบออกใต้ท้องแทนที่ท่อแบบช็อตกันของ 959Panigale ได้สวิงอาร์มเดี่ยวแบบ V4 จอเรือนไมล์สี่สี TFT ฟิลลิ่งไม่ได้ต่างจากการคร่อมรถระดับซูเปอร์ไบค์ แล้วถ้าคุณยังติดกลิ่น L-Twin และไม่ได้ต้องการพละกำลังบ้าคลั่งแบบ V4 ผมว่า Ducati Panigale V2 น่าจะตอบโจทย์
.
แต่ถ้าถามผม นิสัยคนไทยยังไงก็ไปสุดแหละ หรือไม่จริง
Ducati Panigale V2 ราคา 7.99 แสนบาท
ขอขอบคุณ
บริษัท ดูคาทิสติ จํากัด
บริษัท ดูคาติ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด
ผู้เขียน:Ken [Warodom C.]
กลับหน้าหลัก Autostation.com