หลังจากที่ทาง BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ภายใต้การบริหารของ Rêver Automotive ก็ได้ทยอยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าลงตลาดในไทยอย่างต่อเนืองเริ่มจาก BYD ATTO 3 เอสยูวีไฟฟ้าและตามออกมาด้วยเจ้าโลมาไฟฟ้า BYD Dolphin แฮทข์แบ็กไฟฟ้า 5 ประตู
ล่าสุดทางเวเร่ ออโตโมทีฟ ก็เสริมทัพรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ด้วยเจ้าแมวน้ำไฟฟ้าตัวแรง BYD SEAL ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบรถซีดานสุดพรีเมี่ยม คันแรกในตลาดเมืองไทย
โดย BYD SEAL (บีวายดี ซีล) เป็นหนึ่งในตระกูล Ocean Series ที่ประกอบไปด้วย BYD Seagull, BYD Dolphin, และ Sea Lion โดยสเปคที่เปิดตัวในไทยจะมีทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีให้เลือก 3 รุ่น Dynamic, Premium, AWD Performance เปิดราคาจำหน่ายระหว่าง 1,325,000 – 1,599,000 บาท
ดีไซน์ตัวรถจะมากับความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้านหน้ารถจะแบบ X-SHAPED DESIGN เปิดวิสัยทัศน์ที่กว้างกว่ากับหลังคากระจกที่ทอดยาวทั้งห้องโดยสาร
ชุดไฟหน้า LED แบบ Double-U Floating เส้นสายด้านข้างตัวรถดีไซน์เน้นความเพรียวบาง มือจับประตูออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ ขณะที่หลังคาด้านท้ายลาดเทเหมือนรถในรูปแบบคูเป้ ที่ช่วยลดแรงต้านอากาศ ทรงผลทำให้ BYD SEAL มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียงอยู่ที่เพียง 0.219 Cd
กระจกมองข้างทรงหยดน้ำที่สามารถปรับองศาอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 -19 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย)
ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบเรียวยาวเป็นแบบชิ้นเดียวประกอบด้วยไฟรูปหยดน้ำเรียงเป็นชั้น มาพร้อมกันชนท้ายขนาดใหญ่ตกแต่งทั้ง 2 ข้างด้วยดีไซน์โครงแบบรถแข่ง ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้ามาพร้อมระบบป้องกันการหนีบอัจฉริยะ ตั้งระดับความสูงได้ตามความต้องการ
เสริมความหรูหราดูแพงด้วยหลังคากระจกพาโนรามิก 2 ชั้น เคลือบด้วย Silver-plated ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.9 ตรม.
มิติขนาดตัวรถมีความยาว 4,800 มม., กว้าง 1,875 มม., สูง 1,460 มม. ระยะฐานล้อ 2,920 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 120 มม.
ภายในห้องโดยสารมาในโทนสีดำ เบาะนั่งทรงสปอร์ต ที่มากับระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับ + เบาะนั่งคนขับเลื่อนอัตโนมัติเมื่อสตาร์ท เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, เบาะฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มีระบบระบายอากาศ และระบบอุ่นเบาะ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มีอยู่ในทุกรุ่น รุ่น Premium & AWD Performance เบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Courtesy ฝั่งคนขับมีระบบปรับดันหลังได้ 4 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง ขณะที่เบาะนั่งด้านหลังรองรับได้ 3 ตำแหน่ง พร้อมปรับพับแยกได้แบบ 40/60
แผงแดชบอร์ดมากับหน้าจอสัมผัสแบบหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว รองรับทั้ง CarPlay และ Android Auto, หน้าจอแสดงข้อมูล LCD ขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอ HUD ที่สะท้อนข้อมูลการขับขี่ไปยังกระจกบังลมหน้า
คอนโซลกลางติดตั้งหัวเกียร์ไฟฟ้าแบบคริสตัล, แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย 2 ช่อง ชุดเครื่องเสียง HIFI Dynaudio Audio มาพร้อมชุดลำโพง 12 ตัว , ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบกรอง PM2.5 และช่องแอร์ที่ด้านหลัง
BYD SEAL ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ท e-platform 3.0 มีให้เลือก 3 รุ่น
- รุ่น Dynamic มากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ล้อหลังให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที มากับแบตเตอรี่ Blade ขนาด 61.44 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 510 กม.ตามมาตรฐาน NEDC
- รุ่น Premium RWD มากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ล้อหลังให้กำลัง 230 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที แบตเตอรี่ Blade ขนาด 82.56 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 650 กม.ตามมาตรฐาน NEDC
- รุ่น Performance มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว คู่หน้าให้กำลัง 214 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ส่วนคู่หลังให้กำลัง 390 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ให้กำลังรวม 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Blade ขนาด 82.56 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกลสุด 580 กม.ตามมาตรฐาน NEDC
โดยทั้ง 3 รุ่น รองรับการชาร์จเร็ว DC ให้กำลังไฟ 30-80% ในเวลา 30 นาที และรองรับการชาร์จ AC แบบ Type 2 รองรับกำลังไฟสูงสุด 7 kW และทุกรุ่นยังมีเทคโนโลยี V2L รวมทั้งยังมาพร้อมกับ Regenerative Braking
ราคาจำหน่ายของ BYD SEAL
- รุ่น Dynamic ราคา 1,325,000 บาท
- รุ่น Premium RWD ราคา 1.449,000 บาท
- รุ่น Performance ราคา 1,599,000 บาท
