ภายในงานตัววันเปิด Nio EC7 ครอสโอเวอร์คูเป้ใหม่ ที่ประเทศจีน ในวันเดียวกันนั้นทาง NIO ผู้ผลิตรถยนต์จากจีน ก็ได้เผยโฉม Nio ES8 ที่เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดใหญ่ ออกมาพร้อม ๆ กัน สำหรับ Nio ES8 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัว เบาะที่นั่งแบบ 3 แถว โดยในรุ่นนี้จะเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 มาพร้อมการปรับเปลี่ยนหน้สตาให้ดูทันสมัยขึ้น พ่วงขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังมากถึง 644 แรงม้า ซึ่งเท่ากับในรุ่น Nio EC7 ขณะที่แบตเตอรีี่จะมีให้เลือก 2 ขนาด ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 605 กม.
ในด้านการออกแบบ Nio ES8 จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าในตลาดรถครอบครัว ด้วยงานดีไซน์ที่เป็นรถขนาดใหญ่ โดยมีมิติขนาดตัวถังความยาวถึง 5,099 มม., กว้าง 1,989 มม., สูง 1,750 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 3,070 มม. โดยตัวเลขดังกล่าวนี้ทำให้ Nio ES8 ใหม่นี้มีความยาวกว่ารุ่นก่อนถึง 77 มม. และและมีระยะฐานล้อยาวกว้างขึ้น 60 มม.
สำหรับรูปลักษณ์หน้าตาได้มีการปรับเปลี่ยนจากรุ่นเดิมในหลาย ๆ ส่วน เริ่มจากที่กระจังหน้ามาในแบบปิดทึบที่ดูสะอาดตามากขึ้น ด้านหน้ายังคงมามาในแบบสไตล์ Shark Nose ที่ดูโฉบเฉี่ยว ฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่พร้อมชุดไฟส่องสว่างหน้าแบบสองชั้น ด้านบนเป็นชุดไฟ DRL แบบ LED Double-Dash อยู่ที่ปลายฝากระโปรงหน้า ขณะที่ชุดไฟส่องสว่าง LED อยู่ในกรอบสีดำด้านล่าง มาพร้อมกันชนและช่องดักอากาศที่มีขนาดเล็กลง
นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งกล้องขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ที่บังโคลนหน้าและด้านบนบนหลังคาเหนือกระจกหน้ารถ ซึ่งบ่งบอกถึงการมีอยู่ของระบบ Lidar และเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ Aquila Super Sensing ของ NIO ที่เป็นแบบเดียวกับในรุ่น ET7, ES7 รวมถึงในรุ่น Nio EC7 ที่เป็นครอสโอเวอร์ไฟฟ้าตัวใหม่ล่าสุด
ด้านข้างตัวรถได้รับออกแบบให้ดูเรียบหรู มือเปิดประตูเป็นแบบฝังเรียบไปกับตัวรถ ตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยวัสดุชิ้นงานสีดำ มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทนขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งคาร์ลิปเปอร์เบรดสีแดงไว้ที่ด้านใน นอกจากนั้นตั้งแต่เสา A ไปจนถึงเสา D ด้านท้าย รวมทั้งหลังคาจะมาในเฉดสีดำ ขณะที่ด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้าย LED ที่วางพาดยาวเต็มความกว้างของตัวรถ
สำหรับภายในห้องโดยสารของ Nio ES8 จะเหมือนกับในรุ่น Nio EC7 แตกต่างกันเพียงในส่วนของเบาะแถวที่นั่งที่ในรุ่น ES8 จะเป็นเบาะแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง เบาะแถวกลางเป็นแบบ Captain seat
ขณะที่แผงแดชบอร์ดนั้นจะมาพร้อมกับหน้าปัดดิจิตอลขนาด 10.2 นิ้ว และหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.8 นิ้ว เบาะที่นั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์แบบเจาะรู มาพร้อมฟังก์ชั่นระบบทำความร้อน, ระบายอากาศ และระบบนวด รวมถึงเบาะคู่หน้าเป็นแบบ Queen’s co-pilot ที่จะมาพร้อมที่พักเท้ายกที่ปรับเบาะเอนนอนลง ช่วยให้ผู้โดยสารได้เหยียบขาได้อย่างสบายตลอดการเดินทาง
อีกทั้งยังมาพร้อมกับที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย, ระบบควบคุมสภาพอากาศแบบสามโซน, ระบบน้ำหอมอัจฉริยะ และระบบเสียงลำโพง 23 ตัว มาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos
ในด้านระบบส่งกำลังของ ES8 จะเป็นชุดเดียวกับ Nio EC7 ที่มากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ที่ให้กำลัง 644 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร แต่อัตราเร่ง 0 -100 กม./ชม. ของ ES8 ขะช้ากว่า Nio EC7 เล็กน้อย โดยทำเวลาได้อยู่ที่ 4.1 วินาที เพราะด้วยขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่ารวมถึงมีน้ำหนักที่มากกว่า
สำหรับขนาดแบตเตอรี่ของ ES8 จะมีให้เลือก 2 ขนาดคิอ 75 และ 100 kWh ให้ระยะทางการวิ่งไกล 465 – 605 กิโลเมตร ตามลำดับ
ในด้านราคาจำหน่ายของ Nio ES8 จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 528,000 หยวน หรือราว 2.6 ล้านบาท สำหรับในรุ่นแบตเตอรี่ 75 kWh ส่วนในรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh จะมีราคาจำหนายอยู่ที่ 586,000 หยวนหรือคิดเป้นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.9 ล้านบาท