บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่าย และให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ เผยโฉม BYD SEAL U DM-i รถเอสยูวีขนาดใหญ่ 5 ที่นั่ง 5 ประตู ที่พร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ครั้งแรกในไทย ที่ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45
สำหรับ BYD SEAL U DM-i มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูระดับพรีเมียม โดดเด่นด้วยรูปทรงกระจังหน้าแบบไร้ขอบ โค้งมนคล้ายหยดน้ำ
ดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะภายใต้คอนเซ็ปต์ OCEAN X โฉบเฉี่ยวด้วยโคมไฟแบบตัว C และดีไซน์ด้านข้างที่เลือกใช้เส้นสายลากยาวต่อเนื่องถึงด้านหลัง เสริมแถบอลูมิเนียมเพิ่มความพรีเมียมเมื่อวิ่งบนท้องถนน
พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ MacPherson strut เสริมความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนน และระบบกันสะเทือนแบบ Multi-Link ยกระดับความนุ่มนวลและความสบายระหว่างการเดินทาง เก็บเสียงรบกวนจากภายนอกให้ห้องโดยสารเงียบสงบตลอดเส้นทาง
สำหรับมิติขนาดตัวรถจะมาในขนาด C-SUV โดยมีความยาวอยู่ที่ 4,475 มม. ความกว้าง 1,890 มม. ความสูง 1,670 มม. มาพร้อมระยะฐานล้อ 2,765 มม. และมีระยะต่ำสุดจากพื้น 155 มม.
ภายในห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง โดยรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง มาพร้อมงานออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์การผสมผสานความทันสมัยและความเรียบง่ายอย่างลงตัว
แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอส่วนกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนจอได้ รองรับการอัปเดตในรูปแบบ OTA มาพร้อมมาตรวัดดิจิตอลขนาด 8.8 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบท้ายตัด
คอนโซลกลางมาพร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 ตำแหน่ง, ช่องวางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด, พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด และที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 ตำแหน่ง นอกจากนั้ยังออกแบบหัวเกียร์ด้วยวัสดุคริสตัล
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบกุญแจ NFC
เบาะที่นั่งทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนังสีทูโทนดำ – ทองพร้อมเดินด้วยด้ายสีแดงทั่วทั้งตัวเบาะ โดยฝั่งด้านผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ขณะที่ฝั่งผู้โดยสารปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 มาพร้อมพืน้ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 574 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะหลังลงจะเพิ่มพื้นที่ความจุได้มากถึง 1,449 ลิตร
สำหรับด้านระบบความปลอดภัยจะได้รับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และถุงลมนิรภัยด้านข้าง – ฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง, กล้องมองรอบคัน 360 องศา, เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหน้าและด้านหลังรวม 6 จุด, ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ, ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา, ระบบช่วยเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า, ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า, ระบบแจ้งเตือนจำกัดความเร็วอัจฉริยะ และระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ เป็นต้น
BYD SEAL U DM-i ถูกสร้างขึ้นบนแพตลฟอร์ม DM-i Platform CTP Battery + BYD Intelligent Driving System ในด้านขุมพลังจะมากับระบบปลั๊กอินไฮบริด DM-i เวอร์ชั่นที่ 4
โดยจะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ที่ให้กำลังสูงสุด 145 kW หรือ 194 แรงม้า แรงบิด 325 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันจะให้พละกำัลงมากถึง 312 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงุสด 435 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้อัตราเร่ง 0 -100กม./ชม. ภายในเวลา 8.5 วินาที มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 5 โหมด ได้แก่ ECO, Normal, Sport, HEV และ EV
มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.3 kWh ที่วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกลถึง 92 กม. (NEDC) อีกทั้งทางบีวายดียังเผยว่าถ้าน้ำมันเต็มถัง แบตเตอรี่ชาร์จเต็มจะวิ่งครอบคลุมทั้วระบบอยู่ที่ 1,100+ กม. (NEDC) มาพร้อมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 21 กม.ต่อลิตร
สำหรับ BYD SEAL U DM-i ที่จะเปิดวางจำหน่ายในไทยจะมีสีภายนอกทั้งหมด 3 สี ได้แก่สีดำ Quantum Black, สีเทา Graphite Grey และ สีขาว Horizon White
โดย BYD SEAL U DM-i พร้อมเปิดให้จองสิทธิ์ RÊVER Care รับสิทธิประโยชน์ส่วนลดมูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท เมื่อออกรถ โดยตัวรถจะเริ่มส่งมอบ พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการในข่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 นี้