อีซูซุ ผู้นำด้านรถเพื่อการพาณิชย์ระดับโลกมากว่า 8 ทศวรรษ ประกาศพร้อมก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลกและระดับประเทศ” ผ่าน “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ รวมถึงระบบการจัดการ และกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ของอีซูซุ
โดยได้เผยโฉมรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ ทั้ง Isuzu D-Max EV Concept รถต้นแบบกระบะไฟฟ้า 100% และ Isuzu D-Max Hi-Lander MHEV (อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ MHEV) รถต้นแบบกระบะไฟฟ้าขุมพลังไมลด์ไฮบริด โดยพร้อมที่จะเริ่มผลิตเพื่อส่งออกโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตในปี 2568 เป็นต้นไป
สำหรับ Isuzu D-Max EV Concept ต้นแบบกระบะไฟฟ้าจะถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มเดียวกับในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ตัวรถจะเป็นแบบ 4 ประตู ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time
ในด้านขุมพลังจะได้รับการติดตั้งชุดมอเตอร์คู่ โดยมอเตอร์ด้านหน้าให้กำลังสูงสุด 40 kW แรงบิด 108 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ด้านหลังจะให้กำลัง 90 kW แรงบิดสูงสุด 217 นิวตันเมตร โดยเมื่อรวมพำละกำลังมอเตอร์ทั้งคู่จะให้กำลังรวมที่ 130 kW หรือ 177 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดที่ 325 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 130 กม./ชม. มาพร้อมความสามารถในการลากจูงสูงถึง 3.5 ตัน และรองรัยน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง 1 ตัน
ด้านชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบลิเธียมไอออนขนาดความจุ 66.9 kWh โดยทาง Isuzu เคลมว่าจะวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 300 กม. ขณะที่เวอร์ชันจำหน่ายจริงอาจมีขนาดความจุของแบตเตอรี่แตกต่างไปจากนี้
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งเฟืองท้ายภายใต้ “eAxle” ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผสานกับช่วงล่างด้านหลังใหม่หมดแบบ De-Dion มั่นใจบนทุกสภาพถนน เหมาะสมกับการใช้งานของรถปิกอัพ สร้างดุลยภาพในการขับขี่ทั้งความนุ่มนวล และความสามารถในการบรรทุกอันยอดเยี่ยม
และนอกจากนี้อีซูซุยังได้เผยโฉม Isuzu D-Max Hi-Lander MHEV (อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ MHEV) รถกระบะขุมพลังไมลด์ไฮบริด ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1.9 ลิตร RZ4E-TC ที่ให้กำลัง 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก มาพร้อมแบตเตอรี่ 48V ที่ทำหน้าที่เสริมกำลังขับเคลื่อนลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงออกตัว รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือนในจังหวะ สตาร์ทเครื่องยนต์และช่วยลด CO2 โดย Isuzu D-Max Hi-Lander MHEV นั้นยังเป็นรถทดลองประกอบเพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกให้กับลูกค้าซึ่งอยู่ในระหว่างการสำรวจตลาดก่อนกำหนด แผนการจำหน่ายต่อไป
ส่วนในด้านการผลิต Isuzu D-Max EV เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงนั้น ทาง อีซูซู เผยว่าจะมีแผนจะเริ่มผลิตเพื่อส่งออกอย่างเป็นทางการโดยจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตในปี 2568 ซ฿่งจะถูกผลิตขึ่นที่ในโรงงานอีซูซุสำโรง โดยจะส่งออกไปยังหลายภูมิภาคทั้งในยุโรป โดยจะเริ่มที่ในประเทศนอร์เวย์ ในปี 2568 จากนั้นมีกำหนดการจะเปิดตัวในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ไทย ตลอดจนประเทศหรือภูมิภาคอื่นๆ เป็นลำดับถัดไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและความพร้อมของสาธารณูปโภคด้านสถานีชาร์จรถไฟฟ้า
