in ,

รีวิว Triumph Trident 660 สามสูบไซส์กลาง ที่ไม่ได้เหนือแค่ออปชั่น แต่ยังโดดเด่นเรื่องขับขี่

รีวิว Triumph Trident 660 เน็กเก็คโรดสเตอร์ไซส์กลาง ที่เราอวยสเป็คไว้ว่าเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดแบบกางกระดาษสู้สบาย ส่วนพอได้ขี่จริงก็บอกเลยว่าไม่เซอร์ไพรส์

ที่บอกว่าไม่เซอร์ไพรส์ก็คงเพราะมันดีอย่างที่เราคาดหวังในการขบัขี่ครั้งแรกแบบไวๆ ทั้งเล็ก เบา แรง คล่องตังจัด ไหนจะออปชั่นแจ่มจัด การันตีได้เลยว่าฝ่าการจราจรในสบายที่สุดคันหนึ่งในคลาสนี้ และยังมีดีที่สไตล์แบบโมเดิร์นคลาสสิค หล่อ ทันสมัยอีกด้วย

เน็กเก็ตโรดสเตอร์ เท่ หล่อผู้ดี

ดีไซน์แบบไฟกลมเป็นที่ถูกใจของชายไทยอยู่แล้ว ยุคนี้รถในแนวโมเดิร์นคลาสสิคแบบนี้ก็กำลังมา โดดเด่นด้วยระบบไฟ LED รอบคัน งานประกอบและวัสดุหลังจากที่ได้เห็นตัวจริงแล้ว คงต้องบอกว่า ดรอปลงจากไทรอัมพ์ที่เราคุ้นเคยไป แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดเมื่อเทียบกับค่าตัวเพียง 309,000 บาท เท่านั้น

หน้าจอแบบ TFT มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ ที่รถในคลาสนี้ยังไม่มีใครมีมาให้ ใช้ระบบนำทาง แจ้งเตือน ควบคุมโทรศัพท์และเพลงได้อย่างปลอดภัยขณะขับขี่ รวมถึงยังใช้ในการควบคุม GoPro ได้ง่ายดายแต่เป็นออปชั่นที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มตอนออกรถ ส่วนช่องจ่ายไฟ USB มีมาให้

ท่านั่งคร่อมให้ความกระชับ มิติตัวรถเล็ก ศูนย์ถ่วงของตัวรถเบาทำให้ควบคุมได้ง่าย ถังน้ำมันใหญ่ 14 ลิตร แฮนด์บาร์ก้มต่ำเล็กน้อยให้ฟิลลิ่งหมอบๆ เท่ๆ เบาะนั่งแบบตอนเดียวเล่นระดับนั่งสบายแต่คนตูดใหญ่อาจออกอาการบ่นกันบ้าง ปุ่มควบคุมที่ประกับแฮนด์ออกแบบมาใช้งานง่าย

สามสูบ 80.1 hp เร่งจี๊ดถึงใจ เกียร์สับไว ฉับๆ

เครื่องยนต์สามสูบเรียงหนึ่งเดียวในพิกัด กับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ DOCH รีดพละกำลังสูงสุด 80.1 hp ที่ 10,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 64Nm ที่ 6,250 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันหลายจุดควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ท่อไอเสีย 3-1 เกียร์ 6 สปีดไม่มี Quick Shifter

ผ่านคุณสอบผ่านใบขับขี่บิ๊กไบค์ที่บังคับใช้แล้วแต่ยังไม่มีมาตรการห่านอะไรออกมาเลย ไม่ว่าจะเรื่องอบรม และอื่นๆ ที่ชัดเจน คุณจะออกคันนี้มาขี่เลยได้ไหม สำหรับผม ได้นะ เพราะหลายคนก็เริ่มจาก 500-650 ซีซี เลย ไม่เหมือนฝั่งยุโรปที่ใบขับขี่ของเขามีหลายระดับ ส่วนของเราจะเหมือนญี่ปุ่นที่เป็นต่ำกว่า 400 และ มากกว่า 400 ซีซี

ทำไมเราถึงคิดว่ามือใหม่ก็ขี่ได้ เพราะตัวรถนั้นควบคุมได้ง่าย มีความคล่องตัวสูง ถ้าเทียบกับสองสูบหรือสี่สูบจากญี่ปุ่นแล้ว บอกเลยว่า Trident 660 ขับขี่และควบคุมได้ง่ายกว่า อัตราเร่งมาแบบไม่ต้องรอนาน ขี่ก้อบเหียร์ก็ไม่มีอาการสะดุดหรือกระตุกให้มือใหม่ต้องเหวอหรือมือเก๋าต้องรำคาญ

เกียร์แบบ 6 สปีดนั้นมีอัตราทดที่ค่อนข้างชิด สายสับเกียร์น่าจะถูกใจสิ่งนี้ อัตราเร่งในแต่ละเกียร์มาแบบต่อเนื่อง เตะ เตะ เตะ สนุก อัตราเร่งจี๊ดติดมือ และยังมี Assist-Slipper-Clutch ไร้กังเวลในกรณีที่ต้องเชนจ์เกียร์ลงอย่างรวดเร็ว จะติดก็แค่รถมันควรต้องมี Quick Shifter มาให้ด้วย

เบรก Nissin โช้ค Showa ให้มาพอดีคำ

เฟรมตัวรถนั้นได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบหัวกลับของ Showa ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มม. Showa SFF (Separate Function Fork) โช้คหลังเดี่ยว Showa ปรับค่าสปริงพรีโหลดได้

Showa BFF เองก็เป็นโช้คสนิทที่ก็มีการใช้อยู่ในฝั่งแบรนด์ญี่ปุ่น ช่วงล่างเซ็ตมาเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองหรือท่องเที่ยวก็ไร้ปัญหา จากการทดสอบเวลาสั้นๆ ของเราคงบอกได้แค่ว่ารถรุ่นนี้ของไทรอัมพ์ยังไม่ทำให้ผิดหวัง

ดิสก์เบรกคู่หน้าขนาด 310 มม. ปั๊มเบรกจาก Nissin คาลิเปอร์สองลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหลังขนาด 255 มม. คาลิเปอร์ Nissin ลูกสูบเดี่ยว พร้อม ABS Dual-Channel ให้ระบบเบรกดูเหมือนมาแบบกลางๆ เอาไว้ให้อัพแต่จริงๆ ก็ถือว่าเหมาะกับตัวรถ

ไม่มีแทร็คชั่นล้อหน้าลั่นแน่นอน

ความที่แรงบิดติดมือจัดๆ โดยเฉพาะในเกียร์ต่ำๆ กระแทกคันเร่งสนั่นๆ ตอนที่ปิด Traction Control เข้าไปรับรองว่ามีล้อลอยแน่นอน Triumph Trident 660 ยังเป็นรถรุ่นเดียวในคลาสนี้ที่มีเทคโนโลยีดังกล่าว ที่สำคัญเป็นแบบเปิด-ปิดได้

นอกจาก Traction Control แล้วยังมีโหมดการขับขี่ Road และ Rain รวมถึงคันเร่งไฟฟ้าที่ทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าคันเร่งของมันนี่ติดมือดีเหลือเกิน ถึงได้บอกว่าถ้าคุยกันที่สเป็กแล้ว Triumph Trident ที่เป็นรถที่น่าสนใจมาก ส่วนดีไซน์ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่สไตล์ใครสไตล์มัน

Conclusion

ถ้ายังติดว่าต้องสี่สูบ คำตอบคุณก็ชัดเจนแจ่มแจ้งจนไม่ต้องเปิดรีวิวรถคันนี้อ่านให้มันรู้สึกว่าสื่อมันอวยรถหรอก รถคนละคัน รถคนละฟิลลิ่งจริงๆ แต่จากปากคนที่ขี่แล้วต้องบอกว่า ความคล่องตัว ความสนุก ความซอกแซก ในการขับขี่ในเมืองนั้นถือว่าเหนือกว่า ด้วยน้ำหนักตัวที่เบากว่า การควบคุมที่ง่ายกว่า แม้ว่ารถยุ่นเจ้าตลาดจะทำได้ดีมากแล้วก็ตาม

ไทรอัมพ์ยังเซ็ตให้รถคันนี้มีระยะการเซอร์วิสที่น้อยกว่าคู่แข่ง เทียบให้เห็นง่ายๆ คือเข้าศูนย์พันโล แล้วเข้าอีกทีหมื่นห้า ส่วนเรื่องราคาอะไหล่ก็ว่ากันไปตามแบรนด์ แต่ราคารถที่ 309,000 บาท บอกเลยว่าเร้าใจ แต่ไม่จบแน่นอน ไม่ใช่ว่าต้องมีค่าประกันหรืออะไร แต่จากการขับขี่ไวๆ ครั้งแรก แนะนำให้ใส่ Quick Shifter จริงๆ นะครับ

กลับหน้าหลัก Autostation.com