in , , , ,

Tesla Model Y เอสยูวีไฟฟ้าเวอร์ชั่นเมืองไทย ราคาเริ่ม 1.959 ล้านบาท

Tesla Model Y รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบเอสยูวี สเปกเมืองไทย มีรให้เลือก 3 รุ่นย่อย ขุมพลัง 347 – 534 แรงม้า ชาร์จเต็มวิ่งไกล 510 – 623 กม. ราคาเริ่ม 1.959 ล้านบาท

Tesla Model Y

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นของทาง Tesla ที่เปิดตัวในเมืองไทย นอกจาก Tesla Model 3 แล้วก็ยังมี Tesla Model Y รถยนต์ไฟฟ้า 100% ในรูปแบบเอสยูวี ที่มีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น Single Motor RWD, Long Range AWD และ Performance AWD มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 347 – 534 แรงม้า กับแบตเตอรี่ชาร์จเต็มวิ่งไกล 510 – 623 กม. เปิดราคาจะหน่ายในไทยระหว่าง 1.959 -2.509 ล้านบาท 

Tesla Model Y

Tesla Model Y

สำหรับ Tesla Model Y เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบเอสยูวี ที่ถูกนำเข้าทั้งคัน จากประเทศจีน โดยถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Tesla Model 3 มีมิติขนาดตัวถังความยาวอยู่ที่  4,751 มม., กว้าง 1,921 มม., สูง 1,624 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,890 มม. 

Tesla Model Y

Tesla Model Y

Tesla Model Y

มาพร้อมดีไซน์ที่ดูเรียบหรู โดดเด่นด้วยดวงไฟหน้าขนาดใหญ่ และระยะโอเวอร์แฮงก์หน้า ที่ค่อนข้างสั้น ส่วนบั้นท้ายจะละม้ายคล้ายกับ Model X มาพร้อมหลังคาแก้วที่ออกแบบให้เป็นผื่นเดียวยาวตลอดแนวหลังคา ซึ่งต่างจาก Tesla Model 3 ที่แบ่งออกเป็น 2 ช่วง 

Tesla Model Y

Tesla Model Y

ภายในห้องโดยสาร สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระของผู้โดยสาร เบาะหลังแต่ละที่นั่งพับราบแยกกันได้อย่างอิสระ ทำให้ได้พื้นที่เก็บของที่ยืดหยุ่นสำหรับสกี เฟอร์นิเจอร์ กระเป๋าเดินทาง และอื่นๆ โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มากถึง 2,100 ลิตร เมื่อพับเบาะที่นั่งหลังลง มาพร้อมประตูท้ายเปิดออกไปสู่กระโปรงหลังที่ต่ำกว่าได้ ทำให้การขนถ่ายสัมภาระทำได้ง่ายและรวดเร็ว

Tesla Model Y

แผงคอนโซลดีไซน์แบบมินิมอลสไตล์ ตอกแต่งด้วยวัสดุลายไม้เช่นเดียวกัน Tesla Model 3  โดดเด่นด้วยหน้าจอควบคุมกลางขนาด 15 นิ้ว ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของตัวรถทั้งคันเอาไว้ในหน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นรองรับระบบความบันเทิงทั้ง YouTube และ Netflix สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน Tesla บนสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมการชาร์จ, อุณหภูมิ และระบบความปลอดภัย Sentry พร้อมรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ Over-the-air ผ่านทางดาวเทียมจะเพิ่มและพัฒนาคุณสมบัติ ฟังก์ชันการทำงาน และประสิทธิภาพใหม่ตลอดเวลา

Tesla Model Y

นอกจากนั้นยังมาพร้อมคุณสมบัติของ Tesla Autopilot ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ในส่วนที่เป็นความยุ่งยากมากที่สุดในการขับขี่ และจะช่วยแนะนำคุณคุณสมบัติใหม่และช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบที่มีอยู่เพื่อให้ Tesla ของคุณปลอดภัยและมีศักยภาพมากขึ้น 

Tesla Model Y

ผู้ขับขี่ยังสามารถอัปเกรดระบบเป็น Autopilot แบบยกระดับ (EAP) หรือ ความสามารถในการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (FSD) เพื่อการใช้งานขั้นสูงเพิ่มเติม เช่น การนำทางบน Autopilot (NoA) และ ระบบจอดรถอัตโนมัติ เป็นต้น

Tesla Model Y

ในด้านพละกำลังของ Tesla Model Y รุ่น Single Motor RWD จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลัง กำลังสูงสุด 347 แรงม้า (PS) แรงบิด 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.9 วินาที ด้านความเร็วสูงสุดอยู่ที่  217 กม./ชม. ส่วนแบตเตอรี่จะมีขนาดความจุ 57.5 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 510 กม. รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ขนาด 7.6 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ขนาด 250 kW

Tesla Model Y

ถัดมาจะเป็นในรุ่น Long Range AWD โดยในรุ่นนี้จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวไว้ที่คูี่ล้อหน้าและหลัง ให้กำลัง 514 แรงม้า (PS) มาพร้อมแรงบิด 493 นิวตันเมตร ส่งผลทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.0 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 217 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 75.0 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งไกล 623 กม. 

Tesla Model Y

ส่วนรุ่นท็อป Performance AWD จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ล้อคู่หน้าและหลัง ให้กำลังสูงสุด 534 แรงม้า (PS) แรงบิด 493 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ดีกว่าในรถุ่น Long Range โดยสามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250  กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 75.0 kWh ให้ระยะทางการวิ่งอยู่ที่ 582 กม. ต่อกาชาร์จไฟเต็ม 

Tesla Model Y

สำหรับราคาจำหน่ายของ Tesla Model Y เวอร์ชั่นในตลาดเมืองไทยจะมีดังนี้ 

  • Tesla Model Y Rear Wheel Drive ราคาจำหน่าย 1,959,000 บาท
  • Tesla Model Y Long Range AWD ราคาจำหน่าย 2,259,000 บาท
  • Tesla Model Y Performance ราคาจำหน่าย  2,509,000 บาท

Tesla Model Y

สำหรับการสั่งจองสามารถเริ่มสั่งจองได้แล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ 7 ธันวาคม 2022 เป็นต้นไป โดยตัวรถจะเริ่มส่งมอบได้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2023