หลังจากที่ฮอนด้าในอินเดียได้เผยโฉมเปิดตัว Honda City 2023 รุ่น Minorchange ปรับโฉมใหม่ไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีข่าวว่า Honda ประเทศไทยเตรียมที่จะเปิดตัวรถซีดานขนาดกลางรุ่นปรับโฉมใหม่นี้ในวันที่ 5 ก.ค. ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมากับรูปลักษณ์หน้าตาที่เหมือนกับเวอร์ชั่นเดียวกับที่เปิดตัวในอินเดีย มีขุมพลังให้เลือกทั้ง เบนซิน 1.0 VTEC TURBO และเบนซิน 1.5 ลิตร e:HEV พ่วงระบบความปลอดภัย Honda SENSING
สำหรับ Honda City 2023 ซีดานขนาดเล็ก รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ที่กำลังจะได้รับการเปิดตัวในไทยนี้ ยังคงเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ในด้านรูปลักษณ์หน้าตาจะเหมือนกับเวอร์ชั่นในอินเดีย จะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในหลาย ๆ ด้าน เริ่มจากหน้าตาที่เพิ่มความหรูหรา ด้วยชิ้นส่วนโครเมียมที่ตกแต่งเพิ่มเข้ามาในบริเวณด้านบนของกระจังหน้า มาพร้อมตาข่ายแบบรังผึ้งแบบใหม่
กันชนหน้าได้รับการออกแบบใหม่สอดรับกับช่องดักอากาศดีไซน์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงไฟตัดหมอกที่อยู่ในกรอบทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสีดำ ที่อยู่ด้านปลายของตัวกันชนหน้า
ขณะที่ชุดไฟหน้า LED และดีเทลรายละเอียดด้านข้างตัวรถยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ล้ออัลลอยจะมากับลวดลายใหม่แบบทูโทนลาย 10 ก้าน ที่ดูหรูมากขึ้น
ด้านท้ายชุดไฟท้ายยังคงรูปทรงเดิม เพิ่มเติมปรับเปลี่ยนในส่วนกันชนท้ายที่เน้นอารมณ์ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ด้วยการติดตั้งสเกิร์ตแบบมีครีบดิฟฟิวเซอร์สีเงิน รวมถึงได้ย้ายไฟทับทิมที่จากเดิมจะอยู่ที่ด้านมุมชองกันชน ให้เข้ามาอยู๋ในชุดเดียวกัน พร้อมติดตั้งสปอยเลอร์ทรง Duck Trail ไว้ที่ฝากระโปรงท้าย
ขณะที่ภายในห้องโดยยสาร แผงแดชบอร์ด และส่วนควบคุมต่าง ๆ แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยในเวอร์ชั่นที่เปิดตัวในอินเดีย จะมาในธีมสีเบจ และสีดำสำหรับรุ่นเบนซิน ขณะที่ในรุ่น e:HEV จะได้รับสีขางาช้างและสีดำ
ขณะที่ชุดอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารนั้น ยังคงมาแบบครบครันเหมือนรุ่นที่ผ่านมา อาทิ หน้าจอสีแผงหน้าปัด TFT ขนาด 7 นิ้ว, ระบบอินโฟเทนเมนท์มากับหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย, ถุงลมนิรภัย 6ใบ, ที่ปัดน้ำฝน, ระบบไฟ Ambient Lighting ด้านข้าง, แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย
ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มาพร้อมตัวกรอง PM2.5, กุญแจ Keyless Entry และปุ่ม Push Start, หลังคากระจกซันรูฟ, ม่านบังแดดกระจกบังลมหลังแบบแมนนวล, ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง ส่วนสเปกเมืองไทยจะแตกต่างจากแดนโรตีอย่างไรต้องติดตามกันให้ดี
สำหรับระบบเทคโนโลยี และระบบช่วยเหลือการขับขี่ มากับระบบ Honda SENSING อาทิ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ, ไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับความเร็วอัตโนมัติตามความเร็วต่ำ และระบบแจ้งเตือนรถนำหน้า นอกจากนั้นยังเพิ่มเข้ามาใหม่อีก 2 ระบบคือ Honda LaneWatch และระบบความปลอดภัยแบบพาสซีฟ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ Honda City รุ่น Minorchange จะมีให้เลือก 2 แบบคือ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1.0 TURBO พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VTEC และ Dual VTC ให้กำลังแรงม้าสูง 122 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ส่งกำลัด้วยชขุดเกียร์อัตโนมัติ CVT ไปยังคู่ล้อหน้า
และรุ่นไฮบริด e:HEV ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูง 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังแรงม้าสูง 109 แรงม้า ที่ แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ e-CVT มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion
สำหรับ Honda City Minorchange เวอร์ชั่นอินเดีย จะมีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย เปิดราคาจำหน่ายที่ 1.149 – 2.039 ล้านรูปี หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 4.8 – 8.59 แสนบาท
ส่วนวอร์ชั่นประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ทีออปชั่นแตกต่างมากน้อยขนาดไหนกับส่เปกอินเดีย รวมทั้งราคาค่าตัวจะอยู่ที่เท่าไหร่ วันที่ 5 ก.ค. 2566 นี้ได้ทราบกันอย่างแน่นอน
โดยทางทีมงาม Autostation.com จะนำเสนอข้อมูลรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งเมื่อ Honda City 2023 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เผยโฉมออกมา