บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวที่สุดแห่งพรีเมียมเอสยูวี Honda CR-V ใหม่ 2023 (ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6) ในไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัป SUV ของ Honda และตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีในไทย พร้อมยกระดับเอสยูวีเซกเมนต์ไปอีกขั้นอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ
ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E)
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
- ไฟหน้า และไฟ DRL แบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
- ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close)
- เสาอากาศครีบฉลาม
- ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่
- ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
ครั้งแรกกับรุ่น RS ความสปอร์ตพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้น (e:HEV RS 4WD)
- เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ Piano Black
- กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ
- ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black
- ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
- สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำ Piano Black
- เสาอากาศครีบฉลามสีดำ Piano Black
- ล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต
ห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง ผสานแนวคิดระหว่างการใช้วัสดุคุณภาพสูงและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายในที่พรีเมียม แตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- ใหม่ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ใหม่ ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ใหม่ ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ใหม่ ระบบไฟ Ambient Light ติดตั้งในหลายตำแหน่งเป็นครั้งแรกใน CR-V
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น E)
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง)
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card (e:HEV RS 4WD)
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
- ระบบฟอกอากาศ Plasmacluster (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย/ขวา แบบ i-Dual Zone (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
- ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส
เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมเต็มขั้นกับรุ่น RS (รุ่น e:HEV RS 4WD)
- ชุดตกแต่งภายในลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black
- เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
- พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
- แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
ภายในปรับได้หลากหลาย ทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง
พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40 พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง
รุ่น 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
รุ่น 7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) สามารถปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (Utility Mode) และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
ขุมพลัง 2 ทางเลือก พร้อมตอบโจทย์ทุกการขับขี่
ครั้งแรกกับระบบฟูลไฮบริด e:HEV
เครื่องยนต์เบนซินใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานการทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV ES) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร
โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
มาพร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่
- โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
- โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
- โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)
มีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ Real Time AWD with E-DPS
ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ สไตล์สปอร์ต กับขุมพลัง 1.5 Turbo
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า
ที่ 6,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตรา
การประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85
เทคโนโลยี Honda SENSING ให้มาครบทุกรุ่นย่อย
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้าที่ความเร็วต่ำ
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ยกระดับระบบความปลอดภัยมาตรฐาน
- ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (ยกเว้นรุ่น E)
- ใหม่ เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
- ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
- ใหม่ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
Honda CR-V ใหม่ 2023 มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ดังนี้
ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท
- รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท
รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และ รับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี (ไม่จำกัดระยะทาง) ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษาเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
เครื่องยนต์ 1.5 Turbo มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท
- รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
- รุ่น E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่
- ใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES
- สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD
- สีขาวแพลทินัม (มุก)
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
- สีดำคริสตัล (มุก)
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยังมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ เมื่อจอง และรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2566
- ฟรีประกันภัย 1 ปี
- รับดอกเบี้ย 2.29%
- ฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ Honda Ultimate Care
- ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 140,000 กิโลเมตร
- ฃบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)