หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีผู้ที่จับภาพของ IONIQ 6 วิ่งอยู่บนท้องถนนในไทย รวมทั้งทางฮุนได ก็ได้เคยนำ Hyundai IONIQ 6 เข้ามาโชว์ตัวในไทยที่งาน Motor Expo 2022 และ Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา ล่าสุดมีข่าวว่า Hyundai ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว IONIQ 6 รถยนต์ไฟฟ้าทรงลาดท้ายสี่ประตู อย่างเป็นทางการในตลาดเมืองไทย ช่วงเดือนมีนาคม 2567 นี้
สำหรับ Hyundai IONIQ 6 ที่ลุ้นเปิดตัวในบ้านเราเดือน มี.ค. นี้ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันที่ 2 ที่ต่อจาก IONIQ 5 แฮทช์แบ็คไฟฟ้า หลังจากที่ทาง Hyundai บริษัทแม่จากเกาหลีใต้เข้ามาบริหารงานในประเทศไทย
โดย IONIQ 6 จะมาในรูปแบบรถยนต์ซีดานไฟฟ้าที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถต้นแบบ Prophecy EV Concept ที่เผยโฉมออกมาตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา โดยถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม E-GMP มีมิติตัวถังความยาว 4,855 มม., กว้าง 1,880 มม., สูง 1,495 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,950 มม.
ในด้านดีไซน์มากับเส้นสายตัวรถโค้งมน ลาดเทตั้งแต่ด้านหน้า จนไปถึงส่วนท้ายรถ ส่งผลทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd) เพียง 0.21
ตัวรถจะมาในรูปแบบซีดาน 4 ประตู หลังคาแบบท้ายลาดสไตล์คูเป้ ฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่ที่ราบเรียบ ชุดไฟหน้าแบบ Parametric Pixel design โดยที่กันชนท้ายด้านมุมทั้ง 2 ข้าง จะเป็นชุดไฟ LED มาพร้อมมือจับเปิดประตูแบบ Pop-up สไตล์รถหรู โดยทางฮุนไดเผยว่า ชุดไฟ Pixel-LED ที่อยู่บนเรือนร่างของ IONIQ 6 จะมีมากกว่า 700 ดวง
บังโคลนหน้า-หลังที่ถูกตีโป่งออกมาเล็กน้อยรับกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ มาพร้อมกระจกมองข้างขนาดเล็กที่เป็นกล้องสะท้อนภาพไปยังภายในห้องโดยสาร ด้านท้ายดูกลมมนด้วยหลังคาที่ลาดเทกันชนท้ายขนาดใหญ่ติดตั้งมาพร้อมชุดไฟท้าย Panametric Pixel High-Mounted Stop Lamp
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีความราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความล้ำสมัย คอนโซลหน้าออกแบบให้ด้านข้างถูกยกขึ้นแบบมีปีก โดยตรงส่วนปลายทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นจอแสดงภาพจากกล้องมองข้าง ในส่วนแผงแดชบอร์ดมาพร้อมหน้าจอเรือนไมล์ขนาด 12 นิ้ว, จอแสดงผล HUD ด้านคนขับ และจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว ที่ออกแบบให้เป็นแบบลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับไฟ Ambient Light 64 สี รวมไปถึงโปรแกรม 6 คู่สี ที่จะช่วยให้ผู้ที่อยู่ภายในรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง และสร้างบรรยากาศให้ดูหรูหรา อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีควบคุมแสงแปรผันตามความเร็ว Speed Sync Lighting ซึ่งเพิ่มความสว่างของแสงภายในรถเมื่อคุณขับขี่ด้วยความเร็วสูง และยังได้รับชุดเครื่องเสียงจาก Bose พร้อมลำโพง 7 ตำแหน่ง
ในด้านระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะได้รับการติดตั้งระบบ Smart Cruise Control อาทิ ระบบเบรกฉุกเฉินป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, และระบบหักพวงมาลัยอัตโนมัติ รวมถึงได้รับระบบตรวจจับและแจ้งเตือนจุดบอดรอบด้าน, ระบบป้องกันผู้โดยสารออกจากรถ และระบบช่วยจอดรถ Remote Smart Parking Assist 2, ระบบเบรกฉุกเฉินป้องกันการชนด้านหลังรถ เป็นต้น
ในด้านพละกำลังของ IONIQ 6 เวอร์ชั่นที่เปิดวางจำหน่ายในต่างประเทศนั้นจะมีทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่
โดยในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวจะวางอยู่ที่คู่ล้อหลังให้กำลัง 225 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. โดยในรุ่นนี้จะมีแบตเตอรี่ให้เลือก 2 ขนาดความจุ ได้แก่ 58.0 kWh และ 77.4 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 429 กม. และ 614 กม. (WLTP) ตามลำดับ
ขณะที่ในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่จะให้กำลัง 320 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 605 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.1 วินาที มาพร้อมความเร็วสูงสุดที่ 185 กม./ชม. ด้านชุดแบตเตอรี่ีจะมีขนาดความจุ 77.4 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 583 กม. (WLTP)
พร้อมรองรับการชาร์จไฟสูงสุด 800V ซึ่งเมื่อชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 350 kW จะให้กำลังไฟจาก 10 – 80% ในเวลาเพียง 18 นาที อีกทั้งยังมากับระบบ V2L สำหรับจ่ายไฟไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอกได้อีกด้วย
สำหรับราคาจำหน่ายของ IONIQ 6 เวอร์ชั่นที่วางขายบนเกาะอังกฤษ จะมีราคาอยู่ที่ระหว่าง 46,750 – 53,745 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.09 – 2.4 ล้านบาท
ส่วนสเปคที่จะนำมาวางจำหน่ายในไทยนั้นจะเป้นอย่างไร และมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่บ้างนั้น เดือนมีนาคม ที่จะถีงนี้ได้ทราบกันอย่างแน่นอน ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะนำเสนอรายงานให้ทราบอีกครั้งโดดยทันที
