ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ค่ายเกรทวอลล์มอเตอร์ เป็นแบรนด์รถที่จัดหนัก จัดเต็มที่สุดในเรื่องของการหั่นลดราคาจำหน่ายของรถยนต์ลงจากเดิม โดยไล่เรียงมาตั้งแต่ ALL NEW GWM TANK 300 HEV ที่ปรับลดราคาลงไป 1 แสนบาท เหลือเริ่มที่ 1,549,000 บาท ต่อมาก็เป็นในรุ่น HAVAL H6 HEV เอสยูวีไฮบริด ที่ได้รับส่วนลดสูงสุด 2 แสนบาท เหลือราคาเริ่มที่ 1.04 – 1.14 ล้านบาท แต่ตัวที่ถือว่าหั่นราคาอย่างโหด เหมือนโกรธใครมานั่นก็คือในรุ่น HAVAL H6 PHEV รถเอสยูวีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ที่ทาง GWM ได้มอบส่วนลดที่มากถึง 300,000 แสนบาท จากราคาเริ่มที่ 1,699,000 บาท ปรับลดลงมาเหลือ 1,399,000 บาท
สำหรับส่วนลดพิเศษนี้จะอยู่ในข้อเสนอสุดพิเศษ PREMIERE DEAL ที่มีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 นี้ โดยจะมีรายละเอียด และเงื่อนไขโปรโมชั่นหลัก มีให้เลือก 2 รูปแบบ ดังนี้ ถ้าซื้อด้วยเงินสด จะได้ส่วนลด 300,000 บาท หรือจะเลือกรับจัดไฟแนนซ์ดอกเบี้ย 0% นาน 72 เดือน พร้อม GWM ช่วยผ่อนนาน นาน 10 เดือน เดือนละ 14,000 บาท รวมมูลค่าสูงสุด 140,000 บาท
นอกจากนั้นยังได้รับการประกันคุณภาพตัวรถ และ โปรโมชั่น ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม..
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
- ฟรี GWM Home Charger พร้อมบริการติดตั้ง
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- ฟรี ค่าบำรุงรักษา ค่าแรง และ ค่าอะไหล่ (GPSI) นาน 5 ปี หรือ 100,000 กม.
- ฟรี น้ำมัน 1,000 บาท
สำหรับ All New HAVAL H6 PHEV เป็นรถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟ โดยในตลาดเมืองไทยจะมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียวขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิด 530 นิวตันเมตร มีระบบการขับขี่ให้เลือก 2 รูปแบบคือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า โดยแต่ละระบบจะมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น
มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh ที่สามารถวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนไกลถึง 201 กม. ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
ด้านการชาร์จไฟถ้าชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) ประมาณ 35 นาที ขณะที่ถ้าชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (0% – 100%) ประมาณ 6 ชั่วโมง
ในด้านดีไซน์รูปลักษณ์ยังคงมาพร้อมกับความล้ำสมัยและโฉบเฉี่ยว ด้านหน้าแบบ Star Matrix มิติใหม่แห่งการออกแบบ เพิ่มมิติให้ดูล้ำสมัย ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียม ไล่ระดับช่องระบายอากาศอย่างมีมิติ เป็นเอกลักษณ์
ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow ชัดเจน ให้ความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟ Follow me home
ส่วนด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้าย LED Taillight Strip ดีไซน์เป็นแนวยาว ตอบโจทย์ทั้งแฟชั่นและฟังก์ชั่น มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ล้ำสมัยมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย เติมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์ท้าย และเสาอากาศแบบ Shark fin ช่วยในเรื่องแอร์โรไดนามิค
มาพร้อมระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้การเปิดประตูด้านท้ายรถในขณะถือสัมภาระง่ายยิ่งขึ้น
มาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ 1.2 ตารางเมตร ปิดท้ายด้วยการเสริมความหล่อด้วยล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/55 R19
ในด้านมิติตัวรถมีขนาดมิติความยาวตัวรถที่ 1,886 มม., กว้าง 4,683 มม., สูง 1,730 มม. และมีระยะฐานล้อที่ยาว 2,738 มม
ภายในห้องโดยสารมาในสไตล์ Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย คอนโซลหน้าสีทูโทน พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold, Silver, Piano Black, Chrome
คอนโซลกลางมาพร้อมหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ HD Touch Screen Audio Display ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, JOOX และ Navigator ที่สามารถบอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า ส่วนหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ HD Multi Information Display ขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน มาพร้อมหน้าจอ HUD
เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ หุ้ทด้วยหนังสังเคราะห์ ผู้คนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เบาะนั่งโดยสารด้านหลัง พร้อมที่เท้าแขนกลาง อีกระดับของความสบายด้วยช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และช่องเสียบ USB สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40
สำหรับชุดอุปกรณ์ภายในจะมากับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5, แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, ไฟ Ambient Light, กุญแจ Smart Key และปุ่ม Push Start
ขณะที่ระบบปรับเปลี่ยนเกียร์ที่วางอยู่คอนโซลกลางจะเป็นแบบชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High gloss
สำหรับระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยของ HAVAL H6 PHEV จะมากับ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP), ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ, กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก, ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2, ระบบช่วยลงทางลาดชัน, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู, ระบบตรวจความดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ เป็นต้น
HAVAL H6 PHEV จะมีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีเทา, สีน้ำเงิน และสีแดง
สำหรับราคาของ All New HAVAL H6 PHEV ผ่านข้อเสนอ PREMIERE DEAL ที่มีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 นี้ จากราคาเดิม 1,699,000 บาท ปรับลดลง 3 แสน บาทเหลือเริ่มอยู่ที่ 1,399,000 บาท
