Inchcape ผู้แทนจำหน่าย Jaguar – Land Rover ในประเทศไทย เปิตตัว Land Rover Defender OCTA เอสยูวีออฟโรดสายลุย ขุมพลัง Mild-hybrid ที่มากับขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตรทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังมากถึง 635 แรงม้า โดย Defender OCTA Edition One จะเป็น Defender ที่แรง ทรงพลัง และเร็วที่สุดเท่าที่ทางแลนด์โรเวอร์เคยมีมา โดยทางอินช์เคปเปิดราคาค่าตัวไว้สำหรับผู้ที่หลงใหลใน DNA แห่งความแกร่งดุดัน ผสานภาพลักษณ์ที่หรูหราเหนือระดับ และสมรรถนะขั้นสูงสุดอย่างไร้ขีดจำกัด ไว้ที่ 22,000,000 บาท
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ภายนอกจะมีความแตกต่างจากรุ่น Defender รุ่นมาตรฐาน โดยจะมากับลุคที่มีความดุดันมากยิ่งกว่า
ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ครีบระบายอากาศบนฝากระโปรง และช่องดักลมตรงบังโคลนหน้า กันชนหน้าที่ขยายขนาดช่องดักลมให้ใหญ่ขึ้น มาพร้อมตะขอสีเหลืองทอง อีกทั้งยังออกแบบให้มีมุมไต่ และมุมจากที่มากกว่ารุ่นปกติ
เส้นสายด้านข้างตัวถังปรับให้มีความโหด ด้วยการขยายความกว้างของซุ้มล้อทั้ง 2 ข้าง ขเพื่อให้รองรับยางออฟโรดขนาดหน้ากว้าง มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว Style 1086 สี Diamond Turned Satin Dark Tint พร้อมคอนทราสต์สีดำ Satin ที่รัดด้วยยาง All-Terrain ขนาด 275/60 ของทาง Goodrich
ด้านหลังติดตั้งไฟท้ายคู่แนวตั้ง LED พร้อมไฟตัดหมอกหลัง มาพร้อมยางอะไหล่ที่ฝาท้าย และกันชนหลังออกแบบใหม่ ให้ดุด้วยสีเดียวกับตัวรถ พร้อมตะขอลากรถคู่สีเหลืองทอง ส่วนปลายท่อไอเสียมาในทรงเหลี่ยม
ในด้านขนาดมิติตัถังจะมีความยาว 4,813 มม. (5,003 มม. รวมยางอะไหล่) กว้าง 2,064 มม. สูง 1,995 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,023 มม.
ภายในห้องโดยสารก็จะแตกต่างจาก Defender รุ่นมาตรฐาน โดย Defender OCTA Edition One จะมาในโทนสีน้ำตาลกากี/ไม้มะเกลือ ด้านตัวเบาะที่นั่งเป็นแบบ Performance Seats ใหม่ที่ยกปีกมาให้กระชับมากขึ้น และมีพนักพิงศีรษะตายตัว พร้อมหุ้มด้วยวัดสุหนัง Ultrafabrics™ แบบเจาะรูสีสีน้ำตาลกากี/ไม้มะเกลือ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบเครื่องเสียงชุดใหม่ Body and Soul Seat Audio ที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกใน Defender พร้อมระบบคำสั่งเพื่อความผ่อนคลาย Wellness 6 แบบ
แต่ไฮไลท์จุดเด่นของ Defender OCTA Edition One นั้นไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ด้านนอก หรือภายในห้องโดยสาร แต่อยู่ที่เครื่องยนต์ฝาใต้ฝากระโปรง กับระบบช่วงล่างที่ปรับเซทใหม่แบบยกชุด
โดยพละกำลัง Defender OCTA Edition One จะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ Twin Turbo Mild-hybrid V8 ขนาด 4.4 ลิตร ที่ให้กำลังมากถึง 635 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร โดยมีแรงบิดสูงสุดให้ใช้ตั้งแต่การทำงานของเครื่องยนต์ 1,800 รอบ/นาทีถึง 6,000 รอบ/นาที
อีกทั้งยังสามารถปลดล๊อคเพิ่มแรงบิดได้มากถึง 800 นิวตันเมตร ได้ด้วย Dynamic Launch Mode ส่งกำลังด้วยชุ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive ช่วยให้ตัวรถมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ 250 กม./ชม. ซึ่งทำให้รถคันนี้กลายเป็น Defender ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา
นอกจากพละกำลังของ Defender OCTA ที่ว่าแรง และจัดจ้านแล้ว ทางแลนด์โรเวอร์ ยังได้ปรับเซทระบบช่วงล่างใหม่ เพื่อให้รองรับการพละกำลังที่มากขึ้น โดยเอสยูวีสายลุยตัวใหม่นี้ ได้ปรับความสูงของตัวรถเพิ่มขึ้น 28 มม. รวมทั้งยังขยายระยะฐานล้อซ้ายขวาออกไปอีก 68 มม.
ซึ่งจากความสูงที่เพิ่มขึ้นทาง Land Rover ได้ติดตั้งวิชโบนที่มีความยาวมากขึ้น และแข็งแกร่งมากขึ้น รวมไปถึงใช้เทคโนโลยีช่วงล่าง 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้แดมเปอร์เซมิ-แอคทีฟไฮดรอลิกอินเตอร์ลิงก์แปรผันต่อเนื่อง ซึ่งถูกระบุว่าช่วงลดการเอียง และโคลงของรถบนถนนพร้อมกับช่วยให้การลุยออฟโรดดีมากกว่าเดิม
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบตรวจจับลักษณะพื้นผิวอัตโนมัติ รววมทั้งผู้ขับขี่ยังสามารถปรับการตั้งค่าพวงมาลัย / คันเร่ง และระบบกันสะเทือนได้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ใหม่ที่เรียกว่า ‘OCTA‘ โดยในโหมดนี้จะมีการเปิดใช้งานการควบคุม Off-Road Launch และ ABS เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นบนเส้นทางออฟโรด ทั้งยังควบคุมทำงานของระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และระบบช่วยควบคุมการทรงตัวให้ทำงานต่ำที่สุด รวมไปถึงปรับแต่งระบบ ABS เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทั้งยังลุยน้ำได้ลึกสุด 1 เมตร
ขณะที่ในโหมดอื่น ๆ อย่าง Terrain Response รวมถึงโหมด Sand, Mud และ Ruts, Grass Gravel Snow และ Rock Crawl ก็ยังคงมีให้เลือกใช้เหมือนกับ Defender รุ่นอื่นๆ
สำหรับ Land Rover Defender OCTA Edition One ที่เปิดตัวในไทยจะมากับสีตัวถังที่เป็นสีเขียว Faroe Green มาพร้อมหลังคาสีดำเงา Narvik Black
โดยทาง Inchcape ผู้แทนจำหน่าย Jaguar – Land Rover ในประเทศไทย เปิดราคาจำหน่าย OCTA Edition One ไว้ที่ 22 ล้านบาท โดยสามารถเข้สาไปชมและสัมผัสสุดยอดดีเฟนเดอร์ออฟโรดเต็มสมรรถนะ ได้ที่โชว์รูมแลนด์โรเวอร์ สยามพารากอน