BYD ได้เปิดตัว พร้อมเผยรายละเอียดของภายในห้องโดยสารของ BYD XIA รถเอ็มพีวีใหม่ขนาดใหญ่ ในซีรี่ส์ Dynasty ที่มาในแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง พ่วงด้วยขุมพลัง PHEV ที่มากับเทคโนโลยี DM-i เจเนอเรชันที่ 5 ของทางบีวายดี ก่อนที่จะเริ่มเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2025 โดยคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ระหว่าง 289,900 – 350,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.39 – 1.68 ล้านบาท
สำหรับ BYD XIA รถเอ็มพีวีขนาดใหญ่รุ่นใหม่ ของทางค่ายบีวายดี จะเข้ามาเป็นรถรุ่นใหม่ในซีรี่ส์ราชวงศ์ XIA ของในตะกูล Dynasty ที่ร่วมกับ HAN, TANG, QIN, SONG และ YUAN โดยในราชวงศ์ XIA (เซี่ย) ถือเป็นราชวงศ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีนโบราณ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2070 ก่อนคริสตกาล
สำหรับตัวรถนั้นจะใช้พื้นฐานร่วมกันกับ Denza D9 ในด้านงานออกแบบดีไซน์มาพร้อมภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Dragon Face ของ BYD ด้านหน้าตัวรถจะมากับกระจังหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยโครเมียมกระจายเต็มพื้นที่ มาพร้อมชุดไฟหน้า LED ดีไซน์เพรียวบาง โดยมีเส้นไฟ LED วางพาดเต็มพื้นที่เชื่อมต่อไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่ง อีกทั้งยังตกแต่งด้วยแถบโครเมียมพร้อมติดตราชื่อแบรนด์ BYD ที่เป็นภาษาอังกฤษไว้ด้านหน้า ซึ่งจะแตกต่างจากรถในซีรีส์ Dynasty รุ่นอื่นๆ ที่จะใช้โลโก้ที่เป็นอักษรจีน
เส้นสายด้านข้างของตัวรถนั้นจะมีความคล้ายกับ Denza D9 ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหลังคาที่มาในลักษณะแบน, ประตูแบบบานเลื่อนไฟฟ้าที่คู่บานหลัง รวมทั้งตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมที่ขอบกระจก, คิ้วชายล่างประตู
ส่วนด้านท้ายของ BYD XIA จะมากับชุดไฟท้ายที่เป็นแถบยาววางเต็มพื้นที่ด้านหลัง มาพร้อมชุดสปอยเลอร์หลังคาที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ
ขณะที่ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาว 5,145 มม. ความกว้าง 1,970 มม. ความสูง 1,805 มม. และระยะฐานล้อ 3,045 มม. โดย XIA จะมีความยาวตัวถังที่สั้นกว่า Denza D9 อยู่ 105 มม. แต่กว้างกว่า 10 มม. และเตี้ยกว่าอยู่เพียง 115 มม.
ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (2+2+3) เบาะนั่งแถวที่ 2 จะเป็นแบบ Captain seal โดย9Yวเบาะจะเป็นแบบ Zero Gravity มาพร้อมที่ที่วางขาแบบไฟฟ้า รวมทั้งยังมากับระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันนวด โดยสามารถปรับต่าง ๆ ของตัวเบาะได้ที่แผงควบคุมที่อยู่บริเวณแผงประตูข้างทั้ง 2 ฝั่ง และที่เท้าแขนของตัวเบาะ
อีกทั้งยังติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่บนเพดานหลังคารถ และยังมาพร้อมกับตู้ทำความร้อน – เย็น ที่อยู่ด้านหลังของคอนโซลกลางระหว่างเบาะคู่หน้า
ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 3 จะได้มากับฟังก์ชันระบบทำความร้อน และระบายอากาศ อีกทั้งเบาะหลังของ BYD Xia ยังสามารถเลื่อนได้ถึง 10 ซม. เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ นอกจากนี้ยังสามรถพับได้แบบราบเรียบ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่หายากในรถมินิแวน
ขณะที่ในส่วนของแผงแดชบอร์ดของ BYD Xia จะเหมือนกับในรุ่น Denza Z9 โดยจะติตดั้งหน้าจอมาให้ 3 จอ ได้แก่ แผงหน้าปัด LCD ที่วางอยู่หลังพวงมาลัยทรง 3 ก้าน ส่วนตรงกลางจะเป็นหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มาในแบบแขวนลอยตัวออกมาจากคอนโซลหน้า และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า
คอนโซลกลางของ BYD Xia จะมากับแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 จุด และมีปุ่มควบคุม พร้อมกับที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง นอกจากนั้นยังจะมากับระบบช่วยเหลือการขับขี่ DiPilot ADAS และระบบปฏิบัติการ DiLink 150
ส่วนระบบส่งกำลังของ BYD XIA จะมากับเทคโนโลยี DM-i เจเนอเรชันที่ 5 ของ BYD ที่จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 115 kW (154 แรงม้า) ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 200 kW (268 แรงม้า) ขับเคลื่อน 4 ล้อ
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ LFP Blade ขนาด 20.4 kHh โดยจะวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 80 กม. อีกทั้งยังเคลมไว้ว่าจะเป็นรถ MPV ปลั๊กอินไฮบริด ที่ชาร์จไฟ SoC ได้เร็วที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยจะให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ในเวลาประมาณ 8 นาที เท่านั้น และยังเผยอีกว่าจะมี่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่เพียง 6.5 ลิตร/100 กม.
ด้านระบบช่วงล่างของ BYD XIA จะเป็นแบบระบบควบคุมตัวถังลดแรงกระแทกอัจฉริยะ DiSus-C ที่จะช่วยควบคุมความหนืดในการยืด-ยุบของช่วงล่าง เพื่อควบคุมการทรงตัวให้ดีตลอดการเดินทาง
BYD Xia รถเอ็มพีวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่นี้ จะเข้าสู่ตลาดจีนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 โดยจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ระหว่าง 289,900 – 350,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.39 – 1.68 ล้านบาท ส่วนจะมีแผนที่นำไปขายนอกประเทศหรือไม่นั้นต้องมารอลุ้นกัน โดยเฉพาะตลาดในประเทศไทย