in , , ,

All New GWM TANK 500 Hybrid รถเอนกประสงค์สุดหรู เปิดราคาขายในไทยเริ่ม 2.049 ล้านบาท

เปิดสเปค ภาพจริง และราคาจำหน่าย All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รถเอนกประสงค์สุดหรูรุ่นใหญ่ ขุมพลังไฮบริด 350 แรงม้า กับราคาเริ่มที่ 2.049 ล้านบาท

GWM TANK 500

หลังจากที่ทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เคยนำ All New GWM TANK 500 Hybrid มาโฉมโชว์ในเมืองไทยเมื่อปลายปี 2564 ล่าสดทางผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ All New GWM TANK 500 Hybrid ออกมาแล้ว โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่น คือ ULTRA และรุ่น PRO

เคาะราคาจำหน่ายเริ่มที่ 2.049 ล้านบาท

สามารถเข้าไปดูรีวิวทดสอบได้ที่

All New GWM TANK 500 Hybrid

สำหรับ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV หรือเรียกสั้นว่า TANK 500 นั้นเป็นเอสยูวีพรีเมียมสุดหรูขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งรองรับระบบส่งกำลังได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ ICE, HEV และ PHEV รองรับได้ทั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรและ 3.0 ลิตร

All New GWM TANK 500 Hybrid

ในด้านดีไซน์ถูกออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ตาม DNA ของ TANK ที่เน้นความบึกบึน แกร่ง แต่ยังเปี่ยมไปด้วยความเรียบหรู สง่างาม 

All New GWM TANK 500 Hybrid

All New GWM TANK 500 Hybrid

ด้านหน้าออกแบบภายใต้ปรัชญาของ “ความหรูหราที่แข็งแกร่ง” กระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่ลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า Intelligent LED มาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED

All New GWM TANK 500 Hybrid

All New GWM TANK 500 Hybrid

ด้านข้างตัวรถมาพร้อมกับลายเส้นที่เรียบง่าย แต่สะท้อนถึงพลังที่ดูแข็งแกร่ง เติมความหรูหราอลังการด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20 

TANK 500 HEV

ดีไซน์ด้านหลัง ออกแบบภายใต้แนวคิดออฟโรด ด้วยประตูท้ายแบบ horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้า ที่ช่วยผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้าย พร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่ได้อย่างลงตัว

TANK 500 HEV

ชุดไฟท้าย Vertical LED ดีไซน์โดดเด่นในแนวตั้ง มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอกแบบ LED ขณะที่ในส่วนหลังคาซันรูฟมาในแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ เปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมราวหลังคาเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เสาอากาศแบบ shark fin และสปอยเลอร์ท้าย ซึ่งช่วยในเรื่องแอร์โรไดนามิค

TANK 500 HEV

เพิ่มความสะดวกสบายเมื่อขึ้นลงภายในรถด้วยบันไดข้างไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดประตู

TANK 500 HEV

ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความกว้าง 1,934 มม., ยาว 5,078 มม., สูง 1,905 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,850 มม. 

TANK 500 HEV

ด้านภายในห้องโดยสารออกแบบภายในสไตล์ Luxury ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา กว้างขวาง สะดวกสบาย คอนโซลหน้าสีทูโทน เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง NAPPA

TANK 500 HEV

เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าฝั่งผู้ขับ ปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat ส่วนฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับได้ 6 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ มาพร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า, ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า, ระบบระบายอากาศ

TANK 500 HEV

เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 พร้อมหน้าจอควบคุมระบบระบายอากาศและเบาะระบายอากาศ อีกระดับของความสบายด้วยที่พักแขนตอนกลาง ม่านบังแดด และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

TANK 500 HEV

เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 พร้อมพนักพิงปรับไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกด้วยตำแหน่งปรับพนักพิงบริเวณข้างประตูผู้โดยสารแถวที่ 2 และประตูท้าย

 TANK 500 HEV

TANK 500 HEV

TANK 500 HEV

ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีขนาดใหญ่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 และเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับเรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่และความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระ

TANK 500 HEV

TANK 500 HEV

แผงแดชบอรฺ์ดจะได้รับการติดตั้งหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมหน้าจอ HUD ที่สะท้อนไปยังกระจกบังลงหน้า อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, Bluetooth, ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ

TANK 500 HEV

พวงมาลัยมังติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง มาพร้อม Paddle Shift เสริมความหรูหราด้วยไฟ Ambient light และนาฬิกาแบบคลาสสิกที่อยู่ระหว่างช่องปแอร์ด้านหน้า 

TANK 500 HEVTANK 500 HEV

คอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มาพร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่แบบออฟโรด และเกียร์แบบ Electronic Shifter ดีไซน์หรู สีเดียวกับแผงคอนโซล

TANK 500 HEV

ด้านชุดอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารที่จะได้รับ เครื่องเสียงพร้อมลำโพง Infinity 12 ตำแหน่ง มากับระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ, ระบบเปิด-ปิดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้และออกห่างจากรถ, กุญแจ Smart Key, ปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เป็นต้น

All New GWM TANK 500 Hybrid

ในด้านพละกำลังจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 350 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 616 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์แบบ DHT มาพร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 11 รูปแบบ

All New GWM TANK 500 Hybrid

ระบบช่วงล่างกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพื่อความต้องการของทุกคนในครอบครัว

All New GWM TANK 500 Hybrid

มาพร้อมระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Electric Differential Lock for front and rear axles) ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อกของกล่องถ่ายโอนทั้งล้อหน้าและล้อหลัง สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 Locks เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ออฟโรดที่ดีเยี่ยม

นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) หลังจากเปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้

All New GWM TANK 500 Hybrid

สำหรับ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV สเปกประเทศไทยจะมีให้เลือก 2 ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO โดยจะมีเฉดสีตัวรถให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ขาว, ดำ, เทา, แดง และเทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) ส่วนสีภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือกคือสีดำ และแบบทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA)

All New GWM TANK 500 Hybrid

สำหรับราคาจำหน่ายของ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV จะมีดีงนี้ 

  • รุ่น ULTRA ราคา 2,269,000 ล้านบาท
  • รุ่น PRO ราคา 2,049,000 ล้านบาท