in ,

BYD Leopard 8 (Bao 8) เอสยูวีสายลุยใหม่ ขุมพลัง Plug-in Hybrid 939 แรงม้า จ่อเปิดตัวในจีนกลางปีนี้

BYD Leopard 8 (Bao 8) เอสยูวีสายลุยขนาดใหญ่ ที่ยาวเกือบ 5.2 เมตร เบาะแบบ 3 แถว 6 – 7 ที่นั่ง ขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่มากับพละกำลังที่มากถึง 939 แรงม้า เตรียมเปิดตัวในตลาดเมืองจีนชาวยไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 นี้

BYD Leopard 8 (Bao 8)

หลังจากที่ทาง Fang Cheng Bao แบรนด์รถหรูสายลุยที่อยู่ภายใต้สังกัดชายคาของทาง BYD ได้ส่ง BYD Leopard 5 หรือในตลาดเมืองจีนจะใช้ชื่อว่า Fang Cheng Bao 5 ออกมาวางเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา โดยเปิดราคาไว้ที่ 289,800 หยวน หรือราว 1.48 ล้านบาท ซึ่งก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากชนชาวจีนอยู่มิใช่น้อย 

BYD Leopard 8 (Bao 8)

อีกทั้ง Fang Cheng Bao 5 หรือ Leopard 5 เอสยูวีสายลุยคันดังกล่าวนี้ก็เคยถูกนำมาโชว์ตัว ในคนไทยได้เห็น และยบลโฉมอย่างใกล้ชิดมาแล้วเมื่อครั้งในงาน Motor Show 2024 ที่ผ่านมา

BYD Leopard 8 (Bao 8)

และเพื่อตอกย้ำความสำเร็จทาง Fang Cheng Bao ก็เตรียมส่งพี่ใหญ่ ออกมาสมทบในตลาดอีกหนึ่งรุ่น โดยใช้ชื่อว่า Fang Cheng Bao 8 (Leopard 8) โดยตัวรถยังคงมาในรูปแบบเอสยูวีออฟโรดสายลุยทรงหรู ที่จะออกมาจับกลุ่มผู้ที่ชอบใช้งานในรุปแบบ Off road โดยความแตดต่างเบื้องต้นของ Leopard 8 และ Leopard 5 จะอยู่ที่ขนาดตัวรถที่ Fang Cheng Bao 8 (Leopard 8) จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น ซึ่งจะมากับเบาะที่นั่งแบบ 3 แถว 6-7 ที่นั่ง ต่างจาก Bao 5 ที่เป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง

BYD Leopard 8 (Bao 8)
BYD Leopard 8 (Bao 8)

ในด้านขนาดมิติตัวรถจากข้อมูลที่หลุดออกมาจากทาง กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) เผยว่า Fang Cheng Bao 8 (Leopard 8) จะมีความยาวที่  5,195 มม. กว้าง 1,994 มม. สูง 1,875 มม. และความยาวฐานล้อ 2,920 มม .

BYD Leopard 8 (Bao 8)
BYD Leopard 5 (Bao 5)

ขณะที่ในรุ่น Leopard 5 นั้นจะมีความยาวอยู่ที่  4,890 มม., กว้าง 1,970 มม. สูง 1,920 มม.ระยะฐานล้อ 2,800 มม.

BYD Leopard 8 (Bao 8)

ในด้านงานดีไซน์ของ BYD Leopard 8 (Bao 8) จากภาพที่ทาง MIIT ปล่อยออกมามาพร้อมกับรายละเอียดบางส่วน จะเห็นถึงรูปลักษณ์ที่ดูภูมิฐานมากกว่า Bao 5 ด้านหน้าจะมากับกระจังหน้าสีดำทรงหกเหลี่ยม ที่แตกต่างจาก Bao 5 ที่มาในแบบทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมชุดไฟหน้า LED ที่ออกแบบให้มีความเรียวยาวมากกว่า ส่วนตัวกันชนหน้าจะมีขนาดใหญ่สีดำทั้งชิ้น

BYD Leopard 8 (Bao 8)

เส้นสายด้านข้างตัวรถยังคงมากับเหลี่ยมมุมที่ดูดุดัน ซุ้มล้อสีดำทรงเหลี่ยม ชุดล้ออัลลอยทูโทนที่ออกแบบให้มีลวดลายที่ลดรงต้านอากาศ ที่มีขนาด 20 – 21 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 275/55R20 และ 275/50R21 ตามลำดับ (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย)

BYD Leopard 8 (Bao 8)

นอกจากนี้ BYD Leopard 8 (Bao 8) ยังมาพร้อมกล้อง LiDAR ถึง 3 ตัวที่อยุ่บนหลังคาด้านหน้ารวมทั้ง กล้องที่ติดตั้งอยู่หลังซุ้มล้อหน้าทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนด้านท้ายติดตั้งล้ออะไหล่พร้อมฝาครอบล้อ มาพร้อมกันชนท้ายดีไซน์โหดขนาดใหญ่

BYD Leopard 8 (Bao 8)

BYD Leopard 8 (Bao 8)

ส่วนด้านท้ายออกแบบให้มากับรูปทรงเหลี่ยมมากกว่า Bao 5 ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟท้าย และกันชนท้ายขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมากับล้ออะไหล่ ที่ออกแบบให้แขนล็อค ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นยังไม่มภาพและรายละอียดเปิดเผยออกมา

BYD Leopard 8 (Bao 8)

สำหรับขุมพลังจับเคลื่อนจะยังคงเป็น Plug-in hybrid แบบ Extended-range electric vehicle (EREV) จากข้อมูลเบื้องต้นเผยว่าจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ด้านหน้าให้กำลัง 200 kW หรือ 268 แรงม้า ส่วนคุ่หลังให้กำลัง 300 kW หรือ 268 แรงม้า โดยจะให้พละกำลังรวมมากถึง 939 แรงม้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.8 วินาที มาพร้อมความเร็วสูงุสดที่ 180 กม./ชม.

โดยจะมีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 268 แรงม้า ที่ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้า ให้กับแบตเตอรี่แบบ LFP จากบริษัท FinDreams ที่เป็นบริษัทในเครือ BYD แต่ยังไม่มีการเปิดเผยความจุออกมา

นอกจากนั้นยังจะมากับระบบ DMO platform ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแรงรับการลุยแบบ Off-road อย่างเต็มพิกัด พร้อมด้วยช่วงล่างแบบ Disus-P

BYD Leopard 8 (Bao 8)

ทั้งนี้ทั้งนั้นรายละเียด โดยรวมทั้งหมดของ BYD Leopard 8 (Bao 8) จะถูกเปิดเผยแอีกครั้งในวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่จะมีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 นี้ สำหรับราคาจำหน่ายนั้นทางผู้สื่อข่าวในประเทศจีนเผยว่าอาจจะมีราคาค่าตัวอยู่ที่ราว ๆ 500,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู๋ที่ 2.54 ล้านบาท