BYD แบรนดผู้ผลิตรถบนต์รายใหญ่จากจีน ได้เปิดตัว BYD Destroyer 05 Honor Edition ซีดานขนาดเล็กขุมพลัง PHEV ทีั่เป็นไลท์อัพใหม่ในตระกูล Warship Series โดยจะมีให้เลือกถึง 6 รุ่นย่อยเคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 79,800 – 128,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.8 – 6.5 แสนบาท
นด้านงานออกแบบจะมีความแตกต่างจาก BYD Destroyer 07 รถซีดานรุ่นพี่จากค่าย และตระกูลเดียวกัน ในส่วนของกระจังหน้าจะออกแบบให้เป็นเลเยอร์ ชั้น ๆ ที่วางเรียงซ้อนกัน พร้อมตกแต่งแต่ละชั้นด้วยเส้นโครเมียม ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED ที่มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นรูปตัว L วางอยู่ในโคมเดียวกัน เชื่อมต่อชุดไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่งด้วยแถบไฟ มาพร้อมติดโลโก้ BYD เสริมความหรูหราด้วยคิ้วโครเมียมที่วางพาดยาวอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า และที่ปลายขอบสปอยเลอร์หน้า
เส้นสายด้านข้างเน้นความหรูหราตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมที่กรอบหน้าต่างบานข้าง ส่วนด้านท้ายออกแบบให้มีความลาดเทในแบบสไตล์ Fast-Back ขณะที่ชุดไฟท้ายมาในแบบ LED ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนท้าย พร้อมติดตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นรถของทางแบรนด์บีวายดีด้วยตัวอักษร BUILD YOUR DREAM ปิดท้ายความสปอรืตลงตัวด้วยล้ออัลลอยทูโทยขนาด 17 นิ้ว
ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความยาวอยู่ที่ 4,780 มม., ยาว 1,837, สูง 1,495 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,718 มม.
ภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบหรูตามแบบฉบับงานออกแบบของทาง BYD แผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถปรับหมุนได้ รองรับระบบเชื่อมต่อเครือข่ายอัจฉริยะ DiLink ซึ่งรองรับฟังก์ชันต่างๆ เช่น การโต้ตอบด้วยเสียง คาราโอเกะ และการอัพเกรด OTA
นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถปลดล็อกประตูผ่านนาฬิกา Apple หรือ iPhone ได้อีกด้วย
คอนโซลกลางออกแบบให้เป็นสะพานเชื่อมต่อกับคอนโซลหน้า โดยด้านล่างจะเป็นช่องสำหรับวางของ ส่วนพื้นที่ด้านบนจะมีพื้นที่ขนาดกว้าง โดยออกแบบให้มีช่องวางแก้วน้ำถึง 2 ช่อง, แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, แป้นเปลี่ยนเกียร์ไฟฟ้า ที่เป็นแบบมือหมุน, ปุ่ม Push-Start, ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ
ขณะที่ในส่วนเบาะที่นั่งมาในแบบทรงสปอร์ต เบาะฝั่งผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง ด้านเบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้าจะมาพร้อมกับระบบอุ่นเบาะ นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ DiPilot ที่ประกอบไปด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้, ระบบควบคุมการเข้าโค้ง, ระบบเตือนการออกนอกเลน, ระบบจดจำป้ายจราจรอัจฉริยะ, ระบบตรวจสอบจุดบอด BSD, เบรกมือไฟฟ้า, กล้อง 360 เป็นต้น
ด้านพละกำลังขับเคลื่อนของจะได้รับการติดตั้งระบบปลั๊กอินไฮบริด DM-i ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ขับเคลื่อนซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร โดยในด้านขุมพลังเครื่องยนต์จะให้กำลังสูงสุด 81 kW หรือ 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ขณะที่ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าจะมีให้เลือก 2 ระดับความแรงโดยจะให้กำลัง 132 kW หรือ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 316 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 145 kW หรือ 194 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 325 นิวตันเมตร
ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ EV, HEV/SPORT, ECO และ NORMAL มาพร้อมอัตราประหยัดน้ำมันที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC โดยทาง ฺ BYD เคลมไว้ว่าน้ำมันเต็ม 1 ถังจะวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 1, 200 กม.
ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะมีให้เลือก 2 ขนาดเช่นกัน โดยแบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กขะมีขนาด 8.3kWh วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทาง 55 กม. ในขณะที่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่จะมีขนาดความจุที่ 18.3kWh ช่วยให้เดินทางได้ไกลถึง 120 กม. พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่จะให้กำลังไฟจ่าก 30 – 80% ภายในเวลา 30 นาที
BYD Destroyer 05 Honor Edition จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในเมืองจีน โดยทางบีวายดี เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 79,800 – 128,800 หยวน หรือตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 3.8 – 6.5 แสนบาท เท่านั้น