NEW Land Rover Defender 130 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่คงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของแลนด์โรเวอร์มาตลอด 75 ปี โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นที่มีความยาวที่สุดในตระกูล ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 8 คน มาพร้อมการปรับปรุงและเทคโนโลยีการออกแบบทั้งภายนอกและภายในทำให้ Defender 130 รุ่นใหม่นี้ มีความสะดวกสบายอันเป็นเอกลักษณ์ที่สมดุลกับความทนทานและสมรรถนะของดีเฟนเดอร์แบบดั้งเดิม
Land Rover Defender 130 รุ่นใหม่ ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม D7x แบบไร้โครงที่ใช้อะลูมิเนียม ด้วยความแกร่งต้านแรงบิดที่ 25kNm/องศา มาพร้อมดีไซน์แบบบอดี้ออนเฟรมดั้งเดิมที่สร้างความแข็งแกร่งมากกว่้าเดิมถึง 3 เท่า
นอกจากนี้ Land Rover Defender 130 ยังได้ขยายตัวถังให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร มอบความสบายที่เหนือชั้นสำหรับทุกการเดินทางของครอบครัว รองรับได้สูงสุดถึง 8 ที่นั่ง กับที่นั่งขนาดมาตรฐาน 3 แถวในรูปแบบ 2+3+3 เสริมด้วยซันรูฟแบบพาโนรามิก และมีซันรูฟอันที่สองติดตั้งเหนือเบาะนั่งแถวที่ 3 ทำให้ภายในห้องโดยสารสว่างและโปร่งสบายสำหรับทุกคน
ด้วยความยาวตัวถังที่ขยายใหญ่ขึ้น 340 มม. รวมถึงได้รับการออกแบบส่วนท้ายรถให้มีรูปทรงคล้ายหางเรือ โดยมีส่วนมุมจากอยู่ที่ 28.5 องศาในระดับความสูงแบบออฟโรด ส่งผลทำให้สามารถขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระและการหักเลี้ยวอย่างดีเยี่ยม
ภายในห้องโดยสารเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร ด้วยช่องเสียบชาร์จ USB-C สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 3 เพิ่มทัศนวิสัยที่ดีด้วยหน้าต่างบานใหญ่ใในที่นั่งทั้ง 3 แถว มาพร้อมช่องระบายอากาศในทุกแถวที่นั่ง ควบคุมการปรับอากาศผ่านระบบควบคุมอุณหภูมิ 4 โซน (Four Zone Climate Control)
ขณะที่ผู้โดยสารในแถวที่ 2 และ 3 ยังได้รับประโยชน์จากเบาะนั่งที่ยกสูงเพื่อทัศนวิสัยที่เหนือกว่า พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางและใช้งานได้สะดวก สามารถรับน้ำหนักสูงสุด 3,893 ลิตร แม้จะกางเบาะหลังสุดก็ตาม เมื่อไม่ได้ใช้งาน
เบาะนั่งสามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกปรับแต่งการจัดวางภายในห้องโดยสารที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยแบ่งเป็นสัดส่วน 40:20:40 และยังสามารถลดระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิเล็กทรอนิกส์ของดีเฟนเดอร์ลงด้วยปุ่มที่อยู่ภายในพื้นที่เก็บสัมภาระ เพื่อช่วยในการขนสัมภาระด้านท้ายรถ ในระดับที่เหมาะสม
ในส่วนแผงแดชบอร์ด ถูกติดตั้งหน้าจอสัมผัส Pivi Pro ขนาด 11.4 นิ้ว มาพร้อมอินเทอร์เฟซกระจกโค้งที่ช่วยให้ใช้งานฟังก์ชันก์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองทันทีตั้งแต่สตาร์ทรถ รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติแบบ Over The Air
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบฟอกอากาศ Cabin Air Purification Plus ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรุ่น Defender 130 ผสานรวมเทคโนโลยี nanoeTMX สำหรับการลดสารก่อภูมิแพ้ และการกำจัดเชื้อโรค และลดกลิ่น รวมถึงมีระบบจัดการ CO2 และกรองอากาศ PM2.5
ในด้านพละกำลังมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 6 สูบ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดที่มากถึง 650 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด มาพร้อมเทคโนโลยี iAWD รองรับการขับขี่ทั้งออนโรดและออฟโรด ส่งผลทำให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที
ด้านระบบช่วงล่างเป็นแบบถุงลมไฟฟ้า Adaptive Dynamics ที่จะช่วยยกตัวรถเพิ่มเติม 71.5 มม. ที่ด้านหน้า ขณะที่ด้านหลังจะยกขึ้น 73.5 มม. ที่ช่วยสามารถให้วิ่งลุยได้ในเส้นทางออฟโรด มาพร้อมระบบ Terrain Response® โดยสามารถปรับแต่งการขับขี่ผ่านทางหน้าจอ Pivi Pro อีกทั้งตัวยังลุยน้ำลึดได้ถึง 900 มม.
สำหรับราคาจำหน่าย Land Rover Defender 130 ใหม่ในตลาดเมืองไทย เปิดราคาไว้ที่ 8,999,000 บาท มาพร้อมแพ็กเกจ Land Rover Care 5 ปี ที่ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง