in , ,

Hyundai Ioniq 6 EV รถยนต์ไฟฟ้าทรงหรูเปิดราคาในอังกฤษ เริ่ม 2.01 ล้านบาท

Hyundai เปิดราคา Ioniq 6 รถยนต์ไฟฟ้าทรงลาดท้ายสี่ประตู บนเกาะอังกฤษมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว และมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ราคาเริ่ม 2.01 ล้านบาท

Hyundai Ioniq 6 EV

หลังจากที่ทาง Hyundai ได้เผยโฉม Hyundai Ioniq 6 รถยนต์ไฟฟ้าทรงลาดท้ายสี่ประตู ที่มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย ออกมาเมื่อ ก.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงในเมืองไทยก็ได้ถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่ในงาน Motor Expo 2022 เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมผ่านมา 

Hyundai Ioniq 6 EV

ล่าสุดทางฮุนไดในประเทศอังกฤษ ได้ประกาศราคาจำหน่าย Hyundai Ioniq 6 อย่างเป็นทางการแล้ว โดยในจะมีราคาเริ่มที่ 2.01 ล้านบาทสำหรับในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขณะที่ในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่มากับพละกำลัง 320 แรงม้า เปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2.16 ล้านบาท 

สำหรับ Hyundai Ioniq 6 ใหม่นั่นเป็นรถซีดานไฟฟ้า ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถต้นแบบ Prophecy EV Concept ที่เผยโฉมออกมาตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา โดย Ioniq 6  ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม E-GMP โดยมีมิติตัวถังความยาว 4,855 มม., กว้าง 1,880 มม., สูง 1,495 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,950 มม.

Hyundai Ioniq 6 EV

ในด้านดีไซน์มากับเส้นสายตัวรถที่เรียบง่าย โค้งมน ลาดเทตั้งแต่ด้านหน้า จนไปถึงส่วนท้ายรถ ส่งผลทำให้ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd) เพียง 0.21 ซึ่งต่ำกว่า Ioniq 5 ที่มี 0.288 Cd

Hyundai Ioniq 6 EV

ตัวรถจะมาในรูปแบบซีดาน 4 ประตู หลังคาแบบท้ายลาดสไตล์คูเป้ มาในสไตล์ที่เรียบง่าย ฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่ที่ราบเรียบ ชุดไฟหน้าแบบ Parametric Pixel design โดยที่กันชนท้ายด้านมุมทั้ง 2 ข้าง จะเป็นชุดไฟ LED มาพร้อมมือจับเปิดประตูแบบ Pop-up สไตล์รถหรู  

Hyundai Ioniq 6 EV

บังโคลนหน้า-หลังที่ถูกตีโป่งออกมาเล็กน้อยรับกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ที่มีลวยลายแปลกตา มาพร้อมกระจกมองข้างขนาดเล็กที่เป็นกล้องสะท้อนภาพไปยังภายในห้องโดยสาร ด้านท้ายดูกลมมนด้วยหลังคาที่ลาดเทกันชนท้ายขนาดใหญ่ติดตั้งชุดไฟ LED แนวตั้งทั้ง 2 ข้าง ส่วนที่โดดเด่นที่สุดจะเป็นชุดไฟท้ายที่แยกออกเป็น 2 ส่วน 

Hyundai Ioniq 6 EV

Hyundai Ioniq 6 EV

โดย Hyundai Ioniq 6  จะถูกประกอบไปด้วยหลอดไฟ Pixel-LED กว่า 700 ดวง ในส่วนต่าง ๆ ของรถ ทั้งภายนอกและภายใน

Hyundai Ioniq 6 EV

Hyundai Ioniq 6 EV

ภายในห้องโดยสารออกแบบให้ดูราบเรียบแต่ล้ำสมัย คอนโซลหน้าออกแบบให้ด้านข้างถูกยกขึ้นแบบมีปีก โดยตรงส่วนปลายทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นจอแสดงภาพจากกล้องมองข้าง ในส่วนแผงแดชบอร์ดมาพร้อมหน้าจอเรือนไมล์ขนาด 12 นิ้ว, อแสดงผล Head-Up ด้านคนขับ และจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว ที่ออกแบบให้เป็นแบบลอยตัว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay

Hyundai Ioniq 6 EV

นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับไฟ Ambient Light 64 สี รวมไปถึงโปรแกรม 6 คู่สี ที่จะช่วยให้ผู้ที่อยู่ภายในรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง และสร้างบรรยากาศให้ดูหรูหรา อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีควบคุมแสงแปรผันตามความเร็ว Speed ​​Sync Lighting ซึ่งเพิ่มความสว่างของแสงภายในรถเมื่อคุณขับขี่ด้วยความเร็วสูง และยังได้รับชุดเครื่องเสียงจาก Bose พร้อมลำโพง 7 ตำแหน่ง

Hyundai Ioniq 6 EV

ในด้านระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ Hyundai Ioniq 6 เวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายบนเกาะอังกฤษจะได้รับ การติดตั้งระบบ Smart Cruise Control อาทิ ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง และระบบเบรกฉุกเฉินป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, และระบบหักพวงมาลัยอัตโนมัติ รวมถึงได้รับระบบตรวจจับและแจ้งเตือนจุดบอดรอบด้าน, ระบบป้องกันผู้โดยสารออกจากรถ และระบบช่วยจอดรถ Remote Smart Parking Assist 2 ระบบเบรกฉุกเฉินป้องกันการชนด้านหลังรถ เป็นต้น

Hyundai Ioniq 6 EV

สำหรับในด้านพละกำลังจะมีทั้งแบบรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โดยในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 225 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร

ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้สมรรถนะสูงสุด 320 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 605 นิวตันเมตร 

Hyundai Ioniq 6 EV

ขณะที่แบตเตอรี่ของ Hyundai Ioniq 6 สเปกบนเกาะอังกฤษจะมากับชุดแบตเตอรี่ขนาด  77.4 kWh เมื่อชาร์จไฟเต็มจะวื่งได้ไกลถึง 610 กม. ที่รองรับระบบ 800 โวลต์ และระบบชาร์จ 350 กิโลวัตต์

สำหรับการชาร์จไฟนั้นรองรับการชาร์จไฟสูงสุด 800V ซึ่งเมื่อชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 350 kW จะใช้เวลาเพียง 18 นาที ให้กำลังไฟ 10-80% มาพร้อมฟีเจอร์สำหรับจ่ายไฟไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอกได้อีกด้วย 

Hyundai Ioniq 6 EV

สำหรับราคาจำหน่าย Hyundai Ioniq 6 บนเกาะอังกฤษจะมีราคาจำหน่ายที่ 46,750 -53,745 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.01 – 2.16 ล้านบาท 

 

ส่วนในอนาคตจะมีการนำเข้ามาจัดจำหน่ายแบบจริงจังในบ้านเราหรือไม่นั้น รวมถึงถ้าเข้ามาจะมีราคาค่าอยู่ที่เท่าไหร่ ต้องติดตามกันให้ดี ซึ่งหากมีข้อมุลเพิ่มเติมทางทีมงาน Autostation.com จะรีบนำรายทันที