Fang Cheng Bao แบรนด์รถหรูสายลุยที่อยู่ภายใต้สังกัดชายคาของทาง BYD เปิดตัววางจำหน่าย BYD Leopard 8 (Bao 8) เอสยูวี PHEV ทรงหรูขนาดใหญ่ในรูปแบบออนไลน์ ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่จะถีงนึ้ เคาะราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 400,000 – 500,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 1.87 – 2.34 ล้านบาท
สำหรับ BYD Leopard 8 (Bao 8) จะเป็นรถเอสยูวีขนาดใหญ่รุ่นใหม่ ที่ต่อมาจาก BYD Leopard 5 หรือในตลาดเมืองจีนจะใช้ชื่อว่า Fang Cheng Bao 5 ที่ถูกเปิดตัวาวางเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ยังคงมาในรูปแบบเอสยูวีออฟโรดสายลุยทรงหรู ที่จะออกมาจับกลุ่มผู้ที่ชอบใช้งานในรุปแบบ Off Road โดยความแตกต่างของ Leopard 8 และ Leopard 5 จะอยู่ที่ขนาดตัวรถซึ่ง BYD Leopard 8 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น โดยจะมากับเบาะที่นั่งแบบ 3 แถว 6-7 ที่นั่ง ต่างจาก Fang Cheng Bao 5 ที่เป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง
ด้านขนาดมิติตัวรถของ BYD Leopard 8 (Bao 8) จะมีความยาวที่ 5,195 มม. กว้าง 1,994 มม. สูง 1,875 มม. (เมื่อรวมแร็คหลังคาแล้วจะมีความสูงถึง 1905 มม.) และความยาวฐานล้อ 2,920 มม. ตัวรถสามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 900 มม.
สำหรับในด้านงานออกแบบดีไซน์ทางบีวายดีเผยว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากจักรวาลในอนาคต โดยใช้แนวคิดแบบ Future Starship Aesthetics หรือ “สุนทรียศาสตร์ยานอวกาศแห่งอนาคต” ตัวรถจะมาในสไตล์แบบฮาร์ดคอร์ดุดัน แต่จะแฝงความรู้สึกที่ดูภูมิฐานในตัว
ด้านหน้าจะมากับกระจังหน้าสีดำทรงหกเหลี่ยม มาพร้อมชุดไฟหน้า LED ที่ออกแบบให้มีความเรียวยาวมากกว่า ส่วนตัวกันชนหน้าจะมีขนาดใหญ่สีดำทั้งชิ้น
เส้นสายด้านข้างตัวรถยังคงมากับเหลี่ยมมุมที่ดูดุดัน ซุ้มล้อสีดำทรงเหลี่ยม ชุดล้ออัลลอยทูโทนที่ออกแบบให้มีลวดลายที่ลดรงต้านอากาศ ที่มีขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 275/55R20 ส่วนด้านท้ายติดตั้งล้ออะไหล่พร้อมฝาครอบล้อ มาพร้อมกันชนท้ายดีไซน์โหดขนาดใหญ่
โดยจะมีเฉดสีตัวรถให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเงิน Star Moon Silver, สีทอง Dawn Gold และ สีดำ Night Shadow Black
ด้านภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเหลือง Wild Wheat Yellow และ สีดำ Dark Night Black
เบาะที่นั่งจะเป็นแบบ 3 แถว มีให้เลือกทั้งรุ่น 6 และ 7 ที่นั่ง โดยจะมีระยะห่างจากพื้นที่ของแต่ละแถวอยู่ที่ 1,000 มม. โดยเบาะแถวที่ 2 จะมีพื้นที่ Leg Room ที่ยาวถึง 870 มม. และแถวที่ 3 จะมีพื้นที่วางขาหรือ Leg Room 800 มม.
โดยตัวเบาะที่นั่งทั้งหมดจะปรับด้วยไฟฟ้า นอกจากนี้ยังจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุมากถึง 1,130 ลิตรเมื่อปรับพับเบาะแถว 3 และ 3 ลง
ด้านแผงแดชบอร์ดจะมากับแผงหน้าปัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง 4 ก้านขนาดใหญ่แบบท้ายตัด มาพร้อมหน้าจอควบคุมกลางขนาด 17.3 นิ้ว และหน้าจอมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป BYD 9000 รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ DiLink150 ของ BYD นอกจากนี้ยังได้รับจอ AR-HUD ขนาด 50 นิ้ว ที่สะท้อนข้อมูลไปยังกระจกบังลมหน้า
ส่วนแผงคอนโซลกลางจะถูกออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยจะเต็มไปด้วยปุ่มควบคุมจำนวนมาก ที่รายล้อมคันเกียร์ขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังจะได้รับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่มีมาให้ 2 ช่อง และยังได้รับกุญแจรถ NFC รวมถึงระบบเครื่องเสียงของทาง Devialet และมีช่องเก็บอุณหภูมิร้อน-เย็น ความเย็น ด้านล่างที่เท้าแขนตรงกลาง และหลังคาซันรูฟ
ขณะที่ด้านหลังจะได้รับการติดตั้งหน้าจอควบคุมปรับอากาศแบบแยกส่วนที่เป็นระบบสัมผัส และหน้าจอควบคุมระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่วางอยู่ด้านหลังของคอนโซลกลาง
นอกจากนี้ BYD Leopard 8 (Bao 8) ยังมาพร้อมกล้อง LiDAR ถึง 3 ตัวที่อยุ่บนหลังคาด้านหน้ารวมทั้ง กล้องที่ติดตั้งอยู่หลังซุ้มล้อหน้าทั้ง 2 ฝั่ง
FCB Bao 8 จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Super Hybrid 2.0T Dual Mode Off-road (DMO) ของ BYD ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแรงรับการลุยแบบ Off-road อย่างเต็มพิกัด โดยจะได้รับการติดตั้งระบบควบคุมตัวถังไฮดรอลิกอัจฉริยะ DiSus-P
ในด้านพละกำลังจะมากับเครื่องยนต์ 2.0T ที่ให้กำลัง 268 แรงม้า มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวให้กำลัง 402 แรงม้า โดยจะให้กำลังรวมทั้งระบบที่ 738 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. อยู่ที่ 4.8 วินาที โดยตัวรถจะมีพละกำลังในการลากจูงสูงถึง 2.5 ตัน
โดยจะมีโหมดการขับขี่ 15 โหมด ได้แก่ โหมด Comfort, Economy, Sports, Smart, Snow, Sand, Mud, Mountain, Rock, Wading, Racing, Creeping, Anti-Skid Chain, U-turn Style Bao และขับขี่ด้วยรถพ่วง มาพร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายตรงกลาง เพลาหน้า และเพลาหลัง
ด้านชุดชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบ LFP Blade ขนาด 36.864 kWh วิ่งในโหมด EV ได้ระยะทางไกลสุด 125 กม. และวิ่งครอบคลุมระยะทางไกล 1,200 กม. เมื่อน้ำมันเต็มถัง และแบตเตอรีชาร์จไฟเต็ม รองรับการชาร์จไฟ DC ขนาด 120 kW ที่จะให้กำลังไฟจาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 16 นาที พร้อมทั้งยังมากับระบบ V2L
สำหรับ BYD Fang Cheng Bao Bao 8 พร้อมเปิดให้รัะบจองแบบออนไลน์แล้วในตลาดเมืองจีน โดยทางบีวายดี ตั้งราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 400,000 – 500,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.87 – 2.34 ล้านบาท โดยหากลูกค้าที่ชำระเงินจอง 3,000 หยวน หรือประมาณ 14,000 บาท และเลือกที่จะชำระเงินมัดจำ จะได้รับบริการจัดส่งแบบด่วน และสามารถเลือกสีภายใน/ภายนอกได้
โดยทาง BYD จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ BYD Leopard 8 (Bao 8) อีกครั้งในช่วงเดือน พ.ย. นี้