หลังจากที่ Lexus LBX ได้เปิดตัวเผยโฉมเต็มไปแล้วที่ในตลาดยุโรปเมื่อช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง เลกซัสประเทศไทย ที่อยู่ภายใต้การบริหารของทาง Toyota Motor ประเทศไทย ได้ใช้เวทีที่งาน Motor Show 2024 เปิดตัวครอสโอเวอร์ขนาดเล็กขุมพลังไฮบริดอย่างเป็นทางการ โดยจะมีให้เลือก 2 เกรด คือ Luxury และ Premium เคาะราคาจำหน่ายเริ่มที่ 2,229,000 บาท
สำหรับ The All-New Lexus LBX จะเป็นรถยนต์พลังงานไฮบริด ที่ได้รับการพัฒนาไหม่ให้ความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอก ภายในห้องโดยสารเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มาพร้อมระบบความปลอดภัยระดับโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอก ภายในห้องโดยสารเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มาพร้อมระบบความปลอดภัยระดับโลก
โดยการเปิดตัวของ Lexus LBX ถูกเผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ประเทศอิตาลี ในฐานะรถยนต์ Sub Compact Crossover ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐาน TNGA Platform เหมือนกับตัว Toyota Yaris Cross
โดยชื่อรุ่น LBX จะย่อมาจากคำว่า Lexus Breakthrough Crossover โดยจะเป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมาในไลน์อัพของเลกซัส โดยตัวรถมีความยาว 4,190 มม. ความกว้าง 1,825 มม. ความสูง 1,545 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,580 มม.
ด้านงานดีไซน์ถูกออกแบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Premium Casual” ที่เรียบหรู และโดดเด่นด้วย “Resolute Look” การออกแบบภายนอกที่สะท้อนบทใหม่ของเลกซัส และแสดงถึงตัวตนของ LBX ได้อย่างชัดเจน
กระจังหน้ามาในแบบ Spindle Grille ดีไซน์ลวดลายด้านให้เป็นรังผึ้งสีดำ ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าขนาดเล็กที่ดูสปอร์ต เข้าชุดกับฝากระโปรงหน้าที่สั้น
ขณะที่ด้านข้างตัวรถจะดีไซน์ด้วยความเรียบง่าย เสริมมาคลุนรถสายลุยด้วยขอบซุ้มล้อดำ ส่วนชุดล้อจะมีขนาด 17 – 18 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย) มาพร้อมคิ้วกันกระแทกสีดำที่ประตู พร้อมตกแต่งเสา A- C-pillar ด้วยเฉดสีดำเงา รับกับหลังคาสีดำอย่างลงตัว
ส่วนด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้ายที่วาดพาดยาวเต็มพื้นที่ตามแบบสมัยนิยม มาพร้อมช่องระบายอากาซแบบลอกตา พร้อมชุดท่อไอเสียแบบซ่อน
ในด้านมิติตัวรถจะมีความยาว 4,190 มม. ความยาว 1,825 มม. ความสูง 1,560 มม. มาพร้อมระยะฐานล้อยาว 2,580 มม.
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีควาหรูหรา ผสานกับความล้ำสมัยอย่างลงตัว โดยถูกออกแบบด้วยแนวคิด “Tazuna Concept” ที่ได้แรงบันดาลใจจากความเชื่อมโยงระหว่างผู้ขี่ม้าและสายควบคุมม้า คอนโซลหน้าจะได้รับการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลผู้ขับมีขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมมาหน้าจอ HUD
คอนโซลกลางออกแบบให้มีความลาดเอียงเชื่อมต่อกับคอนโซลหน้า พร้อมติดตั้งหน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสที่มีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay ไร้สาย และ Android Auto มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงเพียงพูดว่า “Hey Lexus” อีกทั้งยังรองรับระบบ Digital Key และการอัปเดท Over-the-Air
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Semi-Aniline สำหรับรุ่น Premium และ Synthetic Leather สำหรับรุ่น Luxury โดยเบาะที่นั่งฝั่งผู็ขับปรับไฟฟ้ามาพร้อมฟังก์ชั่นจดจำตำแหน่ง Driver Seat Power 8-way Adjuster with Memory นอกจากนั้นเบาะคู่หน้ายังมาพร้อมเระบบทำความร้อน Seat Heater เบาะด้านหบลังปรับพับแบบแยกส่วน 60:40
พวงมาลัยหุ้มหนังมาพร้อม Paddle Shift สำหรับรุ่น Premium พร้อมหุ้มด้วยหนัง Synthetic Leather สำหรับรุ่น Luxur ด้าหัวเกียร์หุ้มหนัง Leather Shift Lever Knob
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟน, ช่องต่อ USB-C 5 ช่อง และ DC 12 V, ชุดไฟ Ambient Light, ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบแยกอิสระที่นั่งตอนหน้า Dual-Zone และ Lexus Climate Concierge, กุญแจ Smart Entry
ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลิอกการขับขี่จะมากับ มระบบ Lexus Safety System+ 3.0 อาทิระบบกลอนประตูอัจฉริยะพร้อมระบบความปลอดภัยขณะเปิดประตู, ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา,ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ,ระบบป้องกันการลื่นไถล,ระบบเบรคแบบป้องกันล้อล็อคพร้อมกระจายแรงเบรคไฟฟ้า,ระบบช่วยเบรค,ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ สำหรับกระจกหลังและกระจกข้าง,ระบบช่วยจอดพร้อมระบบเบรคอัตโนมัติ,กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด, ระบบเตือนแรงดันลมยาง,ระบบป้องกันก่อนการชน, ระบบติดตามช่องทางการวิ่ง พร้อมเตือนเมื่อรถออกนอกเลน,สัญญานเตือนขณะถอยหลัง,ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, ระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัจฉริยะ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
ในด้านระบบขับเคลื่อนจะมากับระบบไฮบริด ที่เป็นการทำร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 90 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ซิงโครนัส ชนิดแม่เหล็กถาวรที่ให้กำลัง 92 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุดที่ 134 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ E-FOUR ให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.2 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู๋ที่ 170 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาด 4.3 Ah ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 26.32 กม./ลิตร
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam
สำหรับ The All-new Lexus LBX ที่เปิดวางจำหน่ายในไทยจะมีเฉดสีภานอกให้เลือกมากถึง 9 สีได้แก่ สีเทา Sonic Quartz, สีบรอนซ์เงิน Silver Metallic, สีเทา Astro Gray Metallic, สีเทาเข้ม Sonic Chrome, สีดำ Black Mica, สีแดง Red Spinel, สีน้ำตาลแดง Sonic Copper, สีเหลือง Passionate Yellow และสีน้ำเงิน Deep Azure Mica Metallic
ขณะที่สีภายใน เกรด Luxury จะมาในเฉดสี Mauve และสีขาว Solis White ส่วนใน เกรด Premium จะมาใสนเฉดสีน้ำตาลอ่อน Saddle Tan และสีดำ Black โดยจะมีราคาจำหน่ายดังนี้
- Lexus LBX รุ่น Luxury ราคาจำหน่าย 2,229,000 บาท
- Lexus LBX รุ่น Premium ราคาจำหน่าย 2,390,000 บาท
นอกจากนี้ทางเลกซัสยังเปิดราคาพิเศษกั ช่วงแนะนำ The All-new Lexus LBX สำหรับผู้ที่จองระหว่างงานมอเตอร์โชว์นี้เท่านั้น ราคาพิเศษช่วงแนะนำ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- Lexus LBX รุ่น Luxury ราคาช่วงแนะนำ 2,190,000 บาท
- Lexus LBX รุ่น Premium ราคาช่วงแนะนำ 2,350,000 บาท
