BYD ในประเทศจีน ได้ปล่อยภาพอย่างเป็นทางการของ ATTO 3 หรือในจีนจะใช้ชื่อทำตลาดว่า Yuan Plus รุ่นปรับโฉมใหม่ โดยให้เห็นถึงรายละเแียกแบบเต็ม ๆ ทั้ง ด้านหน้า และด้านท้าย ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น รวมทั้งยังเผยว่าจะมาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางในจีน เร็ว ๆ วันนี้
จากภาพของ BYD ATTO 3 โฉมใหม่ ที่ถูกปล่อยออกมานี้ ในส่วนด้านหน้าของตัวรถจะเห็นถึงงานออกแบบใหม่โดยเฉพาะในส่วนของกันชนหน้า ที่มาพร้อมแผงกันกระแทกที่เป็นอลูมิเนียม ส่งผลให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่ารุ่นที่ผ่านมา ขณะที่ชุดไฟหน้าที่มาพร้อมกับแถบโครเมียม Dragon Whiskers ที่คั้นกลางนั้นยังคงเดิม
ขณะที่เส้นสายด้านข้างยังคงเดิมเพิ่มเติมที่บริเวณกาบบันไดข้างจะถูกตกแต่งด้วยแถบโครเมียม รวมทั้งที่ขอบกระจกบานข้างด้านบนจะถูกตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมที่เลาะขอบหลังคา พร้อมตกแต่งเสาหลังคา D-Pillar ด้วยเฉดสีดำ ส่วนชุดล้ออัลลอยจะเป็นลวดลายใหม่ ออกแบบให้ลดแรงต้านอากาศ โดยมีขนาด 17 และ 18 นิ้ว ขึ้นอบยุ่แต่ละรุ่นย่อย
ในส่วนด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้ายที่เปลี่ยนลายกราฟฟิกด้านในใหม่ มาพร้อมปอยเลอร์หลังคาใหม่ที่มีไฟเบรกแบบคู่ ส่วนชุดกันชนท้ายก็ดีไซน์ใหม่ที่มากับแผงกันกระแทกใต้กันชนหลัง
ด้านมิติตขนาดตัวรถของ BYD ATTO 3 โฉมใหม่ จะมีความยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,615 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,720 มม.
น่าเสียดายที่ทางบีวายดียังไม่มการเปิดเผยรายละเอียดของภายในห้องโดยสารออกมา เพียงแต่บอกว่า BYD ATTO 3 หรือ Yuan Plus โฉมใหม่ จะมากับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มี God’s Eye C ซึ่งทำงานร่วมกับเซนเซอร์ 29 ตำแหน่ง มาพร้อมกล้องนานาชนิด รองรับระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติความเร็วสูง และมีระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 6 รูปแบบ ทำให้ BYD ATTO 3 รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ รองรับ 10 การนำทางความเร็วสูงและมี 6 โหมดจอดรถให้ใช้
สำหรับในด้านขุมพลังขับเคลื่อนของ BYD ATTO 3 Minorchange จะยังคงขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% จากข้อมูลเบื้องต้นเผยว่าจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ที่วางอยู่ที่เพลาคู่ล้อหน้าให้กำลัง 150 kW (201 แรงม้า) โดยจะมากับแบตเตอรี่ LFP ทีมีให้เลือก 2 ขนาดความจุ ได้แก่ 49.9 kWh และ 60.5 kWh โดยให้ระยะทางวิ่งที่ 430 กม. และ 510 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC)
สำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ BYD ATTO 3 หรือ Yuan Plus โฉมใหม่นี้ จะมีขึ้นในจีนเร็ว ๆ นี้ โดยหากมีความคืบหน้า และข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะรีบนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งโดยทันที
