ก่อนหน้านี้ทาง Fang Cheng Bao แบรนด์รถหรูสายลุย ที่อยู่ภายใต้สังกัดของทาง BYD ได้เผยภาพ และข้อมูลของ Fang Cheng Bao 8 (Leopard 8) รถเอสยูวีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 2 ของทางบริษัทต่อมาจาก BYD Leopard 5 หรือในตลาดเมืองจีนจะใช้ชื่อว่า Fang Cheng Bao 5 เอสยูวีแบบ 5 ที่นั่งที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2023
ล่าสุดก่อนที่ทางบีวายดีจะได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการของ BYD Leopard 8 หรือ Fang Cheng Bao 8 ทาง Fang Cheng Bao ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ก็ได้เผยภาพพร้อมเปิดรายละเอียดภายในห้องโดยสารของ Leopard 8 (Bao 8) ออกมาให้ชมกันก่อนล่วงหน้า
สำหรับ BYD Leopard 8 เป็นรถเอสยูวีสายลุยทรงหรู ที่จะออกมาจับกลุ่มผู้ที่ชอบใช้งานในรูปแบบออฟโรด ตัวรถจะมีมิติจะมีขนาดความยาวอยู่ที่ 5,195 มม. กว้าง 1,994 มม. สูง 1,875 มม. และมีความยาวฐานล้อ 2,920 มม.
ภายในห้องโดยสารจะมาในรูปแบบ 3 แถว รองรับได้ 6 – 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 2 จะมีให้เลือกสองรูปแบบ ทั้งแบบเบาะ 2 ที่นั่งแบบกัปตันซีท ปรับด้วยไฟฟ้ามาพร้อมที่วางแขน และแบบ 3 ที่นั่งเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ นอกจากนี้ผู้โดยสารแถวที่ 2 ยังสามารถควบคุมระบบปรับกากาศ และปรับเปลี่ยนเสเพลงได้ด้วยหน้าจอแยก 2 จอที่ติดตั้งไว้ด้านหลังคอนโซลกลาง ส่วนเบาะนั่งแถวสุดท้ายนั้นจะถูกออกแบบให้เป็นแบาะ 2 ที่นั่งขนาดใหญ่ตัวเบาะต่อติดกัน
ขณะที่ในด้านงานดีไซน์โดยรวมของ Bao 8 จะมีลักษณะที่คล้ายกับในรุ่น Bao 5 และในรุ่น BYD Shark PHEV ตัวแรกของทางบีวายดี โดยตกแต่งภายด้วยวัสดุบุนุ่ม และลายไม้ตามจุดต่าง ๆ ทั่วห้องโดยสาร
โดยในส่วนแผงคอนโซลหน้าจะได้รับการติดตั้งหน้าจอถึง 3 จอ โดยจะแบ่งเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape ตรงกลางจะเป็นหน้าจอควบคมุส่วนกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว และหน้าจอฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าที่มีขนาด 12.3 นิ้ว และคาดว่าจะมีหน้าจอ AR-HUD มาให้ด้วย
ด้านคอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยจะได้รับการติดตั้งแท่นชาร์จสมาร์ตโฟน 2 จุด มาพร้อมคันเกียร์ออกแบบให้ยืดหดได้ นอกจากนั้นยังมากับปุ่มควบคุมชุดอุปกรณ์ ที่ถูกออกแบบให้วางเรียงเหมือนกับปุ่มควบคุมของห้องนักบิน
ขณะที่ในด้านงานดีไซน์ภายนอกนั้น จะมีรูปลักษณ์ที่ดูภูมิฐานกว่า Bao 5 ด้านหน้าจะมากับกระจังหน้าสีดำทรงหกเหลี่ยม ที่แตกต่างจาก Bao 5 ที่มาในแบบทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมชุดไฟหน้า LED ที่ออกแบบให้มีความเรียวยาวมากกว่า ส่วนตัวกันชนหน้าจะมีขนาดใหญ่สีดำทั้งชิ้น
เส้นสายด้านข้างยังคงมากับเหลี่ยมมุมที่ดูดุดัน ซุ้มล้อสีดำทรงเหลี่ยม สอดรับเข้าชุดกับล้ออัลลอยทูโทนขนาด 20 – 21 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 275/55R20 และ 275/50R21 ตามลำดับ (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย)
นอกจากนี้ BYD Leopard 8 ยังมาพร้อมกล้อง LiDAR ถึง 3 ตัวที่อยุ่บนหลังคาด้านหน้ารวมทั้ง กล้องที่ติดตั้งอยู่หลังซุ้มล้อหน้าทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนด้านท้ายติดตั้งล้ออะไหล่พร้อมฝาครอบล้อ มาพร้อมกันชนท้ายดีไซน์โหดขนาดใหญ่
ในด้านขุมพลังขับเคลื่อนจะมากับระบบ Plug-in hybrid แบบ Extended-range electric vehicle (EREV) กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 268 แรงม้า ที่ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้า ไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ แบบ LFP จากบริษัท FinDreams หรือบริษัทในเครือ BYD ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยความจุอย่างแน่ชัด
มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ มอเตอร์คู่หน้าให้กำลัง 272 แรงม้า สวนมอเตอร์หลังให้กำลัง 408 แรงม้า ซึ่งจะให้พละกำลังรวมสูงถึง 939 แรงม้า (PS) โดยตัวรถจตะให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม. /ชม. ในเวลา 4.8 วินาที
นอกจากนั้นยังจะมากับระบบ DMO platform ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแรงรับการลุยแบบ Off-road อย่างเต็มพิกัด พร้อมด้วยช่วงล่างแบบ Disus-P
สำหรับรายละเอียดโดยรวมทั้งหมดของ Bao 8 (Leopard 8) จะได้รับการเปิดเผยอีกครั้งในวันที่เปิดตัวที่จะมีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 นี้ ที่ประเทศจีน ขณะที่ราคาจำหน่ายนั้น จากการคาดการณ์ของนักข่าวในประเทศจีนเผยว่า อาจจะมีราคาค่าตัวที่สูงถึง 500,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 2.5 ล้านบาทเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามถ้าหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาทางทีมงาน Autostation.com จำนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง
