BYD Dolphine เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ที่มาในรูปแบบ 5 ประตู ขนาดเล็กอีกหนึ่งรุ่นที่ทาง BYD ประเทศไทยได้นำเข้ามาจัดแสดดง ที่ภายในงาน Motor Expo 2022 เมื่อต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา และข่าวว่าจะได้รับการเปิดตัวในบ้านเราที่เมืองไทย ในปี 2066 หรือปีหน้านี้
สำหรับ BYD Dolphine ถูกเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ในจีนเมื่อปี 2021 ที่ในงาน Shanghai Auto Show 2021 ซึ่งในขณะนั้นใช้ชื่อว่า EA1
ล่าสุดก่อนที่จะเปิดตัววางจำหน่ายในไทยจากกระแสข่าวที่ถูกปล่อยออกมา ทาง BYD ใสนประเทศบ้านเกิดเมืองจีนนั้นก้ได้เปิดตัว BYD Dolphin MY2023 ใหม่ โดยในรุ่นนี้จะได้รับการ ปรับปรุงและอัปเกรด ใหม่เพิ่มเติมจากรุ่นแรก ซึ่งในรุ่นปรับใหม่ที่จะเปิดวางจำหน่ายในเมืองจีนนี้ จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายที่ 116,800 – 136,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.8 – 6.8 แสนบาท โดยจะมีราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นที่ผ่านมาเล็กน้อย
Dolphin เป็นรถยนต์ BYD คันแรกที่ออกแบบภายใต้ภาษาการออกแบบ “Marine Aesthetics” โดยมีเส้นสายที่ไหลลื่นแต่มีความเฉียบคมในเวลาเดียวกัน โดยได้รับการออกแบบจากทาง Wolfgang Egger ที่เป็นหัวหน้านักออกแบบของ BYD
ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกนั้นยังคงเหมือนเดิม ด้วยการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากความปราดเปรียวของโลมา ตามชื่อรุ่น โคมไฟหน้า LED มาพร้อม DRL โดยเสน่ห์ของ Dolphin EV คือเส้นสายบนตัวถัง ที่สื่อสารถึงอารมณ์ที่พร้อมจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา ขณะที่ตรงกลางจะมากับกระจังแบบปิดทึบสีดำพร้อมตีตรา BYD ไว้ตรงกลาง ด้านข้างตัวรถมาตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยวัสดุชิ้นงานสีดำ รับกับชุดล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 – 17 นิ้ว
ขณะที่สีตัวถังนั้นจะเพิ่มเฉดสีใหม่ โดยจะมีเลือกทั้งแบบโมโนโทน และทูโทน ได้แก่ สีชมพู Pupu Pink, สีเทา Beibei Grey, สีน้ำเงิน Surfing Blue, สีเทา Altantis Grey, สีดำ Black Pupu, สีเหลือง Cheese Yellow (สีที่เพิ่มใหม่) และสีม่วง Taro Purple (สีที่เพิ่มใหม่)
ภายในห้องโดยสารยังคงตกแต่งด้วยความล้ำสมัยเช่นเดิม เบาะที่นั่งแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้านแบบท้ายตัด แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอข้อมูลแบบดิจิทัลขนาด 5 นิ้ว มาพร้อมหน้าอินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถหมุนปรับให้เป็นแนวตั้วงแนวนอนได้ คอนโซลกลางมีที่วางแก้วสองช่อง พร้อมแท่นชาร์จสมาร์ตโฟน ปิดท้ายด้วยความหรูหราตามแบบฉบับรถจากเมืองจีนด้วยหลังคาแบบ Panoramic Roof
สำหรับสิ่งที่อัปเกรดเพิ่มเติมของ BYD Dolphin MY2023 ในตลาดเมืองจีนคือ จะได้รับการติดตั้งระบบการตรวจสอบแรงดันลมยางแบบเรียลไทม์, เบาะคู้หน้ามากับระบบอุ่น, เบาะที่นั่งผู้โดยสารปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง ขณะที่ฝั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง, ที่เท้าแขนตรงกลางด้านหลังมาพร้อมที่วางแก้ว 2 ช่อง, เซนเซอร์จอดรถที่ด้านหน้า, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
อีกทั้งในโหมดการขับขี่ทาง BYD ยังได้เ้พิ่มโหมด Comfort เข้ามาเพิ่มเติมจากเดิมที่มีเพียงโหมดประหยัดพลังงาน, Snow และโหมด Sport
สำหรับ BYD Dolphin MY2023 ยังคงถูกสร้างขึ้นบนแพล็ตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า e-platform 3.0 โดยเวอร์ชันที่วางจำหน่ายในเมืองจีน จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้เลือก 2 ขนาด คือ 70kW หรือประมาณ 93 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 180 นิวตันเมตร ส่วนอีกรุ่นจะมีขนาด 130kW หรือ 175 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร ตัวรถสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.5 – 10.9 วินาที ตามลำดับ ขณะที่ความความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 160 กม./ชม.
สำหรับแบตเตอรี่เป็นแบบ BYD LFP Blade ขนาดความจุ 44.9 kWh ทชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 401 – 420 กม. 401 กม. ตามลำดับ และรองรับการชาร์จเร็วขนาด 60kW
BYD Dolphin MY2023 รุ่นอัปเกรดใหม่นี้ จะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 116,800 – 136,800 หยวน หรือคิดเ้ป็นเงินไทยอยูที่ประมาณ 5.8 – 6.8 แสนบาท
ส่วน BYD Dolphin ที่จะเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราปีหน้านี้ จะเป็นรุ่นไหนเวอร์ใหม่นี้หรือเปล่านั้น ต้องติดตามกันให้ดี
