BYD แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน โดยมี บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย เดินหน้าสานต่อความร้อนแรงของรถยนต์ไฟฟ้าในสักัดอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ก่อนนี้ได้เปิดตัว BYD ATTO 3 พร้อมสร้างปรากฎการณ์ด้วยยอดจอง และยอดจำหน่ายแบบถล่มทลาย ต่อจากนั้นก็ปล่อยตัวรุ่นที่ 2 อย่าง BYD Dolphin แฮทข์แบ็กไฟฟ้า 5 ประตู ต่อออกมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดทางบีวายดี พร้อมสานต่อความร้อนแรงของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการเตรียมเปิดตัว BYD SEAL ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบรถยนต์ซีดานสุดพรีเมี่ยม หลังจากที่เคยนำมาโชว์โฉมแล้วในไทยเมื่อในงาน Motor Expo และงาน Motor Show เมื่อปีที่ผ่านมา
โดยทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้จัดจำหน่าย BYD ในประเทศไทย เตรียมเปิดตัว และประกาศราคาจำหน่ายของ BYD SEAL ในตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กันยานยน 2566 ที่จะถึงนี้ ซึ่งก่อนที่จะเป็นพบเจอตัวจริง ทางทีมงาน Autostation.com มีข้อมูลรายละเอียดบางส่วนของ ว่าที่ซีดาน 4 ประตู ไฟฟ้าคันแรกของประเทศไทยมาบอกแฟน ๆ กันก่อน (โดยจะอิงจากเวอร์ชันที่เปิดตัวในประเทศจีน) ซึ่งคาดว่าคงจะใกล้เคียงกัยสเปคที่จะนำมาขายในบ้านเรา
สำหรับ BYD SEAL เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบซีดานขนาดกลาง 4 ประตู ถูกสร้างขึ้นบน e-platform 3.0 ที่มาพร้อมแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า Ocean-X โดยจะเป็นหนึ่งในตระกูล Ocean Series ที่ประกอบไปด้วย BYD Seagull, BYD Dolphin, และ Sea Lion
ในด้านมิติตัวรถมีความยาวอยู่ที่ ความยาว 4,800 มม., กว้าง 1,875 มม.,สูง 1,460 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,920 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับ Tesla Model 3 ที่จัดว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า
ในด้านการออกแบบมาในแบบสปอร์ตที่มีรูปทรงเรียบ โฉบเฉี่ยวตั้งแต่หน้าจรดท้าย เส้นสายตัวถังที่ถ่ายทอดจาก Ocean-X concept ที่ได้สร้างรูปลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนความหรูล้ำ และไดนามิกในทุกมุมมอง ชุดไฟหน้า LED เป็นรูปตัว C ฝากระโปรงหน้าโค้งรับกับในส่วนชุดไฟหน้า
เส้นสายด้านข้างตัวรถดีไซน์เน้นความเพรียวบาง มือจับประตูออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ หลังคาด้านท้าญลาดเทเหมือนรถในรูปแบบคูเป้
ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบเรียวยาว ดูล้ำทันสมัยแบบฉบับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ด้านท้าย มาพร้อมกันชนท้ายขนาดใหญ่ ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนออกแบบลวยลายคล้ายใบพัด ที่ออกแบบให้สอดรับกับระบบแอร์โรไดนามิคทรงผลทำให้ BYD SEAL มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียงอยู่ที่เพียง 0.219 Cd
ภายในห้องโดยสาร ดีไซน์ให้มีจิตวิญญาณเหมือนอยู่ในมหาสมุทร อาทิช่องระบายอากาศของ Seal มีลวดลายเป็นคลื่นและตกแต่งด้วยขอบสีน้ำเงิน ในส่วนเบาะนั่ง และแผงประตูรวมถึงคอนโซลกลางและคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียมสีขาว
แผงแดชบอร์ดโดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟรเทนเมต์เหมือนแท็บเล็ตขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนได้ มาพร้อมหน้าจอ LCD ทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาด 10.25 นิ้ว วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นลาย 3 ก้าน ท้ายตัด หุ้มด้วยหนังสีดำ ระบบเครื่องเสียงเวอร์ชั่นในจีนจะมากับชุด้ครื่องเสียงของ Dynaudio พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
ในส่วนเบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมกับระบบปรับความร้อน และระบายอากาศ ปิดท้ายด้วยหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ BYD SEAL เวอร์ชั่นในตลาดเมืองจีนนั้น มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่หมุนคู่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าเดียว/ขับหลัง 310 แรงม้า
นอกจากนั้นยังมีในรุ่นเรื่อธงที่ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนแบบ AWD โดยมอเตอร์ที่อยู่คู่ล้อหน้าจะให้กำลัง 204 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ที่อยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 310 แรงม้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 530 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที ซึ่งทั้งหมดจะส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ซิงเกิลสปีด
สำหรับแบตเตอรี่จะที่ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี CTB (Cell-To-Body) การรวมแบตเตอรีเข้ากับตัวรถ มีขนาดที่แตกต่างกันไปแต่ละรุ่นย่อย 61.4 kWh – 82.5 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 550 – 700 กม.
มาพร้อมระบบ Fast Charge DC ขนาด 110 kW ที่ชาร์จไฟจาก 30-80% ในเวลาเพียง 30 นาที นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับปลั๊กไฟ 220 V เพื่อจ่ายพลังไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอก
สำหรับราคาค่าตัวของ BYD SEAL ในเมืองจีนนั้นจะมีราคาจำหน่ายเริ่มที่ 222,274 – 286,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 1.1 -1.5 ล้านบาท
ส่วนสเวอร์ชั่นเมืองไทย จะนำสเปคแบบไหนมาใช้ รวมทั้งจะเปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่เท่าไหร่ 28 ก.ย. 2566 นี้ ได้ทราบกันอย่างแน่นอน ซึ่งทางทีมงาน Autostation.com จะนำเสนอรายละเอียดให้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อซีดานไฟฟ้ารุ่นแรกในตลาดเมืองไทยถูกเผยโฉมออกมา