หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง GWM ได้ปล่อยภาพ และเผยข้อมูลของ Haval H9 เอสยูวีพี่ใหญ่ในตระกูล H-Series ออกมา ล่าสุดทาง เกรทวอลล์มอเตอร์ เปิดให้ลูกค้าชาวจีนเริ่มสั่งจอง Haval H9 เจเนอเรชั่นที่ 2 ล่วงหน้ากันแล้ว โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย โดยมีราคาระหว่าง 205,900 – 235,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 9.83 แสนบาท – 1.12 ล้านบาท
โดยลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้า Haval H9 จะวางเงินมัดจำเพียง 2,000 หยวน หรือราว ๆ 9 พันกว่าบาท พร้อมทั้งจะได้รับส่วนลดอีก 15,000 หยวน หรือประมาณ 7 หมื่นบาท จากราคาของตัวรถ รวมทั้งยังได้รับเงินอุดหนุนค่าเปลี่ยนอะไหล่มูลค่า 20,000 หยวน หรือราว 9 หมื่นกว่าบาท
สำหรับในด้านงานออกแบบของ Haval H9 เจเนอเรชั่นที่ 2 ตัวรถถูกพัฒนาขึ้นบนโครงสร้างแบบ body-on-frame
ด้านงานดีไซน์ภายนอกมาในแบบสไตล์เรโทร กระจังหน้าขนาดใหญ่ ติดตราโลโก้ HAVAL อยู่ตรงกลาง ขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่งด้วยกรอบชุดไฟหน้าทรงเหลี่ยม โดยมีไฟ LED DRL ทรงกลมอยู่ด้านใน ขณะทีไฟส่องสว่างนั้นจะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมวางอยู่ด้านในสุด
มาพร้อมระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า และหลังสั้น ผสมผสานกับฐานล้อที่ยาว ในขณะที่ด้านข้างเน้นความเรียบง่าย บึกบึน ซุ้มล้อถูกตีโป่งให้ดูเหมือนมีมัดกล้าม สอดรับกับล้ออัลลอยแบบทูโทนปัดเงา ที่มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 18 นิ้ว พร้อมตกแต่งขอบหน้าต่างบานข้างด้วยชิ้นงานสีดำ นอกจากนั้นยังติดตั้งบันไดข้าง และราวแล็คหลังคาตามแบบฉบับรถออฟโรด
ส่วนด้านท้ายติดตั้งไฟ LED ทรงสี่เหลี่ยมที่เรียงแบบแนวตั้ง ประตูท้ายเปิดด้านข้าง มาพร้อมกล่องใส่ของอเนอประสงค์ทรงเหลี่ยม ที่ทำออกมาให้ดูเหมือนกับเป็นที่ใส่ล้ออะไหล่ วางที่อยู่ด้านหลัง พร้อมประทับตราโลโก้ชื่อแบรนด์สีเงินคาดไว้ตรงกลาง
ในด้านขนาดมิติตัวรถของ Haval H9 รุ่นที่ติดตั้งกล่องยางอะไหล่ไว้ที่ด้านหลังของตัวรถจะมีความยาว 4,950 – 5,070 มม. กว้าง 1,960 – 1,976 มม. สูง 1,930 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,850 มม. ส่วนระยะห่างจากพื้นจะอยู่ที่ 224 มม. มาพร้อมมุมเข้า 31° และมุมออก 25° โดยตัวรถสามารถลุยน้ำลึกได้สูงสุด 800 มม.
ภายในห้องโดยสารของ Haval H9 เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เปิดวางจำหน่ายในจีนจะมีให้เลือกทั้งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่งและแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง
ภายในห้องโดยสารจะมากับงานดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เริ่มจากหน้าจอมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลทรงสี่เหลี่ยมขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัวอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่แบบ 3 ก้าน มาพร้อมหน้าจอควบคุมกลางแบบสัมผัสที่วางแบบลอยขนาด 14.6 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 พร้อมรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ อีกทั้งยังได้รับหน้าจอ HUD และช่องปรับอากาศทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ด้านคอนโซลกลางจะได้รับการติดตั้งคันเกียร์ขนาดใหญ่ มาพร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold และแท่นชาร์จมือถือไร้สายที่มาให้ 2 ช่อง รวมทั้งยังมาพร้อมระบบสั่งงานจากสมาร์ตโฟน ทั้งการสตาร์ทรถจากระยะไกลด้วยปุ่มเดียว และการตรวจสอบจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน และการอัปเดต FOTA
ในด้านพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายของ Haval H9 เจเนอเรชั่นที่ 2 ในรุ่น 5 ที่นั่งจะมีความจุอยู่ที่ 791 ลิตร อีกทั้งยังสามารถขยายได้ถึง 1,814 ลิตรเมื่อพับเบาะแถวที่สองลง นอกจากนี้ทาง GWM ยังได้ออกแบบให้มีช่องเก็บของตามส่วนต่าง ๆ ภายในรถ ที่มากถึง 45 ช่อง
สำหรับระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือกการขับขี่ Haval H9 รุ่นที่ 2 จะมากับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง level 2
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมีให้เลือกสองแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0T ให้กำลัง165 kW (221 แรงม้า) แรงบิด 380 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ที่ให้กำลัง 137 kW (184 แรงม้า) แรงบิด 480 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
โดยทั้ง 2 ขุมพลังจะมากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ Torque-On-Demand พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายหน้า และหลัง และจะได้รับระบบเลี้ยวแบบ Tank Turn ที่สามารถหมุนตัวรถเป็นวงกลมได้แบบ 360 องศา
นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ที่มีรให้เลือกเล่นถึง 7 โหมด ได้แก่ โหมด Standard, Sport, Eco, 4L, Sand, Mud และ Snow และมีพละกำลังในการลากจูงที่มากถึง 2.5 ตัน
สำหรับราคาจำหน่ายของ Haval H9 เจเนอเรชั่นที่ 2 ทั้ง 3 รุ่น จะมีดังนี้
- Haval H9 รุ่น Tanjing Edition ราคา 205,900 หยวน (9.83 แสนบาท)
- Haval H9 รุ่น Tajing Edition ราคา 221,900 หยวน (1.05 ล้านบาท)
- Haval H9 รุ่น Jijing Edition ราคา 235,900 หยวน (1.12 ล้านบาท)