GAC หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากประเทศจีน หลังจากที่โชว์โฉม GAC AION V II ภายในงาน Beijing Auto Show 2024 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัว ประกาศราคาจำหน่าย GAC AION V II ออกมาแล้ว โดยจะมีให้เลือกถึง 7 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายเริ่มที่ 6.44 แสนบาท
สำหรับ GAC AION V II เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาในรูปแบบเอสยูวี โดยจะเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ต่อจาก AION V รุ่นแรกที่เปิดตัวมาเมื่อปี 2020
ตัวรถนั้นถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม AEP Pure Electric Digital Platform ที่ทาง GAC พัฒนาขึ้นเองใหม่ โดยมีขนาดความยาวอยู่ที่ 4,605 มม. ความกว้าง 1,854 มม. ความสูง 1,660 มม. และระยะฐานล้อ 2,775 มม.
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ตัวรถ จะถูกพัฒนาร่วมกันจากศูนย์ออกแบบที่ตั้งอยู่ทั่วโลก ทั้งใน Los Angeles สหรัฐฯ, Milan อิตาลี รวมถึงเซี่ยงไฮ้ และกวางโจว ประเทศจีน โดยตัวรถได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Tyrannosaurus Rex (ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์) ไดโนเสาร์ที่เป็นตัวเอกที่มาจากเรื่องจูราสสิคพาร์ค
ตัวรถมาพร้อมภาษาการออกแบบใหม่ “Blade Shadow Potential Energy” ที่ผสมผสานความแข็งแกร่ง เทคโนโลยี และอารมณ์ความรู้สึกเข้าด้วยกัน ตัวรถมากับเส้นสายที่ดูบึกบึน ตัวถังเป็นที่เป็นเหลี่ยมสัน
กระจังหน้าแบบปิดทึบตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้า มาพร้อมโลโก้ใหม่ของ AION ที่มาในรูปแบบตัวอักษร โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยม ที่มีรูปทรงตัว “H” โดยถูกออกแบบมาจากกรงเล็บของ ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์
ด้านข้างตัวรถออกแบบเน้นความเรียบหรุ ดูบึกบึน พร้อมตกแต่งกาบบันไดข้างตัวรถให้มีเหลี่ยมสัน มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ เสริมลุคในสไตล์ออฟโรดด้วยขอบซุ้มล้อสีดำมาพร้อม ล้ออัลลอยปัดเงา ขนาด 19 นิ้วรัดด้วยยาง Maxxis Victra Sport 5 ขนาด 225/45 R19
ด้านบนหลังคาติดตั้งราวแร็คหลังคาที่ช่วยเสริมความอเนกประสงค์ใช้สอยให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในส่วนของเสา B และเสา C จะถูกฉาบด้วยเฉดสีดำ ที่ทำให้หลังคาตัวรถมาในแบบลอยตัวช่วยทำให้มมมิติที่ดูกว้าง และใหญ่ขึ้น
ส่วนด้านท้ายจะได้รับการติดตั้งชุดท้ายที่ออกแบบให้ดูคล้ายกับกรงเล็บของเจ้าทีเร็ก มาพร้อมโลโก้แบบใหม่เช่นเดียวกันทางด้านหน้าตัวรถ พร้อมเสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาด้านท้าย อีกทั้งยังติดตั้งในส่วนของที่ปัดน้ำฝนด้านหลังมาให้ด้วย
ภายในห้องโดยสารจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง งานออกแบบมาในรูปแบบมินิมอลที่ลดการใช้ปุ่มสั่งงานต่าง ๆ แผงแดชบอร์ดได้รับการติดตั้งแผงหน้าปัด LCD ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสองก้านที่มีปุ่มสั่งงานเป็นแบบลูกกลิ้งขนาดเล็ก
ตรงกลางแผงคอนโซลหน้าจะมากับ หน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 14.6 นิ้ว พร้อมเพิ่มเท็กซ์เจอร์เล็ก ๆ ที่บนคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร ด้วยงานออกบบให้ดูคล้ายกับเกล็ดของมังกร
แผงคอนโซลกลางออกแบบให้เชื่อมต่อกับคอนโซลหน้า ในลักษณะสะพาน โดยมีช่องว่างด้านล่างสำหรับของของเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนด้านบนจะเป็นช่องชารืจสมาร์ตโฟนที่มีให้ 2 ตำแหน่ง มาพร้อมช่องวางขวดหรือแก้ว้น้ำ 2 ช่อง
นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังได้รับการติตดั้งตู้แช่เย็นขนาดเขนาด 6.6 ลิตร ที่อยู่บริเวณคอนโซลกลาง รองรับทั้งระบบทำความร้อน ทำความเย็น และแช่แข็ง โดยสามารถทำอุณหภูมิต่ำสุดได้ถึง -15° C และทำความร้อนได้ถึงถึง 50° C
มาพร้อมชุดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องเสียงระบบเสียงระดับพรีเมียมของเบลเยียม ที่ากับ ลำโพงถึง 9 ตำแหน่ง และซับวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว, USB แถวหน้า/พอร์ตชาร์จ Type C + อินเทอร์เฟซ USB แถวที่สอง
อีกทั้งยังมาพร้อมระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่ทำงานบนระบบ AI ที่เน้นการตอบสนองกับผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น iFlytek ที่เป็นเครื่องแปลภาษาอัจฉริยะที่ใช้ระบบแบบ AI อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ V2L ที่จะช่วยจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ภายนอกได้อีกด้วย
ด้านเบาะที่นั่งคู่หน้าสามารถปรับราบได้เพียงกดปุ่ม ซึ่งจะเหมือนกับในรุ่น AION Y Plus ที่มีวางขายในบ้านเราขณะนี้ โดยเมื่อปรับพับเบาะลงจะทำให้กลายเป็นเตียงขนาดใหญ่ถึง 2 เมตร ขณะที่ตัวเบาะนั่งจะถูกหุ้มด้วยหนังเกรดคุณภาพสูง มาพร้อมระบบปรับอุณหภูมิ
ส่วนด้านท้ายของตัวรถจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุถึง 427 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะหลังลงจะขยายพื้นที่เป็น 987 ลิตร
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่มีกำลังความแรงให้เลือก 2 ระดับ คือมอเตอต์ไฟฟ้าขนาด 150 kW (201 แรงม้า) และมอเตอร์ไฟฟ้าขขนาด 165 kW (221 แรงม้า) ขณะที่แรงบิดนั้นจะเท่ากันที่ 240 นิวตัวเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 7.9 วินาที
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตที่มีความจุให้เลือกถึง 3 ขนาดความจุ 62.26kWh / 74.9kWh / 90.2kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 520 / 650 / 750 กม. ตามลำดับ อีกทั้งยังมากับสถาปัตยกรรม 400V เทคโนโลยี 3C ที่ใช้ซิลิกอนคาร์ไบด์เป็นครั้งแรก เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น 60% โดยชาร์จเพียง 15 นาที ได้ระยะทาง 370 กม. รวมถึงสามารถชาร์จในอุณหภูมิระหว่าง -30°C ถึง 55°C และลดการใช้พลังงานเครื่องปรับอากาศลงได้ถึง 50%
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะมากับระบบขับเคลื่อนอฉริยะ ADiGO Pilot ขับเคลื่อนโดยชิปประมวลผล Orin X ซึ่งทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ LiDAR, เรดาร์ความยาวคลื่น 5 มิลลิเมตร และกล้อง 11 ตัว สามารถให้ความช่วยเหลือในการขับขี่ (NDA) ในเขตเมืองและบนทางหลวงได้เป็นอย่างดี
สำหรับ GAC AION V II เอสยูวีไฟฟ้าใหม่ที่เปิดตัววสางจำหน่ายในประเทศจีนจะมีให้เลือกถึง 7 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายไว้ระหว่าง 129,800 – 189,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 6.44 – 9.41 แสนบาท
ส่วนในเวอร์ชันสเปกที่จะเปิดตัวในไทยนั้น จากข้อมูลที่ทาง GAC เปิดโรงงานผลิตในไทย และได้นำเจ้า GAC AION V II เข้ามาโชวืตัวคั้งแรกในบ้านเรานั้นเผยว่า จะมีให้ 2 รุ่นย่อย คือ รุ่นวิ่งไกล 550 กม./ชาร์จ และ 670 กม. ส่วนรายละเอียดโดยรวมทั้งหมดคงต้องรอในวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2567 นี้
ซึ่งถ้าหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะรีบนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง