Bajaj ค่ายรถจักรยานยนต์สัญชาติอินเดีย ประกาศเปิดตัว Bajaj Dominar 250 สปอร์ตทัวเรอร์ระดับ Entry Level ในไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่ ด้วยสมรรถนะ และอ็อพชั่นเทียบชั้น Big Bike ในราคาสุดคุ้ม 105,000 บาทเท่านั้น!!
สำหรับ Bajaj นั้น จัดเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์น้องใหม่ที่เปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยได้ประมาณ 2 ปี โดยปัจจุบันมีขายทั้งหมด 5 โมเดล เน้นเจาะกลุ่มตลาด Entry Level ได้แก่รุ่น Pulsar NS160, Pulsar NS200, Pulsar RS200, Dominar 400 และใหม่ล่าสุดกับ Dominar 250 ที่เข้ามาเติมเต็มไลน์อัพให้กับตระกูล Dominar และเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับตลาด
แม้ว่า Bajaj จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในประเทศไทย แต่ถ้าหากกล่าวถึงในเวทีระดับโลกแล้วนั้น แบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอินเดียรายนี้ จัดเป็นแบรนด์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว โดยปัจจุบันมีการจำหน่ายไปกว่า 79 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายสูงถึง 35 ล้านคัน โดยมีโรงงานผลิตหลัก 3 โรงงานในอินเดีย ที่มีกำลังการผลิตกว่า 5 ล้านคันต่อปี และมีทีม R&D กว่า 1,200 คน
และอีกหนึ่งเรื่องที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็คือ Bajaj นั้น เป็นผู้ถือหุ่นอยู่ในแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์จากยุโรปอย่าง KTM ถึง 48% ซึ่งมีส่วนร่วมในการพัฒนา และออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กที่จำหน่ายในยุโรป อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ Triumph ไว้วางใจให้ร่วมมือกันพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ขนาด 250cc. – 650cc. ในฐานะผู้ผลิตอีกด้วย
ซึ่งนั่นคงจะเพียงพอที่จะการันตีคุณภาพ และเทคโนโลยีการผลิตของ Bajaj ได้เป็นอย่างดี และทำให้เราได้รู้ว่ามอเตอร์ไซค์สัญชาติอินเดียรายนี้ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
สำหรับ Bajaj Dominar 250 นั้น มาพร้อมกับดีไซน์ในสไตล์สปอร์ตทัวร์เรอร์ ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ มอบความโฉบเฉี่ยวและล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ระบบไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมก้านไฟเลี้ยวหน้า-หลัง LED รวมถึงไฟท้ายดีไซน์สปอร์ตแบบ LED
หน้าปัดเรือนไมล์เป็นจอ LCD แสดงผลในรูปแบบดิจิตอลเต็มระบบ อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่น Shift Light ที่แจ้งเตือนรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสมในการเปลี่ยนเกียร์ให้ด้วย นอกจากนั้นยังมีจอแสดงข้อมูลแยกที่บริเวณถังน้ำมัน ที่แจ้งเตือนสถานะและระบบต่างๆ ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของระบบเบรก ABS, แบตเตอรี่, อุณหภูมิความร้อนเครื่องยนต์, สัญญาณไฟสูง, ไฟ Engine และเซ็นเซอร์ขาตั้งข้าง
ในส่วนของถังน้ำมันมีความจุขนาด 13 ลิตร สามารถขับขี่เดินทางท่องเที่ยวได้สบายๆ เบาะนั่งแบบ 2 ตอนยกระดับผู้ซ้อนท้าย พร้อมออกแบบให้มีสายรัดสัมภาระสำหรับการออกทริปให้ 4 จุดที่ด้านใต้เบาะผู้ซ้อน
ไฮไลท์สำคัญของ Bajaj Dominar 250 อยู่ที่ระบบช่วงล่าง โดยด้านหน้ามาพร้อมกับโช้คอัพแบบ Upside Down ขนาดแกน 37 มม. ที่ให้ระยะยุบตัว และซับแรงกระแทกที่ดีที่สุดในคลาส ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Mono Shock พร้อมมีซับแทงค์ในตัว Nitrox แบบ Piggy Back
อีกทั้งระบบเบรกด้านหน้ายังมาพร้อมกับจานดิสก์ขนาดใหญ่ถึง 300 มม. ทำงานร่วมกับปั้มเบรก Bybre (แบรนด์ลูกของ Brembo) แบบ Radial Mount และด้านหลังเป็นจานดิสก์ขนาด 230 มม. ปั้ม Bybre ที่มาพร้อมระบบเบรก ABS Dual Channel (ทั้งหน้าและหลัง) รัดด้วยยางแบบ Tubeless ที่ขนาดด้านหน้า 100/80-17 ขนาดด้านหลัง 130/70-17
ในส่วนของขุมพลังเครื่องยนต์ Bajaj Dominar 250 ก็มาพร้อมกับความเร้าใจบทใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1 สูบ ขนาด 249cc. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี DTSi Twin Spark แบบ 2 หัวเทียน ให้การจุดระเบิดที่แม่นยำ และเผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด ให้กำลังสูงสุด 27 แรงม้า แรงบิด 23.5 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบ Assist & Slipper Clutch เข้าเกียร์นุ่มนวล และป้องกันท้ายปัดขณะเชนจ์เกียร์ พร้อมให้สุ้มเสียงที่ทรงพลังด้วยปลายท่อไอเสียคู่ ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro 5
สำหรับสมรรถนะการขับขี่ของ Bajaj Dominar 250 หลังจากที่ได้ลองสัมผัสมาแล้วนั้น ต้องบอกว่านี่คือสอร์ตทัวร์เรอร์ไบค์ที่กำลังพอเหมาะพอเจาะ มิติตัวถังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมง่าย ไม่ใหญ่หรือหนักจนเกินไป อีกทั้งในด้านขุมพลังก็ให้การตอบสนองที่จัดจ้าน เร้าใจเกินตัว ด้วยขนาด cc. ที่สามารถออกทริปก็ไม่เหนื่อย ขับในเมืองก็ไม่หงุดหงิด แรงบิดมหาศาล มีมาให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ เร่งแซงได้ทันใจ แถมยังสามารถทำ Top Speed ได้เกินกว่า 155 กม./ชม. เลยทีเดียว
นอกเหนือไปจากอัตราเร่งที่ตอบสนองได้ทันใจแล้ว ในเรื่องของระบบช่วงล่าง ก็จัดเป็นรถที่มีสมรรถนะเกินคลาส ช่วงล่างค่อนข้างเฟิร์ม แน่น รองรับกับการขับขี่ความเร็วสูงได้นิ่งและมั่นคง ไม่มีอาการสั่นเป็นเจ้าเข้าเหมือนในรถอินเดียอีกแบรนด์ที่เราเคยได้สัมผัสมา ความเร็วระดับ 140 กม./ชม. ยังสามารถเทโค้งได้แบบเนียนๆ บาลานซ์ของตัวรถอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ถังน้ำมันมี Knee Grip ทำให้ผู้ขี่สามารถหนีบและพับรถซ้าย-ขวาได้อย่างถนัด ผสานกับน้ำหนักตัวถังที่ไม่หนักจนเกินไป ทำให้เราได้สนุกกับการเล่นโค้งสวยๆ บนเส้นทางธรรมชาติในการทดสอบครั้งนี้
ระบบเบรกมั่นใจได้หายห่วง ปั้มเบรก Bybre พร้อมดิสก์เบรกหน้า-หลัง และระบบ ABS ให้การชะลอ และหยุดรถได้อย่างมั่นใจ สามารถกดเบรกหนักๆ และหักหลบกระทันหันได้โดยที่ล้อไม่ล็อค อีกทั้งการเชนจ์เกียร์หนักๆ เพื่อใช้ Engine เบรก ก็ไม่มีอาการท้ายปัดให้เหวอ เพราะมีระบบ Assist & Slipper Clutch คอยจัดการให้ตลอดเวลา
บทสรุป
โดยรวมแล้วต้องบอกว่า Bajaj Dominar 250 เหมาะมากที่จะเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากจะขี่ Big Bike แต่ทุนทรัพย์ยังไม่พร้อม เพราะเจ้าสปอร์ตทัวร์เรอร์คันนี้เพียบพร้อมไปด้วยสมรรถนะ และฟีเจอร์ที่โดดเด่นแบบเดียวกับรถระดับ Big Bike แต่ในราคาค่าตัวที่แพงกว่ารถ Scooter ไม่ถึงหลักหมื่นบาท อีกทั้งยังเป็นรถคู่ใจที่สามารถขับขี่ใช้งานได้ทุกวัน ทั้งการใช้งานในเมือง หรือเดินทางออกทริปในวันหยุดสุดสัปดาห์
Bajaj Dominar 250 มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 105,000 บาท โดยมีให้เลือก 2 สีตัวถัง ได้แก่ สีแดง Canyon Red และ สีดำ Charcoal Black