เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมาทาง Dongfeng Motor Corporation หนึ่งในผู้ผลิตรถรายใหญ่สัญชาติจีน ได้เปิดตัวแบรนด์รถยนต์ใหม่ที่มากับชื่อว่า Mengshi โดยมีความหมายในภาษาจีนที่แปล่วา “นักรบ” โโยในขณะนั้นก็ได้เปิดตัวรถต้นแบบรุ่นแรกของทางค่ายออกมา โดยใช้ชื่อรุ่นว่า Mengshi M-Terrain และถัดมาไม่นาน ในเวอร์ชั่นจริงของ Mengshi M-Terrain ก็ถูกปล่อยลงตลาดในประเทศจีน โดยตัวรถนั้นมาในรูปแบบเอสยูวีสายลุย ที่มากับรูปลักษณ์ดีไซน์สุดโหด ที่สำคัญยังมuขุมพลังให้เลือกทั้งแบบไฟฟ้า 100 % และแบบ PHEV ที่มาในรูปแบบ Extended Range Electric Vehicle ที่เสริมด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก
ล่าสุดในปี 2024 นี้ทาง Dongfeng ได้ร่วมมือกับทางภาพยนตร์เรื่อง Operation Red Sea 2 เผยโฉม M-Hero 917 รุ่นพิเศษที่ใช้ชื่อรุึ่นว่า Dragon Armor Edition ที่นำรุ่นพื้นฐาน M-Hero 917 มาปรับแต่งเสริมโหดให้ยิ่งกว่าเดิม ด้สยการเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเสริมความสามารถในการลุยออฟโรดมากขึ้น และเปิดให้ลูกค้าชาวจีนที่สนในได้จับจองล่วงหน้า โดยตั้งราคาในรุ่นเริ่มต้นไว้ที่ 768,000 หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.88 ล้านบาท
สำหรับ Dongfeng M-Hero 917 Dragon Armor Edition นั้นเคบถูกเผยโฉมออกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อในงาน ปักกิ่งออโตโชว์ครั้งที่ผ่านมา ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกนั้นจะมีความแตกต่างจากรุ่นปกติ ด้วยเฉดสีภายนอกที่มากับสีเหลือง Desert Strom Military หรือเรียกว่าสีทหารพายุทะเลทราย
มาพร้อมกับกระจังหน้าที่ปรับเปลี่ยนใหม่ ที่มาในแบบช่องแนวตั้ง นอกจากนั้นตัวยังใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มากถึง 22.3% เป็นส่วนประกอบหลักทั้งที่ฝากระโปรง, หลังคา และแร็กบันไดข้าง รวมไปถึงมีแพลตฟอร์มยืดหลังคา, ชั้นวางยางอะไหล่ด้านหลัง
เสริมความดุด้วยพร้อมกันชนเหล็กทั้งด้านหน้า และหลัง โดยในส่วนกันชนหน้าติดตั้ว Bull Bar ทรงกลม ที่ช่วยป้องกันความเสียหายบให้กับตัวกระจังหน้า พร้อมติดตั้งวินซ์ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 12,500 ปอนด์ และ Tow Bar สำหรับการลากจูง
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้ทาง Mengshi ยังติดตั้งชุดอุปกรณ์อฟโรดไว้รอบคันทั้งขวาน, พลั่ว, ถังน้ำมันสำรอง, อุปกรณ์ดับเพลิงทั้งด้านข้างและด้านหลังของรถ
ในด้านขนาดมิติตัวรถของ M-Hero 917 Dragon Armor Edition จะมีความยาว 4,987 มม. ความกว้าง 2,080 มม. ความสูง 1,935 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,950 มม.
ด้านภายในห้องโดยสารของ Dongfeng M-Hero 917 Dragon Armor Edition ถูกระบุว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากมังกรจีน โดยจะมีเฉดสีภายในให้เลือก 3 สี ได้แก่สีดำ, สีขาว และสีส้ม
ในส่วนแผงดชบอร์ฺดจะมากับหน้าจอถึง 3 จอด้วยกัน แบ่งออกเป็นหน้าจอข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่าวงอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังกืชันขนาดใหญ่หุ้มด้วยหนังแบบทูโทน ตรงกลางจะเป็นหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว และจอหน้าผู้โดยสารตอนหน้าที่มีขนาด 12.3 นิ้ว
นอกจากนี้ในส่วนเบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนัง Nappa พร้อมบุเพดานหลังคาด้านในด้วยหนังกลับ อีกทั้งยังสามารถอัพเกรดการตกแต่งภายในจากวัสดุลายไม้ให้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ได้อีกด้วย 
M-Hero 917 Dragon Armor Edition ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม M-Tech ใหม่ของ Dongfeng มีให้เลือกทั้งแบบ BEV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% และ EREV
โดยในรุ่น BEV จะได้รับการติตดั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวให้กำลังรวมมากถึง 800 kW (1,072 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 1,400 นิวตันเมตร โดยตัวรถจะให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 ในเวลาเพียง 4.2 วินาที มาพร้อมกับแบตเตอรีที่ให้ระยะการเดินทางได้ 505 กม. (CLTC)
ส่วนรุ่นขับเคลื่อนด้วย EREV จะมากับครื่องยนต์ 1.5T ให้กำลัง 194 แรงม้า มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ที่มีกำลังรวม 600 kW (805 แรงม้า) มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 1,050 นิวตันเมตร โดยทาง Dongfeng เคลมไว้ว่าจะวิ่งได้ระยะทางครอบคลุมมากถึง 1,032 กม. (CLTC)
นอกจากนั้น Mengshi M-Terrain เอสยูวีดีไซน์โหด ยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีการบังคับเลี้ยวแบบแอ็คทีฟที่ควบคุมด้วยล้อหลังอัจฉริยะด้วยไฟฟ้า ที่ให้รัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.1 เมตร อีกทั้งยังมากับ ระบบเลี้ยว 4 ล้อ หรือเลี้ยวแบบการเดินของปู ที่เหมือนกับโหมด CrabWalk ของ GMC Hummer EV รวมถึงยังมีโหมดการขับขี่ที่ให้เลือกถึง 9 โหมด
ระบบช่วงล่างจะเป็นแบบถุงลมแบบปรับได้ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมสามารถเพิ่มความสูงของตัวรถได้โดยอัตโนมัติ ในขณะที่ระบบล็อกเฟืองท้ายสามารถปรับปรุงการยึดเกาะถนนในสภาพแวดล้อมแบบออฟโรด รวมถึงยังติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 3 และสุดท้ายยังมากับระบบ UAV อัจฉริยะของ Oriental Eagle Eye ที่ระบบจะตรวจหาเส้นทางที่ดีที่สุดโดยทางโดรน
สำหรับราคาจำหน่ายของ Dongfeng M-Hero 917 Dragon Armor Edition ในประเทศจีนทาง Dongfeng ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ระหว่าง 768,000 – 868,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.88 – 4.39 ล้านบาท ซึ่งนอกจะที่วางจำหน่ายจีนแล้วทางตงฟง วางแผนที่จะส่ง M-Hero 917 ไปจัดจำหน่ายนอกประเทศจีนอีกด้วย โดยเล็งไว้ที่ตลาดยุโรป และตะวันออกกลาง
