หลังจากที่ทางค่ายอาวดี้เเปิดตัว Audi e-tron GT และ RS e-tron GT รถสปอร์ตไฟฟ้าเมื่อปี 2021 ซึ่งก็ได้การตอบรับที่ดี ไม่ว่าจะเป็นในด้านพละกำลัง และรูปลักษณ์ที่สวยสะดุดตา
เพื่อต่อยอดความสำเร็จทางแบรนด์รถจากเยอรมนี ก็ได้ทำการอัปดกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ e-tron GT ใหม่ ให้มีความร้อนแรง และทรงมากมากขึ้นกว่าเดิม โดยในรุ่นโมเดลปี 2025 ของ Audi RS e-tron GT จะถูกปรับปรุงใหม่ทั้ง 3 รุ่นประกอบไปด้วยรุ่น S e-tron GT, RS e-tron GT และ RS e-tron GT Performance
ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกของ Audi RS e-tron GT 2025 จะได้รับการอัพเกรดใหม่เพียงเล็กน้อย เริ่มจากกระจังหน้าใหม่แบบปิดทึบทั้งหมด มาพร้อมตราโลโก้สี่ห่วงที่จะมี 2 แบบ โดยในรุ่น S e-tron GT ตัวห่วงจะเป็นสีโครเมียม พื้นด้าหลังสีดำ ขณะที่อีก 2 รุ่นที่เหลือจะโลโก้แบบรมดำ


นอกจากนั้นงานดีไซน์ด้านหน้าของ Audi RS e-tron GT โฉมปี 2025 ของแต่ละรุ่นย่อยจะแตกต่างกัน โดยในรุ่นเริ่มต้น S e-tron GT ข้างตัวกระจังหน้าจะออกแบบให้มีช่องดักลมขนาดใหญ่ ส่วนในรุ่น RS e-tron GT และ RS e-tron GT Performance จะดีไซน์ให้เป็นรูปตัว “L”
ด้านล้ออัลลอยใน 2 รุ่นบนจะเป็นล้อลาย “Avus” แบบ 12 ก้านขนาด 20 นิ้ว โดยในชื่อของลายล้อนี้จะมาจาก Avus Quattro ที่เป็นรถคอนเซ็ปต์ในปี 1991 มาพร้อมจานเบรกที่เคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ พร้อมดิสก์คาร์บอนไฟเบอร์เซรามิก โดยมีคาลิเปอร์ด้านหน้าแบบ 10 ลูกสูบ ส่วนในรุ่นเริ่มต้นจะเป็นล้อทูโทนปัดเงาขาด 20 นิ้ว มาพร้อมกับจานเบรกเหล็กเป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐาน
นอกจากนี้รุ่น RS Performance จะมากับเฉดสีใหม่ สีเขียว Bedford Green ตัดกับหลังคาคาร์บอนแบบด้านใหม่ ที่ทาง Audi เรียกว่า “Carbon camouflage”
ด้านภายในห้องโดยสารของ e-tron GT ใหม่จะได้รับการตกแต่งใหม่ด้วยวัสดุลายไม้เบิร์ช ที่ผสานกับไมโครไฟเบอร์ Dinamica รอบห้องโดยสาร อีกทั้งยังมากับพวงมาลัย และเบาะที่นั่งที่มากับลวยลายตัดเย็บใหม่ในรุ่น เริ่มต้นจะหุ้มด้วยผ้าเย็บเดินตะเข็บด้วยด้านสีแดง พร้อมติดโลโก้เรืองแสงไว้ที่ตัวเบาะ ด้านเบาะนั่งฝั่งผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 18 ทิศทาง, หลังคากระจก Panoramic ที่สามารถปรับความเข้มได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส
ในส่วนของแผงแดชบอร์ดยังคงเหมือนกับในรุ่นก่อนหน้า โดยจะมากับมาตรวัดแบบ Audi virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมหน้าจอ MMI touch ขนาด 10.1 นิ้ว
ขณะที่ในรุ่น RS จะได้รับการตกแต่งเฉพาะรุ่น โดยในส่วนหน้าจอแสดงจอแบบ Performance สามารถเลือกสีพื้นหลังเป็นสีขาวได้ ส่วนเบาะที่นั่งจะหุ้มด้วยหนัง เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีเขียว Serpentine Green
สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนของ Audi RS e-tron GT 2025 ในทุกรุ่นย่อยจะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ในรุ่น S e-tron GT จะให้กำลังรวมกัน 500 kW (670 แรงม้า) ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.4 วินาที ความเร็วสูงุสดจะอยู่ที่ 245 กม./ชม.
ส่วนในรุ่น RS e-tron GT จะมีกำลัง 630 kW (845 แรงม้า) มีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 2.8 วินาที และในรุ่น RS e-tron GT Performance ซึ่งเป็นเรือธงรุ่นใหม่จะมีพละกำลังมากถึง 680 kW (912 แรงม้า) ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.5 วินาที่ เท่านั้น ความเร็วสูงุสดจะอยู่ที่ 250 กม./ชม. ซึ่งส่งผลทำให้เป็น Audi ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สำหรับชุดแบตเตอรี่ของ e-tron GT จะมีน้ำหนักที่เบากว่าในรุ่นเดิม 9 กก. แต่มีขนาดความจุที่มากขึ้น โดยมีความจุอยู่ที่ 97 kWh จากเดิมที่มีเพียง 84 kWh สางผลทำให่วิ่งได้ไกลถึง 609 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง พร้อมรองรับการชาร์จ DC ด้วยกำลังไฟฟ้าสูงถึง 320 kW ที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 270 kW ทำให้ชาร์จไฟจาก 10 – 80 % ได้ในเวลา 18 นาทีเท่านั้น หรือหากชาร์จเพียง 10 นาที ก็ยังสามารถวิ่งได้ไกลสุดกว่า 278 กม.
นอกจากนี้ในส่วนระบบ Regenerative Braking ก็เพิ่มกำลังในตอนเบรกจากเดิมที่มีเพียง 290 kW เพิ่มเป็น 400 kW อีกทั้งยังสามารถปรับยค่าการรีเจนได้ด้วยตนเองถึง 3 ระดับ
ขณะที่ในส่วนระบบช่วงล่างจะมากับถุงลมชุดใหม่แบบแอคทีฟปรับสูงต่ำได้ เพื่อเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะถนน มาพร้อมระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ
ในด้านราคาจำหน่ายทาง Audi ได้ตั้งราคาจำหน่ายในตลาดยุโรปไว้ดังนี้ ในรุ่น S e-tron GT จะเปิดราคาไว้ที่ 126,000 ยูโร หรือประมาณ 4.95 ล้านบาท, ในรุ่น RS e-tron GT จะมีราคาอยู่ที่ 147,500 ยูโร หรือประมาณ 5.79 ล้านบาท ขณะที่ในรุ่น RS e-tron GT Performance มีราคาจำหน่ายเริ่มที่ 160,500 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 6.3 ล้านบาท