เรเว่ ออโตโมทีฟ หลังจากที่เปิดตัว BYD Dolphin รถยนต์ไฟฟ้า 100% สเปกพวงมาลัยขวาครั้งแรกในโลกที่ไทยในงาน Motor Show 2023 ล่าสุดเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ Dolphin Standard Range ราคา 699,999 บาท และ Dolphin Extended Range ราคา 859,999 บาท (หลังได้ส่วนลดโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า จากทางรัฐบาล)
สำหรับงานออกแบบตัวรถของ BYD Dolphin จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากความปราดเปรียวของโลมา ตามชื่อรุ่น ด้านหน้าจะมากับกระจังแบบปิดทึบสีดำพร้อมตีตรา BYD ไว้ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบหน่วงเวลาการปิดไฟหน้า Follow Me Home, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED
ด้านข้างตัวรถมาในแบบหรูาในรูปแบบรถสไตล์แฮทช์แบค 5 ระตู ตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยวัสดุชิ้นงานสีดำ รับกับชุดล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว ในรุ่น Standard Range ส่วนในรุ่น Extended Range จะมีขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะที่นั่งแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ต หุ้มด้วยนหนังสังเคราะห์ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทางในฝั่งผู้ขับขี่ ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
โดยในส่วนเบาะนั่งด้านหน้าแบบมีรูระบายอากาศ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้านแบบท้ายตัด, มือจับเปิดประตูด้านในออกแบบคล้ายครีบของโลมา, เบาะนั่งด้านหลังพับแยกแบบ 60:40 โดยมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระท้ายรถสามารถจัดเก็บกระเป๋าเดินทางขนาด 30 นิ้ว ได้ 1 ใบและขนาด 20 นิ้ว ได้ 2 ใบ
แผงแดชบอร์ดตจิดตั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว และหน้าอินโฟเทนเมนท์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถหมุนปรับให้เป็นแนวตั้งแนวนอนได้ด้วยไฟฟ้า รับรองฟังก์ชัน Navigator และ Music Streaming รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay® (USB) รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงเป็นภาษาไทย / อังกฤษ
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในที่จะได้รับ ช่องจ่ายไฟ 12V ที่คอนโซลกลาง, ช่อง USB-A และ USB-C สำหรับผู้โดยสารหน้าและหลัง, กุญแจแบบคีย์การ์ด พร้อมระบบ Keyless Entry และ Keyless Start, ระบบเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5, กระจกมองหลังปรับแสงได้, ชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สาย และหลังคาแบบ Panoramic Roof
สำหรับระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ BYD Dolphin EV จะได้รับ ระบบป้องกันลื่นไถลขณะขับขี่, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ, ระบบเตือนก่อนเปิดประตู, กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนการชนด้านหลัง, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยควบคุมเมื่อรถออกจากเลน, ระบบช่วยควบคุมรถฉุกเฉินเมื่อรถออกจากเลน, ระบบเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรก, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนรุ่น Standard Range จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ที่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 70 kW หรือ 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 12.3 วินาที ตัวรถมาพร้อมความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม.
มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนฟอสเฟต ขนาดความจุ 44.9 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง ระยะทางขับขี่ 410 กม. ตามมาตรฐาน NEDC รองรับชาร์จไฟ DC สูงสุด 60 kW ระบบกันสะเทือนหน้า MacPherson Strut ขณะที่ระบบช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam
ขณะที่ในรุ่น Extended Range จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 150 kW หรือให้พละกำลังสูงสุดที่ 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่่ 160 กม./ชม.
ด้านแบตเตอรี่ความจุ 60.148 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 490 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson Strut ขณะที่ด้านหลังจะเป็นแบบ Multi-link Beam
ด้านการชาร์จไฟทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมด้วยหัวชาร์จ AC Type 2 ขนาด 7 kW และพอร์ตชาร์จ DC ขนาด 60 และ 80 kW ตามลำดับ ที่ให้การเพิ่มระดับแบตเตอรี่จาก 30 – 80% ในเวลาเพียง 29 นาที อีกทั้งยังมีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (VtoL) ที่สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2000w ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้
สำหรับราคาจำหน่าย BYD Dolphin สเปคประเทศไทย
- รุ่น Standard Range ราคา 699,999 บาท (ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ)
- รุ่น Extended Range ราคา 859,999 บาท (ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ)
