in , ,

Land Rover Defender 130 ใหม่ขุมพลังดีเซล 3.0 ลิตร ราคา 8.99 ล้านบาท ในไทย

Land Rover Defender 130 ใหม่ รถเอสยูวีอเนกประสงค์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ห้องโดยสารแบบ 8 ที่นั่ง ขุมพลังดีเซล 3.0 ลิตร 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร เปิดราคาจำหน่ายในไทยที่ 8.99 ล้านบาท

Land Rover Defender 130

NEW Land Rover Defender 130 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่คงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของแลนด์โรเวอร์มาตลอด 75 ปี โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นที่มีความยาวที่สุดในตระกูล ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 8 คน มาพร้อมการปรับปรุงและเทคโนโลยีการออกแบบทั้งภายนอกและภายในทำให้ Defender 130 รุ่นใหม่นี้ มีความสะดวกสบายอันเป็นเอกลักษณ์ที่สมดุลกับความทนทานและสมรรถนะของดีเฟนเดอร์แบบดั้งเดิม

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130 รุ่นใหม่ ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม D7x แบบไร้โครงที่ใช้อะลูมิเนียม ด้วยความแกร่งต้านแรงบิดที่ 25kNm/องศา มาพร้อมดีไซน์แบบบอดี้ออนเฟรมดั้งเดิมที่สร้างความแข็งแกร่งมากกว่้าเดิมถึง 3 เท่า

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

นอกจากนี้ Land Rover Defender 130 ยังได้ขยายตัวถังให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร มอบความสบายที่เหนือชั้นสำหรับทุกการเดินทางของครอบครัว รองรับได้สูงสุดถึง 8 ที่นั่ง กับที่นั่งขนาดมาตรฐาน 3 แถวในรูปแบบ 2+3+3 เสริมด้วยซันรูฟแบบพาโนรามิก และมีซันรูฟอันที่สองติดตั้งเหนือเบาะนั่งแถวที่ 3 ทำให้ภายในห้องโดยสารสว่างและโปร่งสบายสำหรับทุกคน 

Land Rover Defender 130

ด้วยความยาวตัวถังที่ขยายใหญ่ขึ้น 340 มม. รวมถึงได้รับการออกแบบส่วนท้ายรถให้มีรูปทรงคล้ายหางเรือ โดยมีส่วนมุมจากอยู่ที่ 28.5 องศาในระดับความสูงแบบออฟโรด ส่งผลทำให้สามารถขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระและการหักเลี้ยวอย่างดีเยี่ยม 

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

ภายในห้องโดยสารเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร ด้วยช่องเสียบชาร์จ USB-C สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 3 เพิ่มทัศนวิสัยที่ดีด้วยหน้าต่างบานใหญ่ใในที่นั่งทั้ง 3 แถว มาพร้อมช่องระบายอากาศในทุกแถวที่นั่ง ควบคุมการปรับอากาศผ่านระบบควบคุมอุณหภูมิ 4 โซน (Four Zone Climate Control

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

ขณะที่ผู้โดยสารในแถวที่ 2 และ 3 ยังได้รับประโยชน์จากเบาะนั่งที่ยกสูงเพื่อทัศนวิสัยที่เหนือกว่า พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางและใช้งานได้สะดวก สามารถรับน้ำหนักสูงสุด 3,893 ลิตร แม้จะกางเบาะหลังสุดก็ตาม เมื่อไม่ได้ใช้งาน 

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

เบาะนั่งสามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกปรับแต่งการจัดวางภายในห้องโดยสารที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยแบ่งเป็นสัดส่วน 40:20:40 และยังสามารถลดระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิเล็กทรอนิกส์ของดีเฟนเดอร์ลงด้วยปุ่มที่อยู่ภายในพื้นที่เก็บสัมภาระ เพื่อช่วยในการขนสัมภาระด้านท้ายรถ ในระดับที่เหมาะสม

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

ในส่วนแผงแดชบอร์ด ถูกติดตั้งหน้าจอสัมผัส Pivi Pro ขนาด 11.4 นิ้ว มาพร้อมอินเทอร์เฟซกระจกโค้งที่ช่วยให้ใช้งานฟังก์ชันก์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองทันทีตั้งแต่สตาร์ทรถ รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติแบบ Over The Air

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบฟอกอากาศ Cabin Air Purification Plus ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรุ่น Defender 130 ผสานรวมเทคโนโลยี nanoeTMX สำหรับการลดสารก่อภูมิแพ้ และการกำจัดเชื้อโรค และลดกลิ่น รวมถึงมีระบบจัดการ CO2 และกรองอากาศ PM2.5

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

ในด้านพละกำลังมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 6 สูบ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดที่มากถึง 650 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด มาพร้อมเทคโนโลยี iAWD รองรับการขับขี่ทั้งออนโรดและออฟโรด ส่งผลทำให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที

Land Rover Defender 130

Land Rover Defender 130

ด้านระบบช่วงล่างเป็นแบบถุงลมไฟฟ้า Adaptive Dynamics ที่จะช่วยยกตัวรถเพิ่มเติม 71.5 มม. ที่ด้านหน้า ขณะที่ด้านหลังจะยกขึ้น 73.5 มม. ที่ช่วยสามารถให้วิ่งลุยได้ในเส้นทางออฟโรด มาพร้อมระบบ Terrain Response® โดยสามารถปรับแต่งการขับขี่ผ่านทางหน้าจอ Pivi Pro อีกทั้งตัวยังลุยน้ำลึดได้ถึง 900 มม. 

Land Rover Defender 130

สำหรับราคาจำหน่าย Land Rover Defender 130 ใหม่ในตลาดเมืองไทย เปิดราคาไว้ที่ 8,999,000 บาท มาพร้อมแพ็กเกจ Land Rover Care 5 ปี ที่ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง