in ,

รีวิว BMW F900XR Exclusive Style สปอร์ตยกสูงซิ่งสบายเอาใจสายเดินทาง | Review

รีวิว BMW F900XR Exclusive Style น้องใหม่แอดเวนเจอร์สปอร์ต ที่โดดเด่นทั้ง สมรรถนะ เทคโนโลยี ความสบาย โดนใจสายซิ่งท่องเที่ยวทางดำ บิดมันกระชากใจ

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์สองสูบเรียง 895 ซีซี ลูกสูบแบบฟอร์จ จุดระเบิดที่ 90 และ 270 องศา อัตราส่วนกำลังอัด 13.1:1 พละกำลังสูงสุด 105 hp ที่ 8,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 92 Nm ที่ 6,500 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 216 กม./ชม. ทำความเร็วจาก 0-100 กม.ชม. ได้ใน 3.6 วินาที มีระบบ Anti-Hopping

ดีไซน์

– ไฟหน้า BMW LED แบบ Adaptive
– Daytime Riding Ride
– ไฟเลี้ยว LED
– ระบบยกเลิกไฟเลี้ยวอัตโนมัติ
– ไฟท้าย LED
– กุญแจแบบ Keyless
– ขาตั้งคู่
– การ์ดแฮนด์
– ชิลด์หน้าสูงปรับระดับได้
– เบาะนั่งเตี้ยแบบตอนเดี่ยวเล่นระดับ
– ครอบเบาะท้ายสไตล์สปอร์ตสีเทา
– ท่อไอเสียออกด้านข้างปลายคู่
– เรือนไมล์ TFT สี่สี 6.5 นิ้ว
– เชื่อมต่อ BMW Motorrad Connected Ride
– สวิชท์ควบคุมที่ประกับแฮนด์พร้อมวงล้อควบคุม
– ตัวยึด GPS
– พักเท้าติดตั้งยางรอง
– กระบอกโช้คหน้าสีดำ
– วงล้ออลูมิเนียมขนาด 17 นิ้ว สีดำ
– ยางหน้า 120/70 ZR17 หลัง 180/55 ZR17
– แร็คท้ายสำหรับติดตั้งกล่องข้าง
– ถังน้ำมัน 15.5 ลิตร
– สี Galvanic Gold Metallic

เบรกและช่วงล่าง

– ปั๊มเบรกหน้า Brembo เรเดียลเมาท์คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ
– ดิสก์เบรกคู่หน้าแบบลอยตัวขนาด 320 มม.
– ปั๊มเบรกหลัง Brembo คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว
– ดิสก์เบรกหลังแบบลอยตัวขนาด 265 มม.
– โช้ค Showa แบบหัวกลับขนาด 43 มม.
– โช้คหลังเดี่ยวกับงานร่วมกับสวิงอาร์ม

ระบบอิเล็กทรอนิกส์

– เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (IMU-Unit)
– แทร็คชั่นคอนโทรล (Dynamic Traction Control)
– ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (Automatic Stability Control)
– ระบบช่วยตัดกำลังขับเครื่องยนต์ขณะเบรกเฉียบพลัน (Dynamic Brake Control)
– ระบบควบคุมแรงฉุดเครื่องยนต์ (MSR-Dynamic Engine Brake Control)
– ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรกทั้งทางตรงและในโค้ง (ABS Pro)
– ระบบกันสะเทือนไฟฟ้าที่ด้านหลัง (Dynamic ESA)
– ระบบไฟหน้าตามองศาการเลี้ยว (Headlight Pro)
– ควิกชิฟเตอร์ทั้งขึ้น/ลง (Gearshift Assist Pro)
– โหมดการขับขี่ Rain/ Road/ Dynamic/ Dynamic Pro (Driving Mode Pro)
– ระบบวัดระดับแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Monitor)
– ระบบอุ่นปลอกแฮนด์ 3 ระดับ (Heated Grip)

Review: BMW F900XR Exclusive Style

BMW F900XR เป็นรุ่นน้องขนาดกลางของ S1000XR ในสไตล์แอดเวนเจอร์สปอร์ต ที่คงเอกลักษณ์ของสปอร์ตยกสูงแบบรุ่นใหญ่ และให้ฟังก์ชั่นเจ๋งๆ เข้ามาทั้ง จอ TFT สี่สี และวงแหวนควบคุมแบบ R1250GS ที่แม้แต่ใน F850GS เวอร์ชั่นเมืองไทยก็ยังไม่มี

หน้าจอยังมีโหมด Sport ที่นอกจากโชว์องศาการแบนโค้ง และการทำงานของระบบต่างๆ แล้ว ยังเชื่อมต่อแอปฯ มือถือ ดึงข้อมูลจากตัวรถทั้งเส้นทางที่ใช้ ระยะทาง เวลาการเดินทาง แม้กระทั่งข้อมูลการทำงานของระบบอย่าง ABS และ DTC องศาการเลี้ยวออกมาได้ แต่จะไม่มี Lap Timing แบบใน F900R

เบาะนั่งในรุ่น Exclusive Style จะเป็นเบาะมาตรฐาน ต่างจากรุ่น Sport ที่ได้เบาะเตี้ย แฮนด์บาร์กว้างสูงให้ท่านั่งที่ยืดตรง พักเท้าอยู่ในตำแหน่งที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แต่กระชับถังน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานทั้งชีวิตประจำวันหรือเดินทางไกลแบบเพลินๆ แฟริ่งตัดลมได้ดีและมีการใช้เทคโนโลยี Aero Fairing เพิ่มแรงกดให้หน้ารถ ทำให้หน้ารถนิ่งกว่าที่คาด

นอกจากแฟริ่งใหญ่แล้วยังมีชิลด์สูงแบบปรับระดับได้ ระบบยกเลิกไฟเลี้ยวอัตโนมัติทำงานรวมกับ IMU-Unit ตัดการทำงานได้ยอดเยี่ยม ถังน้ำมันของตัวรถยังมีน้ำหนักที่เบา โดยใช้เทคโนโลยีการเชื่อมด้วยพลาสติกมาใช้ในกระบวนการผลิตรถจักรยานยนต์เป็นครั้งแรกของโลก และเทคโนโลยีโครงสร้างการยึดเหล็กกล้าที่จะนำมาใช้เป็นครั้งแรกเช่นกัน

ระบบเบรกและช่วงล่างของ F900R นอกจากจะถูกควบคุมด้วยตัวผู้ขับขี่แล้ว ยังถูกควบคุมและประมวลผลทุกอย่างด้วยสอมงกลอีกขั้น เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด นอกจาก ABS แล้ว ยังมี Cornering ABS ระบบกันสะเทือนหลังแบบไฟฟ้า Dynamic ESA ที่เลือกได้ทั้ง Road,Dynamic ที่ปรับได้แม้ขณะขับขี่

ช่วงล่างแบบ Road นั้นจะมีความนุ่มนวลมากกว่าแต่ก็แฝงความสปอร์ต ในขณะที่ Dynamic จะให้ช่วงล่างที่แข็งขึ้นมีความสปอร์ตมากกว่า นอกจากปรับความแข็งขณะขับขี่ได้แล้ว ยังเลือกได้ว่ามีผู้โดยสารหรือมีการบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติมหรือไม่ มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามาทำการปรับระดับให้เหมาะสม ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้เลยว่าท้ายรถมีการยกตัวขึ้น

เรื่องสมรรถนะในการเบรกของ Brembo และจานเบรกขนาดใหญ่คงไม่เป็นที่น่าสงสัย แต่ที่เจ๋งกว่านั้นคือบรรดาระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่เข้ามาเสริม ไม่ใช่แค่เพียง ABS Pro แต่ยังมี ระบบช่วยตัดกำลังขับเครื่องยนต์ขณะเบรกเฉียบพลัน (Dynamic Brake Control) ระบบควบคุมแรงฉุดเครื่องยนต์ (MSR) และ Anti Hopping

สำหรับระบบ Dynamic Brake Control นั้นจะช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อมีการเบรกกระทันหัน เพื่อให้มีระยะเบรกที่น้อยที่สุด ส่วน MSR จะช่วยเสริมความปลอดภัย ในการปิดคันเร่งแบบทันทีทันใด รวมทั้งการลดระดับลงของเกียร์ในทันที หรือเรียกอีกชื่อก็คือ Engine Brake Control

 

MSR นั้นจะทำงานแปรผันตามโหมดการขับขี่ที่ต่างออกไป เพื่อให้แรงฉุดที่เหมาะสมสำหรับการเข้าโค้ง ที่น่าประทับใจคือ ต่อให้คุณเชนจ์เกียร์ลงรุนแรงมาก ไม่ว่าจากการลดความเร็วเพื่อเข้าโค้ง หรือการเบรกฉุกเฉิน ก็จะไม่มีอาการล้อหลังลาก ลอย หรือท้ายสะบัดเลยแม้แต่นิด

การตอบสนองของเครื่องยนต์ การทำงานของ Dynamic Traction Control นั้นจะเป็นไปตามโหมดการขับขี่ที่เราเลือก โดยโหมดมาตรฐานนั้นจะเป็นโหมด Rain ที่ให้การขับขี่ที่สะดวกสบายและเพลิดเพลินที่สุด เหมาะกับการเดินทางและง่ายต่อการควบคุม

ในโหมด Road และ Dynamic นั้นจะมีการตอบสนองเครื่องยนต์และคันเร่งที่ตึงมือขึ้นแบบชัดเจน และแน่นอนว่าระบบความปลอดภัยต่างๆ ก็จะมีสัดส่วนที่ลดทอนลงไป โดยโหมดที่ดุเดือดที่สุดจะเป็น Dynamic Pro ที่ต้องผ่าน 1,000 กม. แล้วถึงจะได้ Coding Plug สีแดงมาเสียบที่ใต้เบาะเพื่อปลดพันธนาการ

Dynamic Pro นั้นจะให้การตอบสนองของคันเร่งแบบ 1:1 ทันทีทันใด รุนแรง และตัดระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเหลือต่างๆ ออกไปจนเกือบหมด ส่วนการทำงานของ Dynamic Traction Control ในกรณีปกติทั่วไปแบบไม่ได้ไปเปิด ไปปรับอะไร ต้องยอมรับว่าทำงานได้โคตรเนียน เนียนจนคุณไม่รู้สึกตัวว่ามันทำงานอยู่

กรณีเดียวกันกับการทำงานของ ABS Pro ที่คุณก็แทบไม่รู้สึกเลยว่ามันทำงานช่วยเหลือคุณอยู่ จนกระทั่งตอนที่คุณเช็คหรือโหลดข้อมูลการขับขี่จากรถเข้ามาในมือถือ แล้วพบว่าตลอดเส้นทางที่คุณขับขี่มานั้น คุณใช้คันเร่ง เบรก หนักขนาดไหน แบนรถองศามากแค่ไหน แค่ DTC กับ ABS ทำงานบ่อยแค่ไหนตลอดเส้นทาง

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมระบบของ BMW ถึงมีคำว่า Dynamic อยู่ตลอด นั่นเพราะระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเขาทำงานแบบแปรผัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ขณะ นั้นตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ต่างจากรถระดับเดียวกันหลายๆ รุ่นที่จะทำงานในรูปแบบเดียวทื่อๆ แต่ก็อย่างว่า ตามราคาอะครับ

แต่ถึง F900XR Exclusive Style คันนี้จะดูเหมาะกับการซิ่งทางไกลเพียงใด แต่มันก็มีจุดเฟลที่มีพี่ๆ คิดเหมือนกันนั่นคือชิลด์หน้าปรับระดับได้ การปรับชิลด์ไว้ระดับต่ำนั้น ทำให้ลมผ่านเข้าช่วงตัวหรือไหล่ ไม่ได้รู้สึกว่าลมปะทะรุนแรงมากมาย

แต่พอปรับชิลด์สูงปุ๊ป กลายเป็นการสร้างลมวนอยู่ระหว่างรถและคนขี่ ทำให้เกิดเสียงดังและลมตีหมวกจนสั่น ส่วนหนึ่งอาจเพราะผู้ขับขี่ใส่หมวกกันล็อคแบบแอดเวนเจอร์ แต่ผู้ทดสอบท่านอื่นที่ใส่หมวกสปอร์ตก็มีผลลัพธืแบบเดียวกัน ฉะนั้นสำหรับผมปรับชิลด์ต่ำขี่เพลินกว่า

Conclusion

ถ้ามองหารถคลาสกลางสำหรับการท่องเที่ยว BMW F900XR Exclusive Style จะเป็นรุ่นแรกๆ ที่อยากแนะนำ ด้วยทั้งรูปลักษณ์ ความแรง ความล้ำ แต่ด้วยราคาค่าตัวหลายคนอาจมองไปหาแอดเวนเจอร์คลาสพันจากญี่ปุ่น ก็ต้องลองดูว่าอยากได้รถที่ตอบโจทย์แบบไหน แต่ถ้าติดลุยค่ายนี้ก็ยังมี F850GS ให้เลือกอีกคัน

แต่ถ้าเล็ง F900XR มาแล้ว เราขอแนะนำให้ซื้อรุ่นที่มี Dynamic ESA หรือโช้คไฟฟ้ามาให้ แต่ถ้ากลัวหรือว่ากังวลใจ ก็ยังมีรุ่นมาตรฐานที่เป็นโช้คแมนนวลถูกกว่า 2 หมื่นบาท ด้านเรื่องเมนเทอร์แนนซ์ เดี๋ยวนี้ BMW เขามี BMSI ที่ให้เซอร์วิส 3 ปี หรือ 3 หมื่น กิโลเมตร มาให้ ขี่แบบไม่ต้องห่วงไปเลย แต่ถ้าต้องเบิกอะไหล่อะไรนอกเหนือจากนั้น ก็อีกเรื่องนึงนะ

BMW F900XR มี 3 ช่วงราคาดังนี้
Light White (STD) ราคา 535,000 บาท
Racing Red (Sport Style) ราคา 555,000 บาท
Galvanic Gold Metallic (Exclusive Style) ราคา 555,000 บาท

ขอขอบคุณ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จํากัด
ผู้เขียน:Ken [Warodom C.]

กลับหน้าหลัก Autostation.com